"วุฒิสภา" รับหลักการร่างกฎหมายพืชกระท่อม ตั้ง 21 กมธ.พิจารณาให้เสร็จใน 7 วัน "สมศักดิ์" ชี้ จะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ให้เกษตกร ย้ำปลูก-ครอบครอง-ใช้ได้เสรี แต่หากจะแปรขายต้องขออนุญาต

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. .... ที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาลงมติเห็นชอบแล้ว 

โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลได้เสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม เพื่อกำกับดูแลการใช้พืชกระท่อมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการให้ประชาชนใช้ในวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม และพัฒนาต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชน รวมถึงการห้ามนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยสภาผู้แทนราษฎรได้แก้ไขจาก 49 มาตรา เหลือ 41 มาตรา มีวาระสำคัญ คือ 1.การเพาะปลูกไม่ต้องขออนุญาตผู้ใด 2.การนำเข้าและส่งออกใบกระท่อมต้องขออนุญาตจากเลขาธิการ ป.ป.ส.ก่อน 3.ใบอนุญาตหากผู้ครองไม่ทำตามที่กฎหมายกำหนดผู้อนุญาตมีเพิกถอนได้ 4.การนำใบกระท่อมไปแปรรูป หรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยา อาหาร เครื่องสำอาง ต้องไปขอใบอนุญาต หรือทำตามกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า 5.การครอบครอง หรือขายใบกระท่อมนั้น สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เว้นแต่ในบางกรณีและบางสถานที่ เช่น ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ ห้ามขายในสถานศึกษา หอพัก หรือสวนสาธารณะ และห้ามขายโดยใช้เครื่องขาย 6.ห้ามบริโภคน้ำต้มใบกระท่อมที่ผสมยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ วัตถุอันตราย เว้นแต่เพื่อการรักษาโรค หรือเพื่อการวิจัย 7.ห้ามการโฆษณา หรือเชิญชวนให้ประชาชนบริโภคพืชกระท่อมที่ผสมยาเสพติดให้โทษ 8.ให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมการนำเข้า-ส่งออก และการนำใบกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด 9.กำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนการนำเข้าและส่งออกใบกระท่อมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือบริโภคโดยไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 

...

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เดินทางมาถึงวุฒิสภาถือว่าเร็ว เพราะโดยปกติกฎหมายฉบับหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง เพราะการทำกฎหมายต้องบูรณาการกับผู้คนหลายฝ่าย โดยร่าง พ.ร.บ.นี้ ตนอยากกำหนดเรื่องปริมาณการปลูก เพราะขณะนี้ใบท่อมท่อมกิโลกรัมละ 500 บาท หากผู้ปลูกเก็บได้วันละ 3 กิโลกรัม จะมีรายได้วันละ 1,500 บาท ปีหนึ่งจะได้เงิน 540,000 บาท นี่คือพืชเศรษฐกิจที่กำลังจะกลับมา เพราะเราถูกระงับการใช้มา 78 ปี และประโยชน์ที่ได้ เช่น คนล้นคุก ตอนตนมาเป็นรัฐมนตรีใหม่ๆ มีผู้ต้องขัง 380,000 คน ตนดำเนินการในหลายๆ อย่างจนลดไป 100,000 คน เหลือ 280,000 คน คดีกระท่อมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้อยลง ส่วนเรื่องการส่งออกและนำเข้านั้น การควบคุมและขอใบอนุญาตไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้ใคร วันนี้อย่าเพิ่งนึกถึงการส่งออกนำเข้ามากมาย เพราะกว่าจะส่งออกได้อีก 4 ปีข้างหน้า เพราะเรายังไม่ได้ปลูกเลย ที่มีอยู่จะใช้เคี้ยวกันในประเทศก็ไม่พอแล้ว ซึ่งการนำเข้าจะกระทบการปลูกในประเทศ ซึ่งอะไรที่เป็นประโยชน์เราสามารถรับฟังได้ 

จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และลงมติรับหลักการในวาระแรกด้วยคะแนนเสียง 183 ต่อ 1 งดออกเสียง 2 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 21 คน เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ใช้เวลาพิจารณา 7 วัน.