ความพยายามในการออกมาชี้แจงคดีผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ของผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าจะจับพิรุธกันละก็ต้องตั้งคำถามว่า ทำไมถึงได้วิ่งกันวุ่นขนานนั้น ทำไมต้องจัดตั้งให้มีคนออกมาอธิบายข้อกฎหมายองค์ประกอบความผิดและเหตุบรรเทาโทษกันขนาดนั้น เพราะเกรงว่าจะกระทบภาพลักษณ์ของ สตช.พอเข้าใจได้ แต่ถ้าจะทำเพื่อปกป้องผู้ใหญ่ใครบางคน คงเป็นเรื่องที่ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะการเติบโตของ ผู้กำกับโจ้ ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้วในแวดวงสีกากี ถ้าไม่มีนาย คอยให้การดูแล มีหรือจะรุ่งขนาดนี้
ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องฉันใดก็ฉันนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบภาค 6 ถูกเพ่งเล็งไปด้วย เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม กว่าเรื่องจะมาแดงว่าจะมีคลิปหลุดออกมาใช้เวลานานพอสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จะกระทำหรือละเว้นการกระทำใดๆก็ได้ และถ้านำความร่ำรวยที่ไม่ปกติของ ผู้กำกับโจ้ มาประกอบด้วยแล้ว ทำให้ความข้องใจทางสังคมที่มีต่อเรื่องนี้ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น
หนังสือรับรองการตายของ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ลงวันที่ 6 ส.ค. ก็เช่นกัน ระบุสาเหตุการตายเอาไว้ว่า พิษจากสารแอมเฟตามีน ทำให้กระบวนการพิสูจน์หลักฐานการเสียชีวิตใน กระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ได้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งจะต้องมีการทบทวนและปฏิรูปทั้งระบบ
จะเป็นการรับรองการตายอันเป็นเท็จหรือไม่เป็นอีกเรื่อง
เพราะมีหลายจุดที่ระบุในรายละเอียดของการเสียชีวิตที่บันทึกเอาไว้ ตามที่ได้รับข้อมูลจากตำรวจ อาทิ ผู้ตายวิ่งหนีตำรวจขณะจับยาเสพติดแล้วล้มลงหมดสติ หรือต้องรอผลตรวจโควิดก่อน เป็นต้น เป็นไปตามหลักการชันสูตรหรือไม่
...
ยังมีคลิปบางส่วนที่ระบุถึงการรีดทรัพย์หายไป กล้องวงจรปิดเสียจริงหรือไม่ เมื่อไหร่ ขั้นตอนการขอเข้ามอบตัวกับผู้กำกับโจ้ และผู้บังคับบัญชา เส้นทางหลบหนี การให้ความช่วยเหลือที่พำนัก ตลอดจนรถยนต์ปริศนาที่มาส่งผู้กำกับโจ้ในการมอบตัว ไม่มีอะไรที่โปร่งใส
ที่มาของคลิป ที่ไปโผล่ยัง ทนายดัง อย่างน้อยก็ 2 คน มีการนำคลิปดังกล่าวมาปล่อยในโซเชียล ก็เป็นขั้นเป็นตอน มีการตัดตอนอย่างเป็นระบบ
ต่อมาก็คือบรรดา ผู้ต้องหาที่อยู่ร่วมในคลิป และในขบวนการมีใครบ้าง แค่ไหนอย่างไร และ ญาติผู้เสียชีวิต ที่ปิดปากกันเงียบ ถึงเงียบที่สุด โดยเฉพาะภริยาผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ ผิดปกติวิสัย ที่ผู้เสียหายขนาดนี้จะทำใจได้ ทั้งๆที่คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้
สุดท้ายก็ต้องมาจบในบริบทที่ว่า มีนายคนไหนคอยให้การสนับสนุน ขบวนการรีดทรัพย์ตบทรัพย์ที่ถูกกล่าวหาจะตัดออกจากวงจรอุบาทว์ได้อย่างไร กรมศุลกากรกับคดีรถหรูจะเงียบไปดื้อๆ ก็ดูกระไรอยู่ ป.ป.ช. สตง. จะต้องออกมาแสดงบทบาทในฐานะที่อยู่ในกระบวนยุติธรรมเบื้องต้น โดยไม่ต้องไปคาดหวังการปฏิรูปตำรวจให้เมื่อยตุ้ม.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th