นายกฯ ตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วย โควิด-19 รพ.พระมงกุฎฯ ที่เสริม ward covid 100 เตียง ก่อนรุดเยี่ยม รพ.แสงแห่งใจ อ.บางพลี ยกเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมของทุกฝ่าย ให้กำลังใจทุกคน ขออย่าท้อแท้ ย้ำ ปีหน้าคาดไทยมีวัคซีนใช้เป็นของตนเอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ส.ค.ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ร่วมตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วย โควิด-19 ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชั้น 4 ใช้เป็นพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้กำลังต่อเติม และปรับพื้นที่เปิด ward covid 100 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยประชาชนทั่วไป

ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลและนายกฯ ที่ห่วงใยประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพระดมทรัพยากรดูแลประชาชน ขยายขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่เดิมและเพิ่มการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่หน่วยทหารให้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพราะทุกส่วนราชการมีหน้าที่ต้องช่วยกันดูแลประชาชน โดยมีพล.ท.ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก พล.ต.สุรศักยนายกฯ ได้กล่าวว่า ให้กำลังใจและฝ่ายบอกลูกน้องทุกคนอย่าท้อแท้ เป็นกำดิ์ ถนัดศีลธรรม ผอ.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และพล.ท.ธารา พูนประชา ผอ.การศูนย์อำนวยแพทย์พระมงกุฎเกล้า ให้การต้อนรับ และร่วมบรรยายสรุปการดำเนินงาน พร้อมนำตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในส่วนของต่างๆ โดลังใจให้กันและกันให้ดี ตนเป็นกำลังใจให้ทุกคน คุณหมอ คณะแพทย์
...

จากนั้น นายกฯ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และ นพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผอ.การโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ /ผอ.โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจรายงานการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับผู้ป่วยระดับสีเขียวและสีเหลืองอ่อน แบ่งเป็นผู้ป่วยหญิง 225 เตียง ผู้ป่วยชาย 225 เตียง รวม 450 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจแล้วประมาณ 400 คน

ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวถึงการเดินทางมาวันนี้ เพื่อให้กำลังใจกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แล้วช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลภาครัฐเช่นกัน ถือเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐภาคเอกชน และภาคประชาสังคม นอกจากการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามแล้ว รัฐบาลและ ศบค. ยังได้ให้มีระบบการดูแลที่บ้านและในชุมชน HI และCI ด้วย พร้อมๆ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้สามารถรองรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไทยก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก คาดว่า ภายในปีหน้าจะเกิดผลเป็นรูปธรรม ไทยจะให้มีวัคซีนเป็นของตนเองใช้ในประเทศไทย
ทั้งนี้ นายกฯยังฝากความห่วงใยถึงทุกคนว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดสวมใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โอกาสนี้ นายกฯ ยังตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองและลงทะเบียนผู้ป่วยฯ และรับชมการสาธิตการทำงานของหุ่นยนต์ปิ่นโต และแอปพลิเคชัน ไข่ต้ม ฮอสพิทอล ซึ่งใช้สำหรับในการส่งสิ่งของ ยา อาหารและเวชภัณภ์ให้ผู้ป่วย พร้อมตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ผ่าน Command Center โดย สอบถามอาการและให้กำลังใจผู้ป่วยผ่านระบบ Telehealth โดยผู้ป่วยแจ้งว่าตนเองได้เข้าสู่ระบบการรักษาเมื่อวานและอาการดีขึ้นแล้ว และขอขอบคุณท่านนายกฯ ที่มาให้กำลังใจ