“วิสาร” ส.ส.เพื่อไทย ลั่นกลางสภา “พล.อ.ประยุทธ์” แจกเงิน ส.ส. 5 ล้านบาท ด้าน “นิโรธ” ลุกท้วงพูดนอกญัตติ ขณะ “วีระกร” แสดงตัวเพิ่งลงจากห้องนายกฯ ยัน ไปให้กำลังใจ จี้ถอนคำพูด
เวลาประมาณ 15.20 น. วันที่ 2 ก.ย. 2564 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ขอเวลา 5 นาที ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อจากช่วงเช้า ภายหลัง นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายจบ ถึงพฤติการณ์การอนุมัติงบของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ราว 7,095 ล้านบาท โดยขอกล่าวหาบริษัทที่ปรึกษาที่มีลักษณะเป็นห้องแถว ต่อมามีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) แต่ล้ม ต่อมามีการประมูลแบบใช้วิธีคัดเลือกและออกหนังสือเชิญบริษัทที่ต้องการเข้ามา แต่ก็ล้มอีก ผ่านไปเกือบ 1 ปี ก็ประกวดราคาแบบ e-bidding ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ จึงตั้งข้อสังเกตถึงคุณสมบัติและความกลับกลอก
นายวิสาร ระบุต่อไปว่า พฤติกรรมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศส่อเจตนาทุจริตในการประมูลครั้งแรกไม่ลงตัวเพราะคนละพวกกัน ต่อมาครั้งที่ 2 ใช้แบบการคัดเลือกได้มาเพียงบริษัทเดียวซึ่งไม่ใช่บริษัทที่ต้องการ จากนั้นมีความพยายามจะล้มคัดเลือกเพื่อบริษัทใหม่ มีการแจ้งชัดเจนว่าการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ผิดปกติ ซึ่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ไม่สามารถทำแบบคัดเลือกได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังกล้าดีที่จะใช้วิธีการนี้ แต่เมื่อไม่ได้ก็ยกเลิกแล้วกลับมาใช้ e-bidding จนมีการร้องเรียนว่ามีการแก้ไข TOR ล้วนแต่ผิดกฎหมาย
...
ก่อนจบการอภิปราย นายวิสาร กล่าวหาว่า “ขอโอกาสนี้ประกาศไปถึงทั่วโลก ณ ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จ่ายเงินให้ ส.ส. 5 ล้านบาท อยู่ชั้น 3 ผมรับผิดชอบ การทำอย่างนี้อุกอาจมาก ทุจริต ต้องการอยู่ในตำแหน่งถึงขนาดนี้หรือ ส.ส. ไปรับเงินที่ห้องนายกฯ 5 ล้านบาทตอนนี้ เป็นไปได้อย่างไรประเทศไทย จะอยู่กับความตายของพี่น้องประชาชนแบบนี้เหรอ ล่มเถอะครับ หน้าไม่อาย ถึงเวลาแล้วเนี่ยผมคิดว่าวิญญาณทั้งหลายจะต้องสาปแช่ง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร ในสภาฯ จ่ายเงินคนละ 5 ล้านบาท ตอนนี้ครับอยู่ชั้น 3 ห้องนายกฯ”
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่าไม่ได้อยู่ในญัตติ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาชี้แจงเรื่องนอกญัตติ ไม่ทราบว่าพูดเท็จในสภาฯ หรือไม่ อีกทั้งญัตติที่เขียนมาก็เป็นตรรกะที่วิบัติ แล้วจะทำให้วัฒนธรรมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในการเขียนญัตติเกิดความวิบัติในสภาฯ เป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดี เป็นภาษาที่ฟังไม่ได้ เป็นการหมิ่นในตัว ต้องพิจารณา ไม่เช่นนั้นสภาฯ จะเสื่อม เป็นที่เบื่อหน่าย ไม่ทราบว่ามีความทรงจำเลวร้ายจากไหน
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นด้วยว่าไม่ได้อยู่ในญัตติ แต่เมื่อพูดไปแล้วก็ไม่ต้องถอน หลายคนคงมีความรู้สึกว่าข้อความในญัตติรุนแรง ถึงเรียนว่าอย่าใช้คำว่าหน้าด้าน เพราะข้อความในญัตติก็แรงกว่านั้นอยู่แล้ว อย่าเพิ่มเติมสิ่งที่ไม่อยู่ในญัตติ ส่วนประเด็นที่ นายวิสาร พูดไม่อยู่ในประเด็น แต่เมื่อถึงเวลาจะให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงเรื่องนี้
ต่อมา นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นแสดงตัวและกล่าวถึงเรื่องที่ว่ามี ส.ส. ขึ้นไปรับเงินจากนายกรัฐมนตรี 5 ล้านบาท จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมากเพราะประชาชนฟังอยู่ ตนเองเพิ่งลงมาจากห้องนายกรัฐมนตรี ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียเรื่องพวกนี้ แล้วมันเรื่องอะไรที่ยกมือหรือไม่ยกมือทำไมต้องให้นายกรัฐมนตรีมาแจกเงินทอง ซึ่งข้อเท็จจริงคือพวกเราอยากจะขึ้นไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และพูดถึงโครงการต่างๆ และเพิ่งจะลงมา
“อะไรครับ เอาเงินเอาทองอะไรกัน ผมว่ามันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว ผู้แทนราษฎรที่ไหนจะไปเที่ยวรับเงินรับทองกันทีละ 4 ล้าน 5 ล้าน แล้วจะมาแจกอะไรกันอยู่ในพื้นที่อย่างนี้ เหลวไหล พร้อมขอท่านให้ถอนคำพูดเถอะ สภาผู้แทนฯ เราเสียหาย ท่านวิสาร ช่วยถอนคำพูดที มันไม่ถูก พร้อมเพิ่งลงมานี่แหละ”
ในช่วงท้าย ประธานสภาฯ สรุปว่าเห็นด้วยกับการประท้วงว่าไม่อยู่ในประเด็น แต่ให้นายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสได้ชี้แจง ถ้าจริงก็เสียหาย ถ้าไม่จริงผู้พูดก็โกหก เสื่อมเสียต่อผู้พูดเอง จากนั้นให้ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อ.