เกมโค่นนายกฯ ล่มกลางทาง “พี่ป้อม” ไม่ใจแข็งพอทรยศ “น้องตู่” เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ จัดฉากเคลียร์ใจ 3 ป.กอดคอโชว์ปึ้ก ด้าน “ธรรมนัส” ยกมือไหว้ขอโทษ โบ้ยสื่อเป็นแพะปั่นเฟกนิวส์ ยกทีม 60 ส.ส. ตัดพ้อผู้นำไม่เคยดูแล ส.ส.เข้าไม่ถึง “ประยุทธ์” รับปากปรับตัว ฟุ้งพี่น้อง 3 ป. ไม่มีใคร เสี้ยมให้แตกกันได้ มติ พปชร.โหวตอุ้มทางเดียวกัน ไม่มีแตกแถว เลขาฯ พปชร.การันตีนายกฯ แต้มมาที่หนึ่ง แต่ รมต.อื่นไม่ได้เท่ากัน “ชวน” ตั้ง กก.สอบกรณี “วิสาร” ปูดนายกฯ แจก ส.ส.หัวละ 5 ล้าน “บิ๊กตู่” ฮึ่มให้ฝ่าย ก.ม.ดำเนินคดี แจงรูปถุงขนมว่อนเน็ตแค่กระเป๋าเอกสาร “เสกสกล” โยนคนทางไกล ทุ่ม 2 พันล้านล้ม “ลุงตู่” ยื่นสอบจริยธรรม 3 ส.ส. ฝ่ายค้าน ซักฟอกกร่อย พท.ซัด “ชัยวุฒิ” ถลุงงบฯ ฟาดคนเห็นต่างป้องระบอบปรสิต “เฉลิมชัย” โต้ไร้ทุจริตอุ้มเกษตรกรพ้นฝันร้าย
จากกรณีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยอภิปรายระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แจกเงิน ส.ส.คนละ 5 ล้านบาท แลกเสียงโหวตลงมติ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯสั่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ส่วนนายกฯให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดี
...
“ชวน” ตั้ง กก.สอบปม “บิ๊กตู่” แจก 5 ล้าน
เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 3 ก.ย.ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทน ราษฎร กล่าวถึงกรณีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยอภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม แจกเงินให้ ส.ส.ที่ชั้น 3 ของรัฐสภาว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ความสำคัญมาก จึงสั่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส.ส.เป็นภาพลักษณ์การเมืองทั้งหมด และเหตุการณ์ตามที่กล่าวถึงเกิดขึ้นในสภาฯ ฝากถึงผู้กล่าวหาเป็นต้นเรื่องขอความกรุณาให้ความร่วมมือคณะกรรมการสอบสวน แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา ต้องทำเร่งด่วนที่สุดเพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนและหากไม่สอบสวนจะทำให้สังคมติดใจ สงสัยว่าสภาฯเป็นอะไรกันไปแล้ว ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นายชวนจึงต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง
“บิ๊กตู่” ฮึ่มปล่อยไว้ไม่ได้ปูดข่าวเท็จ
เวลา 09.30 น. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือกระดาษเอ 4 เขียนโน้ตจดประเด็นเตรียมมาตอบสื่อมวลชนกรณี ส.ส.ฝ่ายค้านกล่าวหาแจกเงิน 5 ล้านบาทซื้อเสียงโหวต ส.ส.ว่าพูดไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อนมีการกรีดเลือดในสภา โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนอยู่ข้างๆช่วยตอบว่าเขาจะหาเสียงให้ลูกสมัครนายก อบจ.จากนั้นนายกฯกล่าวว่าดูพฤติกรรมแล้วกันแต่ละคน ความน่าเชื่อถือเขากับนายกฯเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามไอ้คนที่ล้มนายกฯเขาก็ต้องการล้มอยู่แล้ว ต้องดูว่านายกฯกับเขาความน่าเชื่อถือมีแค่ไหนมีราคาหรือไม่ที่ผ่านมาทำงานเยอะห่าง ส.ส.มากเกินไป มีอะไรคุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้คุยกับ ส.ส.ที่มาพบตั้งหลายสิบคน เมื่อวันที่ 2 ก.ย.มาแบบเปิดเผยไม่ใช่ไปแอบในส้วมหรือห้องน้ำ ทุกคนยืนยันว่าอยู่กับนายกฯ อย่าไปหวั่นไหวด้วย
คำพูดคนนั้นคนนี้ จะเดือดร้อนวุ่นวาย ไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวายช่วงอภิปราย เมื่อถามว่ามีขบวนการคนต่างประเทศมาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่รู้สิเอาในประเทศก่อน
ลั่นพี่น้อง 3 ป. ไม่มีใครทำแตกกันได้
นายกฯกล่าวว่าอยากกราบเรียนทุกคนและสื่อ ไม่มีใครมาทำลายตนได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ “ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมาชายแดนท่ามกลางสนามรบผมก็อยู่ด้วยกันมา และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่มารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกันและโตขึ้นมายังคบ เคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้ง 2 คนได้สั่งสอนผมมา จะสอนมาให้ผมทุจริตโกงไม่มี ทั้ง 3 คนไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดของผมไว้แล้วกัน”
เด็กมีปัญหากับผู้ใหญ่เดี๋ยวแก้เอง
