“3ป.” ขออยู่ยาวสานต่ออำนาจน่าจะเรียกว่าเป็นโชคของรัฐบาลมากกว่าที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต
มิหนําซํ้า “วัคซีน” ที่เคยมีปัญหาก็ราบรื่นขึ้นอย่างชัดเจน
จนฝ่ายค้านตั้งคำถามว่ารัฐบาลซ่อนเร้นตัวเลขหรือเปล่า เพราะทำไมมันถึงบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่คำถามนี้มันสวนทางกับความรู้สึกของประชาชนที่พอใจกับความเป็นไป เพราะเมื่อการแพร่ระบาดอย่างนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี
รัฐบาลก็ได้คะแนนไป
จบศึกซักฟอกจะอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบฝ่ายค้านอย่างชัดเจน เพราะสามารถทำให้ประเทศกลับมาสู่ความปกติได้
เวลาที่เหลือก่อนที่จะเลือกตั้งกันใหม่
“พลังประชารัฐ” ภายใต้อำนาจ “3 ป.” จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เพราะสามารถคุมเกมการเมืองเอามาอยู่ในมือได้
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทั้งระบบก็วางคนเอาไว้หมดแล้ว
“โผทหาร” ที่มีข่าวว่าเกิดปัญหาที่สุดก็จบ ด้วยการวางตัวแม่ทัพนายกองได้อย่างที่ต้องการ แม้กระทั่ง “ตำรวจ” ก็ไม่ต่างกัน
ในสถานการณ์ที่เป็นจริงนี้ขึ้นอยู่กับโควิด-19 ว่าจะสงบลงได้อย่างที่พูดว่าเข้าสู่ความเป็นปกติจนเชื่อมั่นได้ว่า “จบ”
ก็ต้องหันมาฟื้นฟูประเทศด้านเศรษฐกิจ
อย่างหนึ่งที่ไม่มองข้ามก็คือการที่ กกต.ได้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งใน กทม. เรียบร้อยแล้วทำให้สามารถประกาศวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้ทันที
มีการวางโปรแกรมคร่าวๆ แล้วว่าน่าจะเดือน พ.ย.64
แม้พรรคการเมืองอื่นๆ หรือผู้สมัครที่ประกาศตัวล่วงหน้าไปแล้ว ก็เตรียมพร้อมเข้าไปสนามชิงชัยได้ในเร็วๆนี้
...
“ประชาธิปัตย์” นั้นเอาแน่
เมื่อมีการวางตัวบุคคลที่จะชิงชัยในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เอาไว้แล้วเพียงแต่ยังไม่เผยชื่อเท่านั้น ยังรวมไปถึงการเลือก ส.ก.ด้วย
และการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ
นั่นเป็นสัญญาณของ “นกรู้” ทางการเมืองที่อ่านสถานการณ์การเมืองแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในหนทางข้างหน้า
แม้แต่เพื่อไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้านก็คงวิเคราะห์เช่นกันว่า ไม่มีทางที่จะล้ม 3 ป. ได้ ไม่ว่าจะใช้รูปแบบไหน
แม้แต่เกม “นอกสภา” ก็ไม่สามารถโค่นรัฐบาลได้
จึงเตรียมพร้อมที่จะไปสู่ในสนามเลือกตั้งมากกว่า ล่าสุดได้เปิดเผยว่าทางพรรคได้ตัวผู้ที่จะมานำทัพคนใหม่แล้ว
ยํ้าด้วยว่าหากเปิดเผยตัวออกมาจะเป็นที่ถูกใจของประชาชน
พูดง่ายๆว่าเริ่มวางกลยุทธ์ทางการตลาดล่วงหน้าไว้แล้ว
เพราะต่างฝ่ายต่างก็แพ้ไม่ได้เช่นกัน.
“สายล่อฟ้า”