ศาลอาญายกคำร้องประกันตัว "ไผ่ ดาวดิน" ศาลให้เหตุผลว่า ไต่สวนแล้วแม้ไม่ผิดเงื่อนไขพาดพิงสถาบัน แต่เป็นการก่อให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ถือว่าเป็นการก่ออันตรายประการอื่น หลังอัยการยื่นถอนประกัน

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่ศาลอาญา ศาลได้อ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว ของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จำเลยที่ 7 คดีดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน กับพวกรวม 22 คน เป็นจำเลยคดีปักหมุดสนามหลวง ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ มั่วสุมชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 116 ฯ ภายหลังศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันเนื่องจากอัยการสำนักงานพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ยื่นคำร้องว่าจำเลยกระทำผิดเงื่อนไข

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของจำเลยที่ 7 และโจทก์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าก่อนหน้านี้จำเลยวันที่ 23 เม.ย.64 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 7 ทำกิจกรรมใดๆ อันเป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และต้องมาศาลตามกำหนดนัด

หลังจากนั้นจำเลยที่ 7 ถูกดำเนินคดีอีก 11 คดี โดยส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในภาวะฉุกเฉิน โดยเป็นการชุมนุมทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาล และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เนื่องจากบริหารราชการในการแก้ไขสถานการณ์โรคโควิด ให้มีการจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพมาให้ราษฎร และให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

มีปัญหาว่ามีเหตุอันควรเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 7 หรือไม่เห็นว่าการเข้าร่วมชุมนุมที่บุคคลอื่นจัดขึ้นที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 บนถนนวิภาวดี-รังสิตนั้น

พ.ต.อ.เทิดไทย สุขไทย พยานโจทก์ตอบคำถามค้านของจำเลยที่ 7 รับว่าจำเลยที่ 7 ได้ขึ้นไปเข้าร่วมการชุมนุมของบุคคลอื่นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการจราจรของผู้เดินทางในการชุมนุมเพื่อให้การสัญจรเป็นไปได้ด้วยดี และพยานโจทก์ปากนี้ยอมรับว่าความหมายของคำว่าเขตพระราชฐานตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ หมายถึงที่ซึ่งพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ชั้นเจ้าฟ้าประทับอยู่เท่านั้น ส่วนกรมทหารราบที่ 1 ไม่ใช่สถานที่ที่พระมหากษัตริย์ทรงประทับอยู่ เห็นว่าความหมายของคำว่า ราชฐานตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า อาณาบริเวณที่ประทับของพระมหากษัตริย์ และตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ มาตรา 7 บัญญัติห้ามการชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป พระราชนิเวศน์ พระตำหนัก หรือจากที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประทับหรือพำนัก ซึ่งตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นการห้ามชุมนุมในสถานที่ที่พระมหากษัตริย์ใช้เป็นที่ประทับ เมื่อพื้นที่กรมทหารราบที่ 1 ไม่ใช่ที่ประทับ จึงไม่เป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับการการชุมนุมสาธารณะ การชุมนุมหน้าสถานที่ดังกล่าวจึงไม่ใช่การกระทำการอันกระทบถึงสถาบันฯ

...

นอกจากนี้โจทก์มิได้มีข้อกล่าวหาใดว่า จำเลยที่ 7 กระทำการอันไม่บังควรต่อสถาบันฯกรณีจึงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 7 ไม่ได้กระทำการอันเป็นการกระทบกระเทือนต่อเกียรติภูมิของสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงไม่ผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนด

แต่รับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยที่ 7 ได้ทำการชุมนุมหลายครั้งหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว ลักษณะการกระทำเป็นการประท้วงเรียกร้องต่อรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรีลาออก และเรียกร้องให้พรรคการเมือง เจ้าพนักงานตำรวจ และสถาบันอื่น ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป โดยในการชุมนุมจะมีการปราศรัย และบางครั้งมีการสาดสีใส่ป้าย หรือสถานที่ของพรรคการเมือง สถาบัน หรือสถานีตำรวจดังกล่าว

อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกฯ ร่วมประชุมปรึกษาคดีแล้วมีมติว่า แม้ว่าจำเลยที่ 7 จะมิได้กระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลนี้กำหนดในการปล่อยชั่วคราวเมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 ก็ตาม แต่หลังได้รับการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองจนนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาในชั้นเจ้าพนักงานหลายครั้ง การชุมนุมบางครั้งมีการตั้งข้อเรียกร้องต่อเจ้าพนักงานตำรวจให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม บางครั้งมีการสาดสีใส่สถานที่ทำการและป้ายของพรรคการเมือง หรือสถานีตำรวจ ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นการก่อให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย พอจะถือว่าเป็นการก่ออันตรายประการอื่นตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3) อันเป็นเหตุที่ศาลจะเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวได้ทันที โดยไม่ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยที่ 7 ทราบล่วงหน้าเพื่อปฏิบัติตามก่อน แต่อย่างใดการที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวในคดีนี้จึงชอบแล้วให้ยกคำร้องส่วนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

นอกจากนี้ศาลอาญายังได้ยกคำร้องขอประกันตัวในชั้นฝากขังอีก 2 สำนวน ประกอบด้วยสำนวนหมายเลขดำ ฝ.857/2564 (นายไผ่กับพวกรวม 3 คน) และสำนวน หมายเลขดำ ฝ.858/2564 (นายไผ่กับพวกรวม 4 คน) โดยให้เหตุผลลักษณะเดียวกันกับคดีดำ อ.287/2564 (หรือปักหมุด) ด้วย.