เมื่อถามว่าวันนี้มีคนเสี้ยมให้ 3 ป.แตกกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เฮ้ย มันเสี้ยมมาตั้งนานแล้ว ทุกฝ่ายเสี้ยมหมด” เมื่อถามว่าเช้าวันนี้ได้ดื่มกาแฟร่วมกับพี่ทั้ง 2 คน แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าไม่ได้ทานหรอกต่างคนต่างกิน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกันใน 3 คนพี่น้องหรือไม่ว่าทำไมมีคนมาเสี้ยม นายกฯถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า ตนว่ายังมีอีกฝ่าย กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯเลขาธิการพปชร.ไม่เคยมีประเด็นอะไรกับเขา เพราะเป็นคนให้เขาเข้ามาทำงานเอง แล้วจะไปมีอะไรกับเขาล่ะ ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร ไม่ได้พูดเฉพาะถึงแค่รายนี้ เมื่อถามว่า แต่ถ้าเด็กมีปัญหากับผู้ใหญ่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวตนแก้เอง ถ้ามันจริงนะ กรณีจะล้มหรือไม่ล้มมันขึ้นอยู่กับว่าใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า จะทำต่อหรือไม่
ลั่นผมเป็นใคร ไม่หวั่นไหวเสียงโหวต
เมื่อถามว่านายกฯพูดเช่นนี้ ต่อไปเด็กควรต้องฟังผู้ใหญ่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “หรือผู้ใหญ่จะต้องเชื่อฟังเด็กเหรอ ต้องรับฟังซึ่งกัน และกัน แต่ผู้ใหญ่ก็คือผู้ใหญ่เข้าใจหรือไม่ ผมเป็นใคร ผมเป็นนายกฯ แล้วนายกฯต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่ ถ้าเรื่องจริงผมฟัง แต่ถ้าเรื่องผลประโยชน์หรือเรื่องต่างๆไม่ฟัง และยังไม่เห็นมีใครมาพูดกับผมเรื่องนี้ แต่มีปล่อยข่าวตรงนั้นตรงนี้มา ตัวเลขที่ออกมาเป็นตัวเลขที่ผมเคยได้ยินแล้วว่าจะมาตีและมาจากอีกฝ่ายด้วย เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีแผนเผชิญเหตุ มีแผนสำรองรับมืออุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แล้วจะทำอย่างไร และถึงแม้จะมีการล้มนายกฯ ต้องไปดูกฎหมายมาตรา 167 มาตรา 168 แต่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ ที่วางแผนอย่างโน้นอย่างนี้กันมา แล้วทำได้หรือเปล่า เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านการลงมติ นายกฯบอกว่า เป็นเรื่องของสภา ส.ส. ความเชื่อถือและเชื่อมั่น ยืนยันไม่หวั่นไหวด้วยการทำงาน
ร้อง “ชวน” สอบ 3 ส.ส.ขัดจริยธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ให้ตรวจสอบ 3 ส.ส.ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ก่อนส่ง ป.ป.ช.ดำเนินคดี คือนายณัฐชาบุญ ไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ใช้หลักฐานอันเป็นเท็จกล่าวหากองทัพและใช้ไอโอ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตกแต่งตัวเลขผู้ป่วยและผู้หายป่วยกล่าวหานายกฯและ รมว.สาธารณสุขเสียหาย และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ระบุนายกฯจ่ายเงิน 5 ล้านให้ ส.ส.สนับสนุนลงมติ คิดว่านายวิสารสติไม่อยู่กับร่องกับรอย เคยกรีดเลือดในสภาฯ ถูกประณามเป็น ส.ส.ไม่ทรงเกียรติมาแล้ว มีบุคคลไปแจ้งความร้องทุกข์นอกสภาฯแล้ว
โบ้ยคนทางไกลใช้ 2 พันล้านล้ม “ตู่”
นายเสกสกลกล่าวว่า ตนมีข้อมูลรายงานว่าคนทางไกลชื่อย่อ “ท” “ด” กำลังเคลื่อนไหวผ่านกลไกพรรค “พ” ให้อดีตรัฐมนตรี “ว” อดีต ส.ส.ภาคเหนือ ให้นำเงินมาวางให้พรรคเล็กแต่ ส.ส.พรรคเล็กกำลังตัดสินใจว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป จึงยังไม่กล้าไปรับเงินวางมัดจำก่อน 2 กิโลกรัมที่บ้าน ส.ส.พรรคเล็กอักษรย่อ “พ” เป็นขบวนการล้มนายกฯของคนทางไกลที่เตรียมเงินไว้ล้ม 2,000 ล้าน ประกอบกับความเคลื่อนไหวของม็อบสี่แยกอโศกนำโดยอดีตรัฐมนตรี “ต” เพราะคาดว่าเกมนี้จะเดินสำเร็จ เคลื่อนไหวนอกประเทศ บนถนน ในสภาฯ เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ เล่นการเมืองด้วยวิธีเดิมๆเหมือนอดีตที่เคยไปลืมถุงขนมที่ศาลมาแล้ว
พปชร.แจ้ง ส.ส.โหวตทางเดียวกัน
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ชั้น 6 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมพรรคเพื่อเตรียมพร้อมก่อนวันลงมติ ในวันที่ 4 ก.ย.บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามทำข่าว บรรดาแกนนำ รัฐมนตรีและ ส.ส.ทยอยเดินทางเข้าห้องประชุมทันที แต่มี ส.ส.บางส่วนไปนั่งพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคอีกห้องระหว่างรอ พล.อ.ประวิตร ก่อนเริ่มประชุมนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ได้แจ้งที่ประชุมว่าวันที่ 4 ก.ย.ขอให้ทุกคนมาพร้อมเพรียงกัน ห้ามป่วย ห้ามขาด ขอให้โหวตไปในทางเดียวกัน ขอให้รักสามัคคีกันและได้รับแจ้งแม่ของนายอาดิลัน อาลีฮีสเฮาวะ ส.ส.ยะลา เขต 1 เสียชีวิตเนื่องจากติดโควิด ยังไม่แน่ใจนายอาดิลันติดหรือไม่ติด จึงขอให้งดร่วมประชุม ผู้สื่อข่าวที่ยังอยู่ในห้องประชุมด้วยได้ถามว่า จะมีคาดโทษกับคนที่โหวตสวนมติพรรคหรือไม่ นายวิรัชตอบว่า ยังไม่มีการกระทำเกิดขึ้น บอกไม่ได้ เมื่อถามว่า คะแนนโหวตนายกฯจะมาเป็นที่หนึ่งใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า “ครับ คะแนนนายกฯจะมาเป็นที่หนึ่ง”
