ส.ส.เพื่อไทย "ประเดิมชัย" ท้า นายกฯ กล้าเอาตำแหน่งเป็นเดิมพัน หากพรรคบิ๊กตู่ เลือกตั้งใหม่แล้วชนะ ชี้ขาดภาวะผู้นำ ม็อบถูกทำร้าย กลับนิ่งเฉย ไม่ออกมารับผิดชอบ
เมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม
โดยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าการดำรงตำแหน่งอำนาจตลอด 7 ปี เป็นการสืบทอดอำนาจ เป็นปลา 2 น้ำ อีกทั้งยังขาดภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยังควบคุมม็อบ โดยการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ที่มาจากภาษีประชาชน ไปดูแล คุ้มครองตัวเองเพื่อให้มีอำนาจและดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ โดยไม่ได้คำนึงว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้วิธีการอย่างไร ทั้งที่ผู้ชุมนุมเหล่านั้น ออกมาชุมนุมภายใต้สิทธิเสรีภาพ
ทั้งนี้ ยังพบว่าการสลายการชุมนุมยังยิงเข้าไปในสถานที่พักอาศัยของประชาชน ในแฟลตดินแดง ทั้งที่ ไม่ได้เกี่ยวข้อง รวมถึงยังมีผู้ชุมนุมบาดเจ็บ แต่นายกฯ กลับไม่เคยออกมาพูดว่าจะรับผิดชอบอย่างไรในเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกันรัฐบาลยังปิดกั้นสถานที่การชุมนุม ทำให้มวลชนแสดงออกแบบกระจัดกระจาย จนต้องออกมาแสดงออกบนถนนแทน โดยเฉพาะแยกสามเหลี่ยมดินแดง รวมถึงวิธีการของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน มีแต่ความรุนแรง กระทำการขาดสติ และการยั้งคิด เพื่อต้องการเอาชนะและเอาใจนายเท่านั้น โดยไม่สนว่าเป็นใครอีกทั้งนายกฯ ยังลุแก่อำนาจ ปิดหูปิดตาประชาชน ออกประกาศควบคุมสื่อ ในฐานะที่นายกฯ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงอยากให้มากำกับดูแลเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้หยุดใช้นโยบาย บีบให้จนแล้วแจก บีบให้โง่แล้วปกครอง ปล่อยให้ป่วยแล้วรักษา ครอบให้คนอยู่ในกะลา โดยใช้ภาษีที่รีดมาเพื่อสร้างบุญคุณ ซึ่งจะทำให้ประเทศเดินไปไม่ได้
...
นายประเดิมชัย ยังกล่าวด้วยว่าไม่แปลกใจ ที่ยังมีบรรดาสารพัดม็อบที่ออกมารวมตัวกันเรียกร้อง เพราะเห็นว่าหากไม่ได้ลุกสู้วันนี้ อาจจะต้องทนอยู่กับความตาย จึงขอเดิมพันกับนายกฯ โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส. ด้วยยอมลาออก หากมีการจัดเลือกตั้งใหม่ หากพรรคของนายกฯ ยอมลาออก และส่วนตัวจึงไม่สามารถไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ อีกต่อไปได้ และจบการอภิปรายในเวลา 19.38 น.