"จิรายุ" พรรคเพื่อไทย สวด งบฯ มาตรา 18 ใช้เงินจ้างทนายปีละพันล้าน ส่วน "เบญจา" ส.ส.ก้าวไกล กังวลเสียค่าโง่จ่าย "เชฟรอน" ฟ้อง สุดท้าย ลงมติเห็นชอบ 230 ต่อ 109 งดออกเสียง 1
วันที่ 20 ส.ค. ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อภิปรายฯ การพิจารณางบประมาณปี 2565 ในมาตรา 18 กระทรวงพลังงาน วงเงิน วงเงิน 1,873,129,300 บาท โดยเสนอให้ปรับงบฯ ลดลง 10 % ซึ่งที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนที่เข้ามาลงทุนในไทย แล้วเขาก็ฟ้องอนุญาโตตุลาการ ต่อกระทรวงพลังงาน มีการจ้างทนายเกือบ 1,000 ล้านบาท จากต่างประเทศ เพื่อสู้คดีที่เขาฟ้องรัฐบาลไทยผิดพลาดแต่ใช้ภาษีประชาชนจ้างทนาย รายละเอียดและข้อมูลทั้งหมดขอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาและดำเนินการ ทั้งนี้ประเด็นที่เกี่ยวข้องขอให้ติดตามต่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

...
ขณะที่ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปราย ขอแปรญัตติปรับลดงบประมาณปี65 ของกระทรวงพลังงานลง เหตุเพราะประเด็นร้อนที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หลังจากปตท.สผ.ประมูลได้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอ่าวไทยแหล่งเอราวัณและบงกช ทำให้บริษัทเชฟรอน ผู้รับสัมปทานเดิมต้องรื้อถอนแท่นผลิตรวม 1.5 แสนล้านบาทและส่งมอบทรัพย์สินคืนให้กับรัฐ ทำให้บริษัทเชฟรอนฟ้องฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการต่อรัฐไทย เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะกระทรวงออกกฎกระทรวงย้อนหลัง
“เรื่องนี้น่าห่วงและกังวลว่าจะกลายเป็นความบกพร่อง ขาดความรอบคอบ ไม่รัดกุมของทางรัฐบาลหรือไม่ อยากให้กมธ.ชี้แจงและตอบคำถามว่าจากเหตุการณ์นี้จะส่งผลให้ประชาชนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายงบประมาณคดีค่าโง่หรือไม่ เหมือนหลายคดีหรือไม่ แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยุค คสช. ระบุว่าการยื่นฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการเป็นสิทธิผู้ประกอบการทำได้ แต่หากรัฐมนตรีทำให้เป็นธรรม เหตุการณ์แบบนี้ การเสียค่าโง่อาจไม่เกิดขึ้น จึงขอให้ชี้แจง หากตอบไม่ได้ จำเป็นต้องขอตัดลดงบกรมเชื้อเพลิงพลังงานจำนวน 185 ล้านบาท เพื่อเตรียมใช้ในกรณีที่มีการฟ้องร้องในชั้นอนุญาโตตุลาการทั้งหมด”
หลังจากใช้เวลาอภิปรายมาตรา 18 เกือบ 2 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 230 ต่อ 109 งดออกเสียง 1