“บิ๊กป้อม ”หวาน “ถ้านายกฯไปผมก็ไป”
จากนั้นเวลา 13.20 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค เดินทางมาพร้อม น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เหรัญญิกพรรค โดยมี ร.อ.ธรรมนัส และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม มารอรับหน้าลิฟต์ โดย พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า “ปัญหาในพรรคไม่มีอะไร นายกฯไปผมก็ไป” เมื่อถามว่า ถ้านายกฯไปก็พร้อมไปด้วยกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “เออ” เมื่อถามว่าพรรค พปชร.ยังมีเอกภาพหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังมีเอกภาพ เมื่อถามว่า ผลคะแนนลงมติจะมีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา จากนั้น พล.อ. ประวิตร รีบเข้าห้องประชุมพรรคทันที บรรดา ส.ส.ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือต้อนรับ ผู้สื่อข่าวได้กระเซ้าขอให้ พล.อ.ประวิตรทักทายที่ประชุมหน่อย แต่ พล.อ.ประวิตรกล่าวเพียงว่า อะไร ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างราบรื่น จากนั้น ส.ส.พากันปรบมือแล้วขอให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุม โดยที่ประชุมใช้เวลาเพียง 10 นาที
โบ้ยสื่อเขียนไปเองข่าวลือโค่น “ตู่”
พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า “ไม่มีอะไร ทุกคนรักกัน ถามอยู่นั่นแหละ ไม่มี” เมื่อถามถึงกระแสข่าวความวุ่นวายในพรรคก่อนหน้านี้ คุยกันแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบเสียงสูงว่า “ไม่มี ไปเขียนกันเอง” เมื่อถามว่า ทุกเสียงของ ส.ส.พรรค พปชร.จะลงมติโหวตให้นายกฯทั้งหมดใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า “ก็บอกแล้วไง ถ้านายกฯไปผมก็ไปแล้ว แล้วจะโหวตให้ใคร” เรื่องนี้ไม่ต้องกำชับอะไร เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจว่าจะไม่มีใครแตกแถว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไปถามกันเอง ยืนยันว่าที่ผ่านมากระแสข่าวต่างๆแค่ข่าวลือทั้งนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลยังอยู่ครบเทอม พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
“วิรัช” บอก หน.เชื่อไม่มีใครแตกแถว
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรขอให้มีความรักความสามัคคี รักพรรค รักรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผลคะแนนถ้าได้เท่ากันได้ยิ่งดี ทุกคนตอบรับคำ พล.อ.ประวิตร กระแสข่าวที่เกิดขึ้นบางครั้งเข้าใจคาดเคลื่อนไปคนละทิศคนละทาง แต่วันนี้ไปในทางเดียวกันแล้วเป็นลักษณะพายุมา แต่ท้องฟ้าแจ่มใสแล้ว ทุกคนจะยกมือไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีของพรรค พล.อ.ประวิตรก็เชื่อใจ ส.ส.ว่าจะไม่แตกแถว คะแนนโหวตหลักๆ อย่างน้อยให้ได้ 265 เสียงขึ้นไป จะมีหายไป 2 เสียงคือของพรรค พปชร.และพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากโควิด-19 เสียงพรรคร่วมฯมีประมาณ 269 เสียง หักประธานเหลือ 268 เสียง แต่ถ้ารองประธานโหวตจะไม่ลดลง จากเสียง 482 เสียงหากให้ได้ครึ่งหนึ่งต้องเป็น 241 เสียง เรามี 260 เสียงมันเกินแล้ว เมื่อถามว่ามีการเสนอปรับ ครม.หรือไม่ นายวิรัช ตอบว่าไม่มี ปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯ
“บิ๊กตู่” บึ่งมูลนิธิป่ารอยต่อรับคำขอโทษ
ต่อมาเวลา 14.28 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางออกจากรัฐสภา เพื่อเดินทางไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ใน ร.1 ทม.รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่ง พล.อ.ประวิตรและ ร.อ.ธรรมนัสรออยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ ร.อ.ธรรมนัส ได้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยตัวเอง โดยมี พล.อ.ประวิตรร่วมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามนายกฯว่าได้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุยกับ พล.อ.ประวิตรแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าคุยกับ พล.อ.ประวิตรชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็เราบอกแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร มีอะไรก็ว่าไป” เมื่อถามว่าแล้วกับ ร.อ.ธรรมนัสยังพูดคุยกันได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบเพียงหันมากล่าวว่า “เฮ้ย แล้วทำไมล่ะ ทำไมจะคุยกับใครไม่ได้ ผมคุยได้ทั้งหมด” เมื่อถามอีกว่า เรื่องที่ผ่านมาให้มันแล้วๆไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบ
