"บิ๊กตู่" ย้ำ รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใคร ในวิกฤติโควิด-19 ขอบคุณข้อมูล ตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐพร้อมนำปรับปรุงแก้ไข หวังไทยเปรียบเหมือน "ฟ้าหลังฝน" แม้ยังไม่รู้โควิด-19 จบลงเมื่อไหร่

วันที่ 3 ก.ย. เมื่อเวลา 17.59 น.ที่รัฐสภา ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การนับผมหายใจกี่ครั้งเมื่อวานที่ผ่านมา บอกว่า กว่า 80 กว่าครั้ง ยืนยันก็ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไรเลย ทั้งนี้รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใคร โควิด-19 เปรียบเหมือนคลื่นลมแรง ที่แรงมาก เด่นชัดว่า ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ ปีที่แล้วเราเจอคลื่นเล็ก และปีนี้เราเจอคลื่นลูกใหญ่ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงที่สุด เพราะบางประเทศรุนแรงกว่า แต่ก็คิดว่าเรายังสามารถรับมือได้ แม้จะทำไม่ได้ดีที่สุด ขอบคุณฝ่ายประชาชนที่ให้ความร่วมมือ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การที่ส.ส.ฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า เป็น รัฐบาลค้าความตาย ยืนยันว่า ไม่เป็นธรรม ทำไมไม่พิจารณากลับด้านบ้าง ว่า แม้มีติดเชื้อจากโควิด-19 รวมทั้งหมด กว่า 1 ล้านคน แต่เราก็มีคนหายป่วยไปแล้ว กว่าล้านคน เช่นกัน อัตราป่วยบ้านเรา ติดเชื้อ 100 คน หายป่วย 85 คน จากนี้ไปการสมดุลในการดำเนินชีวิตไม่ใช่ทำให้โรคหมดไป แต่ที่สำคัญคือการสร้างสมดุล เราจำเป็นต้องปรับตัว หาแนวทางใหม่ ในแนวทางการสร้างสมดุลใหม่ เพื่ออยู่ร่วมกับโรคนี้ให้ได้ ดังนั้นต้องมีการปรับตัว โดยให้คิดว่าต้องมีการป้องกันขั้นสูงสุด  คือให้คิดว่า ทุกคนที่พบมีโอกาสติดเชื้อทั้งสิ้น เราจึงต้องมีมาตรการระวังขั้นสูงสุด

ส่วนการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลได้เตรียมกระตุ้นเศษฐกิจ 4 เดือนที่เหลือในปีนี้ และให้นักศึกษาจบใหม่ มีรายได้ มีงานทำ ลดเหลื่อมล้ำ ยกระดับ ด้วยการรวมไทยสร้างชาติ เพื่อความสำเร็จ

...

โดยรัฐบาลกำลังทำยุทธศาสตร์ประเทศ เพื่อเป็นการพัฒนาไปสู่อนาคตของประเทศ

-การสร้างโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม

-ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

-พัฒนารถพลังงานไฟฟ้า EV

-ปลูกป่าในประเทศให้เพิ่มขึ้น จาก 37% เป็น 41%

-เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร ที่ไทยมีความได้เปรียบในตลาดโลก

-การท่องเที่ยวยั่งยืน

-เสริมสร้างอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต

- สร้างภูมิคุ้มกันพัฒนาเศรษฐกิจ SME

- ปฏิรูปพัฒนาระบบเศรษฐกิจภาครัฐ การปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา ฯลฯ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วง 3 วัน ที่ผ่านมาประชาชน ได้ยินประเด็นต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมจะนำข้อเสนอแนะ และจะนำไปปรับปรุง แก้ไข เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนคนไทย ได้มีความหวังเปรียบเหมือน "ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ" แม้ไม่มีใครบอกได้ว่าโควิด-19 จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่