น่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจกันทั้งปี ไวรัสมรณะจะได้เบาลงอานิสงส์จากศึกตะลุมบอน ว่ากันตามตัวเลขเหยื่อโควิดที่ลดลงฮวบฮาบอย่างน่าใจหาย ในวันแรกที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กับ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข โดนฝ่ายค้านลากขึ้นเขียงเชือด
“ย้ำแผล” ความบ้อท่า การบริหารจัดการโควิดผิดพลาด ประมาท ประเมินอันตรายเชื้อกระจอก แทง “ม้าเต็ง” ผิดตัว ไม่เผื่อความเสี่ยง ทำให้วัคซีนล่าช้า ไม่ได้ยี่ห้อมาตรฐาน ไม่ทันไวรัสมรณะลามระบาดหนัก วิกฤติโควิดไทยขึ้นเบอร์ต้นๆของโลก
ทำคนตายเป็นหมื่นศพ ติดเชื้อทะลุหลักล้าน งานนี้ตัวเลข ศบค.ออกมาล่าสุดเหมือนเป็นใจเข้าทางรัฐบาล ล้อกับการคลายล็อกดาวน์วันที่ 1 กันยายน ถือว่า ช่วยให้ “บิ๊กตู่-เสี่ยหนู” สู้กับแรงกระแทกของฝ่ายค้านได้พอดิบพอดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่รัฐบาลโดนเชื้อไวรัสเล่นงานจนโคม่า นายกฯโดนแรงกระแทกหนักทั้งม็อบเด็กรุ่นใหม่โห่ไล่ แม้แต่ในฝ่ายสนับสนุนเองยังมีเสียงแว่วๆ “ดันบิ๊กตู่ต่อไม่ไหว”
นั่นจึงทำให้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ รู้ผลตั้งแต่ยังไม่ทันระฆังยกแรก ตามร่องรอย “ร้าวลึก” ในทีมพรรคร่วมรัฐบาล สถานการณ์ฟ้องจากอาการรุ่มร้อน ตามข่าวแบบที่ “บิ๊กตู่” พยักหน้ายอมรับ ได้ติดต่อทางไลน์กับพี่ใหญ่อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แบบถี่ยิบ
เช็กความเคลื่อนไหวกลเกม “ซ่อนแต้ม” ผวากระแสข่าว “ดีลข้ามขั้ว ฮั้วข้ามค่าย” การเปลี่ยนตัวผู้นำ สลับพรรคร่วมรัฐบาล ดึงพรรคเพื่อไทยเข้าเสียบ “ตบเกรียน” ค่ายภูมิใจไทย
...
ต่อเนื่องกับการพูดย้ำในวงประชุม ครม.ออนไลน์ โหวตศึกซักฟอกในสภาต้องเชื่อใจกัน อาการของ “บิ๊กตู่” สะท้อนความไม่มั่นใจในความขลัง
ต่างกันลิบลับกับ พล.อ.ประยุทธ์คนเดิม ผู้กระหยิ่มในสถานะ “เบอร์หนึ่งเดียว” บัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ผู้วางตัวอยู่เหนือเงื่อนไขการเมือง ไม่เกี่ยวกับเรื่องเสียงในพรรค
“ขีดเส้น” จำกัด ระยะห่างระหว่างทำเนียบรัฐบาลกับที่ทำการ พปชร. และไม่ใช่แค่ทหารอาชีพ มือการเมืองสมัครเล่นอย่าง “บิ๊กตู่” เท่านั้น อารมณ์เดียวกันยังเกิดกับมวยเขี้ยวระดับ “เนวิน ชิดชอบ” ที่แหล่งข่าวในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ ได้ยินเสียงคุ้นๆอาจารย์ใหญ่ทีมเซราะกราวต่อสายเข้าโทรศัพท์มือถือ พล.อ.ประวิตร เช็กท่าที ขอหลักประกันความมั่นใจเกม “ซ่อนแต้ม”
ก่อนที่ “เสี่ยหนู” จะยอมรับสมอ้าง เสียงที่ต่อสายหา “บิ๊กป้อม” คือเสียงของตนเอง ไม่ใช่เสียงของอาจารย์ใหญ่ “เนวิน” แต่อย่างใด และไม่ปฏิเสธว่า โทร.ไปเช็กเสียงโหวต รีบล็อกคอ พล.อ.ประวิตร ยืนยันให้ “เชื่อพี่คนเดียว ไม่ต้องคุยกับใคร”
เขี้ยวระดับ “เนวิน-อนุทิน” ยังเสียววาบ นั่งไม่ติด เมื่อเจอคู่ต่อกรระดับ “ศีลเสมอกัน” อย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ผู้มากบารมี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ น้ำหนักหมัด เหลี่ยมมวย มันพอฟัดพอเหวี่ยงกัน
ว่ากันตามปรากฏการณ์ “บิ๊กตู่” ไลน์คุยกับ “พี่ใหญ่” เพราะอาการหวั่นไหว ต่อเนื่องกับอารมณ์กล้าๆกลัวๆของทีมเกรียนเซราะกราว “เนวิน-อนุทิน” ต้องต่อสายหา “บิ๊กป้อม” กลางวงประชุมค่าย พปชร. การันตีไม่มีเกม “ซ่อนแต้ม” เหลี่ยมหักหน้า
คิวโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่น่าจะมีรัฐมนตรี “ตกเก้าอี้คาสภา” แต่แต้มที่ออกมายากจะ “ล็อก” ตัวเลขให้เท่ากัน ตามรูปการณ์มันก็อย่างที่ “เฮียโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส หนึ่งในรัฐมนตรี “เป้าเชือด” ของฝ่ายค้าน และหนึ่งในโพย “กำจัดจุดอ่อน” ของคนในฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน ยอมรับสภาพตรงๆ ผลโหวตรัฐมนตรีแต่ละคนคงไม่เท่ากัน
ซึ่งนั่นจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ปรับ ครม.หลังศึกไม่ไว้วางใจ สไตล์รัฐมนตรีในทีม 3 ป. ที่ยังมองโลกสวย หวังลากอยู่ยาวจนครบเทอม 4 ปี แต่ในเครื่องหมายคำถาม ตามรูปการณ์
แกะรอยร้าวลึก อาการหวาดระแวงในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐ การขบเหลี่ยมในทีม พปชร.ด้วยกันเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ “บิ๊กตู่” ที่ไม่มั่นใจกับสถานะ “ตีนลอย” จากฐานกำลังเสียง ส.ส.ในค่ายพลังประชารัฐ
นายกฯจะดำรงสถานะต่อไปอย่างไร ภายใต้เงาของ ร.อ.ธรรมนัส “ผู้กุมเสียงข้างมาก” จากแต่เริ่มที่อำนาจปึ้กๆแต้มต้นทุนหน้าตักแน่นๆ ผู้นำมีพลังกั๊กโควตากลาง ล็อกกระทรวงสำคัญไว้
มาถึงจุดนี้ “บิ๊กตู่” เองยังแกว่ง ต้องต่อสายให้ “พี่ใหญ่” ช่วยคุมเกม ไร้พลังดีลอำนาจการเมืองในพลังประชารัฐ ในสภาพที่อีกด้านหนึ่งก็ “ตีนลอย” จากกองทัพ การโยกย้ายล่าสุดต้องลากจนนาทีสุดท้าย “น้องรัก” สายตรงในทีมบูรพาพยัคฆ์เหลือน้อยเต็มที
คำถามคือ ฐานรองเก้าอี้ผู้นำคืออะไร อำนาจนายกฯอยู่จุดไหน.
ทีมข่าวการเมือง