ระบุรูปว่อนเน็ตคือกระเป๋าเอกสาร
เมื่อถามว่า การออกไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อในตอนนี้มีนัยอะไรสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบเช่นกัน และเมื่อถามย้ำอีกว่าไปเคลียร์ครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่ เพราะมีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรและ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ที่นั่น พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบรีบเดินขึ้นนั่งบนรถทันที เมื่อถามว่านายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล บอกว่าจบแล้ว เป็นไปตามนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวน้ำเสียงเข้มว่า “ใครจะพูดอะไรก็พูดไปสิ” พร้อมเอามือชี้ที่ศีรษะ ก่อนกล่าวว่า “ผมคิดเอง ไม่ขอตอบทุกเรื่องหรอก” ซึ่งขณะที่นายกฯกำลังขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ลากกระเป๋าสีดำมาขึ้นรถ คล้ายกับกระเป๋าที่มีการนำภาพไปแชร์กันในโซเชียลตีความว่าเป็นกระเป๋าเงิน พล.อ.ประยุทธ์ จึงชี้ไปที่กระเป๋าดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า “กระเป๋าฉันนี่ เอกสารทั้งนั้นไปดูสิ” ก่อนสั่งให้รถเคลื่อนออกไปทันที
ไม่ตอบเคลียร์ทุกอย่างจบแล้ว
ต่อมาเวลา 16.05 น. หลังจากนายกฯแว่บออกไปนอกรัฐสภาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พล.อ.ประยุทธ์จึงกลับเข้ารัฐสภา ผู้สื่อข่าวที่รออยู่ได้สอบถามว่า ได้เคลียร์ใจกับ ร.อ.ธรรมนัสเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ไม่มีอะไรนี่” เมื่อถามย้ำว่าได้ขอโทษกันถึงขนาดไหน ดีลจบและสบายใจแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเดินเข้าลิฟต์ไปทันที
“บิ๊กป้อม” ขึงขังไม่ต้องการเป็นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมพรรค พปชร.ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวสีหน้าขึงขังถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคบางคนจะไปคว่ำ พล.อ.ประยุทธ์ และข่าว 3 ป. แตกคอว่า ข่าวไม่เป็นความจริง ขอให้ทุกคนรักกัน สามัคคีกัน ถ้าจะทะเลาะกันก็ให้นิดหน่อย อย่าวุ่นวาย เราต้องรวมกันให้เป็นหนึ่งเดียว แล้วไล่บี้ถาม ส.ส.ว่ามีใครอยากจะถามอะไรไหม แต่ไม่มีใครกล้าถาม ต่อมามี ส.ส.ภาคใต้คนหนึ่งถามว่าวันที่ 4 ก.ย.ต้องโหวตอย่างไร พล.อ.ประวิตร จึงตอบขึงขังว่า “ให้เป็นไปตามการประชุมเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ให้โหวตไปในทิศทางเดียวกันทุกคน” และยังพูดว่า “เราไม่ต้องการเป็นนายกฯ นายกฯไป ผมก็ไป” ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จบแล้วเราชนะ เราได้เปรียบ
“ผู้กองนัส” ยกมือไหว้ขอโทษ “บิ๊กตู่”
เวลา 13.35 น. พล.อ.ประวิตรรีบออกจากรัฐสภาไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อทันที ไล่เลี่ยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกไปมูลนิธิป่ารอยต่อเช่นกัน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปถึงพบว่าทั้ง พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส นางนฤมล พร้อม ส.ส.พปชร.เกือบ 60 คนรออยู่ก่อนแล้ว โดย ส.ส.ทุกคนถูกเก็บโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัสได้ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจผมขอโทษ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยกมือรับไหว้ แล้ว ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือทั้งหมด นักข่าวไปเขียนกันเอง ตนไม่รู้เรื่อง เฟกนิวส์
ระบายผู้นำไม่ดูแล ส.ส. “ตู่” จะปรับตัว
