“พี่ใหญ่” คุมทัพเอง สู้ศึกฝ่ายค้าน อย่างที่บอกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นมักจะมีข่าวสอดแทรกทุกครั้ง อย่างคราวนี้ก็มีเรื่องไม่ต่างกัน

คือแซะเก้าอี้รัฐมนตรี

ดิสเครดิต “บิ๊กตู่” จะไม่หนุนให้เป็นนายกฯ

เอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไร เป็นเพียงสีสันการเมืองเท่านั้น เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดดลงไปคุมทัพเอง

ยืนยันให้ลูกพรรคยกมือสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทุกคนให้ได้คะแนนเท่ากัน ทุกอย่างจบลงไปทันที

อีกเรื่องที่เกี่ยวกับนายกฯ ซึ่งลูกพรรคได้ไปบ่นกับ พล.อ.ประวิตร ในทำนองว่านายกฯไม่มีเวลาให้กับพวกเขา

“พี่ใหญ่” ก็บอกว่า นายกฯงานหนักเลยไม่มีเวลา

ที่ไม่มีปัญหาภายในคือพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ซึ่งมีรัฐมนตรี 3 คน ถูกซักฟอกด้วย

ประชาธิปัตย์นั้นปกติก็จะมีปัญหาไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ดูเหมือนหัวหน้าพรรคจะกุมสภาพได้ ไม่มี ส.ส.ออกมากวนน้ำให้ขุ่น

มั่นใจด้วยว่ารัฐมนตรีของพรรคสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง

แต่ที่ภูมิใจไทยนั้นคราวนี้ถูกซักฟอก 2 คนคือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ถือว่าฝ่ายค้านหวังถล่มเต็มที่

เนื่องจากมีข้อมูลและมีประเด็นที่จะโจมตีได้

ถึงขนาดต้องตั้ง “องครักษ์” เพื่อตอบโต้ฝ่ายค้าน ซึ่งแต่ละคนล้วนมีประสบการณ์และคารมคมคายไม่ธรรมดา

“อนุทิน ชาญวีรกูล” โดนแน่ๆเรื่องโควิด-19 พันไปถึงเรื่องวัคซีนที่เกิดปัญหาทั้งระบบ ซึ่งฝ่ายค้านน่าจะมีข้อมูลมากพอสมควร

“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีคมนาคม ก็มีหลายเรื่องที่เป็นประเด็นค้างเก่า แต่ยังไม่เคลียร์ทั้งเรื่องรถไฟฟ้า และบุกรุกที่รถไฟ

...

ทำไปทำมาจะหนักกว่า “บิ๊กตู่” เสียอีก

จึงไม่แปลกที่นายอนุทินจำเป็นที่จะต้อง โทร.หา พล.อ.ประวิตรระหว่างการประชุมพรรคเพื่อขอคำยืนยันที่จะให้ยกมือสนับสนุน

พูดถึงเรื่องนี้แล้วต้องย้อนกลับไปถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่า ส.ส.พลังประชารัฐกลุ่มหนึ่ง

“งดออกเสียง”...

ในการลงมติไว้วางใจนายศักดิ์สยามจนเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค แม้พลังประชารัฐจะสั่งลงโทษลูกพรรค

แต่ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันยังฝังใจอยู่

คราวนี้ภูมิใจไทยจึงต้องขอคำยืนยันจาก พล.อ.ประวิตร ให้ชัดเจนก่อนที่จะถึงวันลงมติว่าจะไม่มีการแหกโผอีก

ทำให้ “พี่ใหญ่” ต้องออกมาจัดการเสียแต่เนิ่นๆ

หากเป็นอย่างนี้เมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่มี “แตกแถว” เป็นเอกภาพ

นายกฯและ 5 รัฐมนตรีก็สอบผ่านได้อย่างสบายๆ.

“สายล่อฟ้า”