เกมแรง เกมไว รวดเร็วทันใจ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจผู้นำสูงสุด ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูล “สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ”

ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจาก รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจาก รมช.แรงงาน

คิวตัดสินใจของอดีตบิ๊กทหาร ที่อย่างไรก็ยังแตกต่างจากนักการเมือง เมื่ออีกฝั่งเปิดหน้าเล่นโต้งๆ เดินเกมเขย่าอำนาจ ขย่มบัลลังก์นายกฯ “บิ๊กตู่” ไม่มีรั้งรอประนีประนอมเจรจาต่อรอง ลงดาบเชือดทันที

เสือ 1 เด็ดขาด ฉับไว ในปฏิบัติการ 9 เดือน 9 “ปราบกบฏ”

กำจัดเสี้ยนหนาม “หอกข้างแคร่”

จบเกมอำนาจยกแรก “ผู้กองคนดัง” หลุดจากแนวรบไปเรียบร้อย แรงป่วนจะตามมาหรือไม่

กับอีกคิวใหญ่ โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยกฎกติกาเลือกตั้ง กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเลือก ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน จากเดิมที่คะแนนโหวตในวาระแรกผ่านฉลุย ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พร้อมกับวาระซับซ้อนซ่อนเงื่อนของแต่ละพรรคการเมือง

...

สรุปความตามท้องเรื่องเดิม พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.โหวตผ่านร่าง รธน.ท่วมท้น บวกกับแต้มฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ใต้เงา “ลุงโทนี่” หวนอดีตหวานหอม บัตรสองใบเอื้อแต้มบวกชนิด “แลนด์สไลด์”

เลยเกิดปรากฏการณ์ที่ถูกมอง พลังประชารัฐ-เพื่อไทย ฮั้วต่อเนื่อง

ทั้งคิวแก้รัฐธรรมนูญ จนถึงโปรแกรมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ แปรญัตติตีเช็คเปล่า ตัดเงินเข้างบฯกลางให้ผู้นำ พร้อมกับกระแสข่าวถึง “ดีลลับ” ของ “ผู้กองนัส”
ขยับขับเคลื่อนสูตรพิเศษ 2 ค่ายใหญ่จับมือตั้งรัฐบาลรอบหน้า

อีกทางอีเวนต์แก้รัฐธรรมนูญ การเมืองสลับขั้วสลับดอกทุกป้อมค่าย พรรคเล็กในรัฐบาล รวมพลังประชาชาติไทยของ “ลุงกำนัน” กลัวแต้มวูบชนิดเสี่ยงต้องสูญพันธุ์ ค้านแหลกกลับไปใช้กติกาเก่า ขณะที่ค่ายขนาดกลางโดยเฉพาะภูมิใจไทย ได้แต้มฟูจากบัตรเลือกตั้งใบเดียว ไม่เอาด้วยคิวย้อนยุคไปใช้บัตร 2 ใบ

แล้วที่แน่นอน พรรคก้าวไกล ค่ายสีส้มอีพี 2 ต่อจากพรรคอนาคตใหม่ที่โดนยุบ ผงาดแจ้งเกิดได้ ส.ส.ทะลุไปถึง 80 กว่าคน ก็เพราะกติกาบัตรใบเดียว คำนวณทุกแต้มทุกคะแนนเสียง

กลายเป็นหอกสีส้มทิ่มตำคณะลุงๆ และผู้บงการเกมอำนาจทุกวันนี้

วันนี้โปรแกรมใหญ่ รื้อกติกากลับไปใช้บัตรสองใบ อยู่ที่คณะผู้บงการเกมประเทศไทยจะเลือกแก้กติกากระทบกับ 2 ขั้วตรงข้ามอย่างไร หากเลือกใช้บัตรสองใบ ก็เท่ากับหั่นแต้มค่ายสีส้ม ตบห้าวก้าวไกล

กำจัดป้อมค่ายของแรง เล่นลูกแหลมๆ

นั่นก็เท่ากับ เริ่มลดดีกรีแหยง “โทนี่” เลิกกลัวผีแดนไกลกันแล้ว

แต่ถ้าตรงกันข้าม โหวตคว่ำยึดกติกาเดิม ก็เท่ากับยังกลัวเครือข่ายของคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมาผงาด ไม่ยื่นดาบให้ศัตรูต่างแดน นั่นก็ต้องรับสภาพ ก้าวไกลคัมแบ็กมาป่วนอำนาจรอบหน้าต่อไป

อยู่ที่ประเมิน คนแดนไกล-ค่ายสีส้มยังเจนฯ ขั้วไหนอันตราย หลอนจิตมากกว่า
ปัจจัยที่พลิกผันอยู่ที่อาฟเตอร์ช็อกจากคิวโค่นบัลลังก์ผู้นำจนถึงคิวโหวตรัฐธรรมนูญหนนี้ เป็นยกใหม่ศึกย้ายวิกมาวัดกันที่ปัจจัยสำคัญ วัดแต้ม “250 เสียง ส.ว.”

ประลองกำลังกันยกใหม่ในวุฒิสภา

จะเป็นการเขย่ากันเองภายในคณะ 3 ป. ทหารเฒ่า คณะพี่เสือตะวันออก ที่ร่วมวงทำคลอดมาด้วยกันเกือบทั้ง 250 ส.ว. ถึงวันนี้ใครคอนโทรลขุมกำลังหลัก

ลุงรายใดถือดุลอำนาจใหญ่สภาสูง

กับรอยร้าวในวงอำนาจที่เริ่มถี่ห่างยากประสาน ขุมข่ายกำลังที่งัดออกมาเปิดหน้าเล่น
ไม่ใช่แค่ขบเหลี่ยมปีนเกลียว แต่ปะทะกันตรงๆ

ชนิดต้องจับตาสมการการเมือง ดุลอำนาจที่จัดวางใหม่ หลังสงครามยุติ

กระดานอำนาจประเทศไทยจะออกมารูปแบบใด.

ทีมข่าวการเมือง