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า ที่เชิญท่านมาอยากขอความมั่นใจว่านายกฯจะดูแล และจะทำงานร่วมกับพวกเรา ส.ส.และพรรคอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับว่า มีอะไรที่เราต้องดูแลบ้าง ร.อ.ธรรมนัส เลยพูดว่ามีหลายเรื่อง ส.ส.ไม่สบายใจ เราเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล พรรคอื่นขออะไรก็ได้ แต่พวกเราไม่ได้อะไรเลย พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบว่า ถ้าโครงการต่างๆ มันถูกกฎหมายก็เขียนมา ร.อ.ธรรมนัสจึงพูดต่อว่า ท่านไม่เคยมาดูแล ไม่ได้เจอ ส.ส.ในพรรคเลย ส.ส.หลายคนไม่เคยได้รู้จักท่านเลย นายกฯตอบว่า “ถ้าเป็นปัญหาแบบนี้ เราจะไปปรับตัวดู” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า “อะไรที่ผิดพลาดไปผมก็ต้องขออภัย แต่สิ่งที่พูดไปในฐานะเลขาธิการพรรคที่ต้องดูแลพรรค ดูแล ส.ส.ยืนยันว่าการลงมติวันที่ 4 ก.ย.ไม่ต้องห่วงหรอก แต่รัฐมนตรีบางคนอาจไม่เท่าท่าน ด้านนายวิรัชกล่าวเสริมว่า ของท่านอันดับหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จึงบอกว่าให้มันเท่าๆกันดีกว่า ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ พูดกับ ส.ส.ว่าอะไรที่ทำได้ก็จะทำ อะไรที่ผ่านมาก็อย่าไปคิด
3 ป.กอดคอโชว์สัมพันธ์แน่นปึ้ก
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ได้กอดคอโชว์ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของ 3 ป. โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้า 3 คนอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าไปก็ต้องไปด้วยกัน ยังมีเรื่องราวของทั้ง 3 คนที่คนอื่นไม่รู้อีกเยอะ” ก่อนหันไปกระเซ้า พล.อ.ประวิตรว่า “ท่านอยากเป็นนายกฯหรือ” พล.อ.ประวิตรจึงกล่าวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “จะบ้าหรือ กูไม่เป็นหรอก มึงนั่นแหละเป็นนายกฯ” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่นาน พล.อ.ประวิตร เคยพูดกับ ร.อ.ธรรมนัส ที่เข้ารายงานสถานการณ์ต่างๆ ในพรรค ประโยคหนึ่งให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องว่า “มึงจะให้กูทรยศน้องกูหรอ” ทั้งนี้มีรายงานว่าแม้จะเคลียร์ปัญหากันได้แล้ว แต่ยังต้องจับตาดูการโหวตวันที่ 4 ก.ย.จะมีผลสะท้อนเกิดขึ้นหรือไม่ ถือว่าครั้งนี้ค่อนข้างเคลื่อนไหวแรงมาก มีเดิมพันสูง คะแนนนายกฯควรต้องอยู่ระหว่าง 263-270 คะแนน
“สมคิด” ซัดแก๊งค้าแรงงานเถื่อน
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 4 โดยนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายเป็นคนแรกว่า ขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จะไปยื่นร้องทุกข์ต่อ กกต.ให้ตรวจสอบนายสุชาติและ พล.อ.ประยุทธ์โกหกหลอกลวงประชาชนหาเสียงไว้ได้เป็นรัฐบาลค่าแรงขั้นต่ำต้องเพิ่มเป็น 400-425 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท จบอาชีวะได้ 18,000 บาท ผ่าน 1 ปีไม่ทำ แรงงานต่างด้าวมีราว 2.3 ล้านคน มีแรงงานผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียน 5 หมื่นคน กลุ่มใหญ่ไม่ยอมขึ้นทะเบียน ไม่มีมาตรการคัดกรอง ทำให้โควิดกระจายจากแรงงานต่างชาติเข้ามาทางแม่สอด จ.ตาก ลักลอบขนแรงงานเข้ามา กระบวนการนี้มีดาบ จ.รู้จักกันทั้งแม่สอด ส่งไปดาบนั่นดาบนี่ต่อไปข้างบนสุดท้าย บิ๊ก ป.และเจ๊ อ.ร่วมเป็นเอเย่นต์กระจายแรงงานเถื่อนไปจุดต่างๆ ไม่แน่ใจว่านายสุชาติเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ค่าหัวแรงงานเถื่อนอยู่ที่ 5,000 บาทต่อคน แรงงานเถื่อนมีถึง 5 หมื่นคน มูลค่า 250 ล้านบาท เคยอภิปรายครั้งที่แล้วแต่ไม่จัดการเลย
“เต้” ถล่ม รมต.เสเพล
ต่อมา ที่ประชุมสภาฯ เริ่มมีการปะทะคารมขึ้นเมื่อนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมหลายประเด็น เช่น เป็นรัฐมนตรีเสเพล เหลวไหล ประพฤติตนในทางเสื่อม ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการควบคุมโรคเข้าไปแหล่งอบายมุขจนกลายเป็นต้นตอการแพร่ระบาดโควิดรอบสามรุนแรงมากเริ่มต้นจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ไม่แน่ใจว่านายศักดิ์สยามเคยไปทองหล่อหรือไม่ แต่ผู้ติดเชื้อสะสมล้านกว่าราย เสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชน นายศักดิ์สยาม เป็นรัฐมนตรีหนึ่งเดียวที่ติดโควิด เป็นสาเหตุการแพร่ระบาดของกระทรวงคมนาคม จากนั้นร่ายยาวไทม์ไลน์ของ รมว.คมนาคม จนโดนทีมองครักษ์พิทักษ์นายศักดิ์สยามลุกขึ้นประท้วง เสียดสีพาดพิงบุคคลภายนอก ซึ่งนายชวน ประธานที่ประชุม ต้องตักเตือนห้ามปราม 2 ฝ่าย
เหน็บนายกฯแจกธนูให้ทั่วฟ้า
นายมงคลกิตติ์อภิปรายช่วงท้ายว่า ขอฝากไปถึงนายกฯ ผู้บังคับบัญชา รมว.คมนาคม นายกฯผู้เปี่ยมด้วยบารมี ผู้เปี่ยมน้ำใจกับเพื่อนพ้อง ฝากท่านประธานสภาฯไปถึงนายกฯ ขอให้นายกฯมีน้ำใจกับเพื่อนสมาชิกทั้ง 482 คนให้ครบทุกคน ถ้ายังไงแจกธนูใครครบคนละ 10 ดอกทุกคน ฝากแจกประชาชนที่ตายด้วย 12,000 ศพ และผู้ป่วยอีก 1 ล้าน 2 แสนคน นายกฯที่มีธนูมากเอาธนูมาช่วยประชาชนด้วย อย่าแจกธนูแค่บางส่วน ฝนตกไม่ทั่วฟ้าเป็นห่วงเพื่อนสมาชิก ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ธุรกิจล้มเหลว ถ้ามีธนูมากจัดการให้ครบทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ
