รองนายกฯ "สุพัฒนพงษ์" ยืนยัน เศรษฐกิจไทยไม่ได้ล้มเหลวหรือพัง ชี้เป็นการกล่าวเกินเหตุ ยืนยันปิดเรื่องหลุมรายได้ ได้แน่ในอนาคต ระบุโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี พร้อมก้าวไปอีกขั้น

เวลา 18.45 น. วันที่ 2 ก.ย. 2564 ที่อาคารรัฐสภา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ล้มเหลวหรือพัง เพราะมีอัตราการเติบโตครึ่งปี 2% และไตรมาสล่าสุด ถึง 7.5% แต่ยอมรับว่าโรงงานปิดกิจการ 6,000 ราย แต่เปิดกิจการ 46,700 ราย สูงกว่า 7-8 เท่า ส่วนตลาดหลักทรัพย์ มีกำไรในครึ่งปีนี้ 528,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2563 และ 2562 จึงขออย่ารีบสรุปเรื่องการลงทุน เพราะครึ่งปีมีการลงทุนแล้ว 386,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนและต่างประเทศมีความสนใจลงทุนในไทย

ขณะที่เรื่องหลุมรายได้ ที่ได้รับผลกระทบจากภาคท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลได้ทำโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และพร้อมที่ก้าวจะเข้าไปสู่อีกขั้น ในช่วงฤดูไฮซีซั่นนี้ เพื่อเรียกความเป็นเมืองท่องเที่ยวของไทยกลับคืนมา โดยรัฐบาลไม่ยึดติดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ยังสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น บริการดิจิทัลอิเล็กทรอนิกส์ เดินคู่ไปกับกระแสสังคมโลก โดยเชื่อว่าจะปิดเรื่องหลุมรายได้ได้ในอนาคต

...

ส่วนบริษัท Moody’s Investors Service หรือ Moody’s คงอันดับความน่าเชื่อถือเรื่องบริหารหนี้สาธารณะของประเทศไทย หรือ Sovereign Credit Rating คงที่ ขณะที่ธนาคารโลก (World Bank) ยังยกย่องประเทศไทย ที่ช่วยเหลือและเยียวยา เอสเอ็มอีได้ดี ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ที่ยังมีพร้อมและความเชื่อมั่นที่จะก้าวหน้าไปในวันข้างหน้า ดังนั้นการถึงความล้มเหลว ความจมดิ่ง ถือว่าเป็นการกล่าวที่เกินกว่าเหตุ

นอกจากนี้ในภาคพลังงาน ในปี 2564 รัฐบาลลดค่าไฟฟ้าถึง 3 ระลอก ใช้เงินรวมกัน 26,300 ล้านบาท ครอบคลุม 97% ของผู้ใช้ไฟทั่วประเทศ ลดค่า FT ของไฟฟ้า ลดค่า Minimum Charge ช่วยผู้ประกอบการ ในขณะที่ราคาน้ำมันขึ้นราคา

ส่วนราคาน้ำมัน กระทรวงพลังงานดำเนินมาโดยตลอดในการลดราคาจากหน้าโรงกลั่น และลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน และพยายามตรึงราคา ช่วยเงินอุดหนุน 1.7 พันล้านบาท/เดือน รวมถึงยืนราคาค่าก๊าซหุงต้ม ตลอดเวลา 1 ปีเต็ม จึงขอให้เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจไทย รัฐบาลยังดูแลครบทุกมิติ และจบการอภิปรายในเวลา 19.00 น.