“ศรัณย์วุฒิ” โวย พท.กีดกันไม่ให้คิว
ต่อมาเวลา 11.40 น. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย พยายามลุกขึ้นเพื่อขออภิปรายหลายครั้ง นายชวนได้แจ้งว่า รายชื่อผู้อภิปรายที่ส่งมามีปัญหา รายชื่อนายศรัณย์วุฒิยังไม่ได้ส่งมา และผู้นำฝ่ายค้านแจ้งยืนยันรายชื่อตามที่วิปฝ่ายค้านนำเสนอประธานสภาฯ ต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ควบคุมเสียงฝ่ายค้าน ขอให้ไปคุยกัน ไม่อยากให้ทุกพรรคขัดแย้งกัน นายศรัณย์วุฒิจึงโวยวายไม่พอใจว่า ขอฟ้องคนไทยว่าถูกปิดกั้น ก่อนหน้านี้ให้ไปพรีเซนต์ก่อนก็ยอม พรรคเพื่อไทยให้เวลา 1 ชั่วโมงแล้วจู่ๆมาตัด แต่ตนมีเวลาของพรรคเพื่อชาติมอบอำนาจมาถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ให้อภิปราย ปิดกั้นแบบนี้อุดมการณ์จะเหลือหรือ เจ็บปวดมาก ทำการบ้านมา เอกสารเต็มไปหมด แบบนี้กดดันมากเกินไป ล้วงลูกไปหมดเลย ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ พรรคไม่ได้กีดกัน จัดไปตามเวลาที่มี หลายคนเสนอชื่อมาไม่ได้อภิปรายก็มี
“เฉลิมชัย” โต้มีแต่สุจริตเชิงนโยบาย
ต่อมานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ลุกชี้แเจงเรื่องปัญหาเกษตรกรเดือดร้อนเรื่องราคายาง ว่า ข้อกล่าวหาฝ่ายค้านเป็นเท็จหรือได้รับข้อมูลผิดพลาดมา ในฐานะกำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีนโยบายสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยางพาราช่วยคลายล็อกให้เกษตรกรไม่ต้องฝันร้ายอีกต่อไป ไม่ถูกยางในสต๊อกเป็นข้ออ้างของพ่อค้าบางกลุ่มกดราคา เช่น กรณีคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ มีมติเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.63 ให้ระบายยางในสต๊อกให้หมด นำเข้า ครม.วันที่ 3 พ.ย.63 การระบายต้องดูจังหวะที่เหมาะสม ไม่กระทบกับราคายางในตลาด เมื่อ ครม.รับทราบได้ให้ กยท.ปฏิบัติดังนี้ 1.ให้ กยท.ดูช่วงเวลาที่เหมาะสมระบาย ไม่ให้กระทบราคายางในตลาด 2.เกษตรกรต้องได้รับประโยชน์ 3.ต้องรักษาผลประโยชน์ภาครัฐ เพราะเป็นเงินภาษีประชาชน และ 4.ต้องทำโดยสุจริตโปร่งใสตรวจสอบได้ถูกต้องตามระเบียบ ที่เน้นย้ำที่สุดคือห้ามทุจริตคอร์รัปชันเด็ดขาด ถ้าเขาทำทุจริตผิดกฎหมาย จะไม่ละเว้นอยู่แล้ว และยังมีหน่วยงานมากมายรอตรวจสอบฟ้องได้เลย ถ้าไม่ถูกต้องตนก็ไม่ชอบ พร้อมให้ทุกหน่วยงานได้ตรวจสอบ ไม่อยากให้ประวัติเสียในวันที่เป็น รมว.เกษตรฯแล้วมีทุจริตเกิดขึ้น ตนและพรรคประชาธิปัตย์ ถือมากเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย พวกตนมีแต่ความสุจริตเชิงนโยบาย
ซัด “ชัยวุฒิ” ถลุงงบฯอุ้มระบอบปรสิต
ต่อมานายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่าล้มเหลวในการพัฒนาปรับปรุงแอปพลิเคชันช่วยควบคุมโรคโควิด-19 เหมือนภารกิจเดียวที่รับมาคือควบคุมความคิดประชาชน รักษาอำนาจระบอบปรสิต ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ผูกขาดความจริง สอดแนมประชาชน ใช้คำว่าความมั่นคง ตั้งศูนย์ข่าวปลอมบังหน้า แต่ฉากหลังใช้งบกำจัดคนเห็นต่าง ปิดปากประชาชนด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 112 ปราบปราม ขู่ดาราคอลเอาต์ ซ่อนปีศาจ เขียนกฎหมายให้อำนาจตัวเอง ในการสอดแนมการใช้อินเตอร์เน็ตของประชาชน ในวันที่ 13 ส.ค. ในราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ของผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นประกาศที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอำนาจในการเรียกข้อมูล ต่างๆคือ ความงามไส้ เอาอดีตของพวกท่านกลับคืนไปและคืนอนาคตให้พวกเขาเสียที
“โอ๋” ปัดถือครองโฉนดเขากระโดง
จากนั้นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีถูกอภิปรายประเด็นที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่า ที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่า บ้านพักของตนเป็นที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตนเป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ 3466 ตั้งแต่
วันที่ 26 ต.ค.2515 อายุเพียง 10 ขวบ ไม่ได้มีชื่อในกรรมสิทธิ์ที่ดินออกโดยหน่วยงานราชการที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยสุจริต ในส่วนของประชาชนเข้ามาตั้งแต่ปี 2502 ตนเกิดปี 2505 ยังไม่เกิด ในญัตติระบุว่า ตนเป็นผู้นำบุกรุกเข้าใจผิดหรือไม่ ญาติพี่น้องก็ครอบครองโฉนดเหมือนคนปกติทั่วไป หากมีหลักฐานชี้ชัดว่าได้มาด้วยวิธีการฉ้อฉลให้ไป ฟ้องเพิกถอนโฉนดในแบบเดียวกันทั้งประเทศ อย่าทำแต่ที่เขากระโดง ส่วนการยกคำพิพากษามานั้นเป็นกรณีของที่ดินจำนวน 35 รายที่ฟ้อง รฟท.และทำไม รฟท.ไม่ฟ้องขับไล่ รฟท.ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งเชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิของกรมที่ดินคลาดเคลื่อน ต้องพิจารณาเพิกถอนโฉนดที่ออกทับที่ดิน รฟท.ตาม ป.ที่ดินมาตรา 61 ซึ่งมีหนังสือประสานแล้ว
“โรม” ฉะ “ชัยวุฒิ” เอื้อเจ้าสัวดาวเทียม
เมื่อเวลา 15.30 น.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่านายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่า จงใจใช้อำนาจเอื้อประโยชน์พวกพ้องในคดีพิพาทดาวเทียมไทยคมหรือไม่ กรณีบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง มีข้อพิพาทกับดีอีเอส 3 คดีหลายฝ่ายจ้องเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากดาวเทียมที่ตกเป็นคดีข้อพิพาท ตามสัญญาสัมปทานปี 2534 ดาวเทียมดวงอื่นที่จะสิ้นสุดสัมปทานวันที่ 10 ก.ย.64 เพียง 6 เดือน ที่นายชัยวุฒิเข้ามาเป็น รมว.ดีอีเอส พยายามเปลี่ยนอนุญาโตตุลาการถึง 3 ครั้ง ถูกใช้มา เอื้อประโยชน์กับบริษัทเอกชนด้านพลังงานรายหนึ่ง หรือไม่ เพราะเคยเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งนี้ ที่ทยอยซื้อหุ้นบริษัทโทรคมนาคม ผู้ถือหุ้นใหญ่ ใน บ.ดาวเทียม บริษัทพลังงานเคยบริจาคเงินให้มูลนิธิ ป่ารอยต่อฯปี 59 เป็นเงิน 5 ล้านบาท เอื้อผลประโยชน์ กิจการพลังงานกินรวบผูกขาด แทบไม่แตกต่างกับปรสิตกัดกินสังคมไทย จนนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ประท้วงให้ถอนคำว่า “ปรสิต” ให้ยุติฉายพาวเวอร์พอยต์แผนผังระบบ “ปรสิต นายทุนผูกขาด ศักดินาตั๋วช้าง ขุนศึกป่ารอยต่อ” ที่มีรูป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนนายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานที่ประชุมตักเตือนให้ยกเลิกฉาย
“ชัยวุฒิ” ปลัฟกลับขวางไทยคมด้วยซ้ำ
จากนั้นเวลา 16.50 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมา นุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ชี้แจงตอบนายรังสิมันต์ว่า สัมปทานดาวเทียมไทยคมจะสิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย.นี้ ได้ลงนามโอนสิทธิ์ในการดูแลดาวเทียมให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที ไปดูแลเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา การทำธุรกิจดาวเทียมของเอ็นที ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ไทยคม ที่เป็นลักษณะสัมปทานผูกขาด ตัดตอน ต่อเนื่อง แบบที่กล่าวหา ตนไม่มีความคิดที่จะเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ไทยคม เพราะการเปิดประมูลวงโคจรดาวเทียมมีรายเดียวคือไทยคม จึงทำหนังสือไปถึง กสทช.ว่าไม่เห็นด้วยให้ทบทวนเลื่อนประมูลออกไปก่อนเพราะจะได้อยู่รายเดียว ยังไม่เหมาะสมไม่ต้องรีบ สิ่งที่ทำนอกจากไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ไทยคม ยังดำเนินการขัดกับผลประโยชน์ของไทยคมด้วย ส่วนที่ฝ่ายค้านใช้คำว่า ระบอบปรสิต ดูถูก ส.ส.ทุกคนในสภาฯ ตนเป็น รมว.ดีอีเอส ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ผู้อภิปรายระบุถึง ลาออกมานานแล้ว ไม่ได้เอื้อใคร
“ลุงตู่” ผ่อนคลายเปรยฟ้าหลังฝนสดใส
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ชี้แจงปิดท้ายใต้ฉากกั้น ไม่สวมแมสก์ด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายอย่างชัดเจนว่า ต้องการคลี่คลายบรรยากาศที่อาจซีเรียสไปสักนิด รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งใคร โควิด -19 เหมือนคลื่นพายุลมแรง เราประสบคลื่นขนาดใหญ่ ยังไม่ใช่คลื่นขนาดยักษ์ เทียบกับทั่วโลกเรารับมือได้ระดับที่ดี ขอชวนให้ทุกคนคิดและมองไปข้างหน้าว่าเราไม่อาจตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว จนไม่กล้าจะทำอะไรเลย ปี 64 เป็นปีแห่งความท้าทายประคับประคองเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด ช่วง 3 วันที่ผ่านมาเราได้ยินข้อมูลและประเด็นต่างๆมากมาย รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดจุดอ่อนในการทำงาน นี่คือคำมั่นของตนที่จะทำงานเพื่อให้คนไทยทุกคน เราชาวไทยเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ แม้ไม่มีใครบอกได้ว่าวิกฤติโควิดจะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ความหวัง ความศรัทธาจะเป็นพลังสำคัญให้เราก้าวข้ามความยากลำบากได้
“ชวน” นัดโหวต 10 โมง 4 ก.ย.
กระทั่งเวลา 18.15 น. นายสุทิน คลังแสงส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้านอภิปรายปิดท้ายญัตติสรุปภาพรวมความล้มเหลวการควบคุมเชื้อโควิด-19 ว่า เป็นความผิดผู้นำและ ครม.ไม่มีมาตรการป้องกัน ไม่มีวัคซีนให้ประชาชนรอตรวจ รอเตียง รอตาย โกงทุกขั้นตอนโควิดโกงวัคซีน ไม่เข้าร่วมโคแวกซ์ของฟรี ไม่มีเงินทอนเลือกวัคซีนแอสตราเซเนกา พอไม่มาตามนัดไปเอาซิโนแวคค้าขายสะกิดกันง่าย ดีกว่าซื้อไฟเซอร์ที่ประเทศผู้ผลิตมีกฎหมายห้ามติดสินบน ส่วนความโอหังคลั่งอำนาจบอกยิ่งไล่ยิ่งอยู่ ประชาชนไม่เอา พรรคไม่เอาก็แจกกล้วยเพราะอยากอยู่ต่อ ผู้นำทั่วโลกรับผิดชอบความผิดพลาดทยอยลาออก แต่นายกฯไทยไม่ลาออกไม่ยุบสภา ไม่ปรับ ครม.แค่เสียใจ ความหวังประชาชนต่อพรรคร่วมฯพังแล้ว วันที่ 2 ก.ย. ที่ชั้น 3รัฐสภาขนอะไรมาคนแชร์กันไปทั่ว ใจรับไม่ได้ จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นัดลงมติวันที่ 4 ก.ย. เวลา 10.00น.
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังปิดการประชุมสภาว่า เรียบร้อยดีได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ไม่ฟังเหตุผลกัน ผู้สื่อข่าวขอให้เปิดกระเป๋าที่คณะทำงานเดินถือตามมา 3 ใบ นายกฯจึงให้เปิดโชว์เป็นเอกสารงานทุกกระทรวงทุกเรื่อง มีทั้งหมด เมื่อถามว่า วันที่ 4 ก.ย.ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “จะห่วงอะไร สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
“ส.ส.หนวด”ฉุนอยากให้ย้ายไม่ต้องไล่
เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย หอบแผ่นชาร์ตและข้อมูลจำนวนมากที่เตรียมจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มาโชว์สื่อมวลชนพร้อมแถลงต่อสื่อมวลชนว่าเจ็บปวดแทนคนไทยที่สภาปิดกั้นไม่ให้อภิปราย วิปพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ส่งชื่อ และมีขบวนการไอโอผ่านโซเชียลใส่ร้ายว่าจะย้ายทิ้งพรรคเพื่อไทย ทำน่าเกลียดรุนแรงมาก ผู้ใหญ่บางคนถ้าไม่อยากให้อยู่ ไม่ต้องมาไล่ หากอุดมการณ์เพื่อไทยไม่เหลือแล้วจะไปเอง วันนี้พรรคถูกนายทุนครอบ ใช้อำนาจทำลายประชาธิปไตย กดหัว ส.ส.อ้างเรียกไปติว แต่ล้วงข้อมูลเพื่อนำไปให้ฝ่ายตรงข้ามเอาไปขายข่าว คราวที่แล้วนำข้อมูลไปให้ฝ่ายตรงข้ามรู้หมด ความจริงประเทศไทยจะมีการผสมพันธุ์กันระหว่างพรรคที่เป็นประชาธิปไตยกับกลุ่มเผด็จการ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นักสู้เพื่อประชาธิปไตยหายไปไหนกันหมด แล้วจะอยู่ยังไงหากเป็นเช่นนี้ จากนั้นได้พาสื่อมวลชนเดินไปนอกรัฐสภาดูโลงศพที่เตรียมนำมาเก็บศพ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากบริหารสถานการณ์โควิดล้มเหลว