พท.โต้เดือดข้อครหาก้าวไกล ตีเช็คเปล่าให้ “ตู่” ถลุงงบกลาง “ประเสริฐ” เตือนเพื่อนร่วมทางยังมีภารกิจร่วมกันอีก งบฯก้อนนี้ต้องใช้แก้โควิดเท่านั้น “ชลน่าน” โอดยัดข้อกล่าวหารุนแรงไป “สุทิน” บอกอย่าเพิ่งคิดไปไกลไม่ได้ฮั้วปูทางจูบปาก พปชร. “โจ้” ยอมวางเดิมพันเลิกเล่นการเมือง “อนุสรณ์” ท้าพรรคร่วม รบ.พูดให้ชัดๆ หนุน “บิ๊กตู่” ลากต่ออำนาจ “พิธา” ฉะรัฐบาลทำคนไทยเจ็บแล้วไม่จบ อยากพ้นวิกฤติต้องเปลี่ยนผู้นำคณะ ถกแก้ รธน.เดือดจวก ปธ.เผด็จการปิดปาก กมธ. “ไพบูลย์” ตีฝีปากท้าทายคนมาชุมนุม อัยการนัดส่งฟ้อง “วิรัช” คดีโกงสนามฟุตซอลต่อศาลฎีกาฯ ตร.ปรับ จนท. แอมเนสตี้ฯเบาะๆคนละ 700 บ.
สองพรรคร่วมฝ่ายค้านเกิดอาการขบเหลี่ยมกันหนัก จากปมการปรับลดงบฯไปโปะไว้ที่งบกลาง โดยพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกฯไปใช้โดยไม่มีการตรวจสอบ ขณะที่พรรคเพื่อไทยตอบโต้เพื่อนร่วมทาง ยัดข้อกล่าวหาใส่กันรุนแรงเกินไป พร้อมเตือนสติยังมีภารกิจสำคัญต้องทำร่วมกัน

...
พท.โต้เดือดตีเช็คเปล่าให้ “ตู่”
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ส.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เกี่ยวกับการตัดงบฯไปไว้ที่งบกลางว่า พรรคเห็นว่างบฯที่ปรับลดมา ได้ควรนำมาแก้ไขปัญหาโควิด เราขอเรียกงบส่วนนี้ว่าเป็นงบโควิด ยืนยันได้จากคำขอใช้งบกลางของรัฐบาลที่ระบุวัตถุประสงค์การใช้ไว้ชัดเจนว่าเพื่อสำรองไว้บรรเทาแก้ปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดโควิด ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจและสังคม เอาไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ และเพื่อสร้างความมั่นใจอีกชั้น กมธ.งบฯของเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตท้ายร่างฯว่าต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่สามารถเอาไปใช้ได้โดยพลการ หรือไม่มีการตรวจสอบ
เตือนก้าวไกลยังมีภารกิจร่วมกัน
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอว่าควรนำเงินที่ปรับลดไปเพิ่มเติมส่วนต่างๆหลายรายการนั้น เมื่อดูรายละเอียดแล้วเห็นว่าที่เสนอมา ไม่เกี่ยวกับโควิด ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของเรา ขอย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยังยืนยันว่าไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ เราจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วๆนี้ เป็นการตัดสินใจโดยสุจริตปราศจากผลประโยชน์ บนพื้นฐานต้องเอาไปช่วยประชาชน คำกล่าวหาว่าให้งบกลางกับ พล.อ.ประยุทธ์ไปใช้ซื้ออาวุธยิงประชาชนถือว่าเกินเลยข้อเท็จจริง หรือเอามาให้ ส.ส.แบ่งเค้กกันก็ไม่มีมูลความจริง เราวิจารณ์นายกฯมาตลอดเป็นไปไม่ได้ที่จะเอางบฯไปแบ่งเค้ก และพรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดว่าจะมีประโยชน์ตรงนี้ เราระวังไม่ยอมตกเป็นเหยื่อการเมือง แยกมิตร แยกศัตรู ไม่ทำร้ายใคร ไม่อยากให้มาทะเลาะกันเองเรื่องที่ไม่มีทางชนะ เรายังมีภารกิจต้องทำงานร่วมกันในอนาคต
งบกลางต้องใช้แก้โควิดเท่านั้น
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 กล่าวว่า ที่บอกว่ารายการทั้งหมดเหมือนตีเช็คเปล่านั้น สำนักงบประมาณตีกรอบไว้เลยว่างบกลางต้องใช้สำหรับโควิดเท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย เมื่อโควิดสำคัญที่สุดก็ต้องเอาไปไว้ที่งบกลาง ต้องแยกระหว่างความไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์กับสถานการณ์โควิด เราเลือกการแก้ปัญหาให้ประชาชนก่อนโดยวางความไม่ไว้วางใจไว้เป็นการตัดสินใจครั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาโควิด

โอดยัดข้อกล่าวหารุนแรงไป
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน กมธ.งบฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ระบุว่าเหมือนตีเช็คเปล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์เอาไปใช้ซื้อกระสุนยางมายิงประชาชน เป็นข้อหาที่รุนแรง หาก พล.อ.ประยุทธ์นำงบกลางของปีที่ผ่านมาไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติซื้ออาวุธมาควบคุมฝูงชน เป็นการใช้งบกลางอื่น ไม่ใช่งบกลางที่ กมธ.งบฯชุดนี้อนุมัติ งบก้อนนี้ยังไม่ถูกนำมาใช้ เมื่อเห็นว่าต้องมุ่งไปที่โควิดโดยตรงก็คืองบกลางที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะสำหรับแก้โควิดเท่านั้น แต่เมื่อผู้รับผิดชอบการใช้จ่ายตรงนี้คือนายกฯ แต่การใช้จ่ายมีขั้นตอนระเบียบต่างๆอยู่ ที่ผ่านมานายกฯนำทุกเม็ดเงินเข้าคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ถ้าเกิน 100 ล้านบาท ต้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ในส่วนของสภาฯยังสามารถตรวจสอบได้ ทั้งการตั้งกระทู้ถามสด และตรวจสอบผ่านคณะกรรมาธิการชุดต่างๆที่มีอยู่ อย่างถ้าเอาไปซื้อกระสุนยางโดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้มีการชุมนุม หรือเอาไปซื้อเงาะแจกเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่แก้ปัญหาโควิด หากสำนักงบประมาณอนุมัติ คงโดนยำโดนด่าแน่ เพราะไม่ตรงวัตถุประสงค์ ผอ.สำนักงบฯมีโอกาสโดน
อย่าคิดไปไกลไม่ได้ฮั้วปูทาง
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่ามองต่างกัน แต่มองที่ผลประโยชน์ประชาชน พรรคไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ เราต่อสู้และขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ เช่น งบกระทรวงกลาโหมเราฟาดฟันจนมองหน้ากันไม่ติด เพิ่งเห็น ตรงกันคืองบกลาง เชื่อว่าจะเข้าใจกันและพร้อมใจกันทำงานเต็มที่ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ต้องกังวล ยืนยันไม่ได้ปูทางนำไปสู่การฮั้วกันหลังเลือกตั้ง เมื่อถามว่าช่วงหลังพรรคพลังประชารัฐและเพื่อไทยเห็นตรงกันบ่อย นายสุทินตอบว่า อาจด้วยความเป็นพรรคใหญ่ที่มีจุดยืนของตนเองและบังเอิญตรงกัน ถ้าจะให้ฮั้วกันหลังเลือกตั้งเป็นเรื่องที่คิดไปไกลมาก

“โจ้” เดิมพันยอมเลิกเล่นการเมือง
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กมธ.งบฯ กล่าวว่า มั่นใจว่าไม่ใช่การตีเช็คเปล่าให้นายกฯ ทุกอย่างมีระเบียบที่สำนักงบประมาณกำกับไว้ ทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตาม ถ้าพบทุจริตต้องรับผิดชอบ งบที่ให้ไปทั้งหมดการันตีว่าถูกนำไปช่วยประชาชนเกี่ยวกับโควิดแน่นอน การแปรญัตติพรรคก้าวไกลไม่เห็นไปช่วยโควิด ส.ส.ทุกคนเห็นว่าประชาชนกำลังเดือดร้อนกับโควิดจริงๆ ถ้ามีการนำงบกลางไปใช้ผิดระเบียบ ไม่เกี่ยวกับโควิด ถ้ามีหลักฐานพิสูจน์ได้พร้อมลาออกจาก ส.ส. เลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ส่วนที่นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคเพื่อไทยเล่นละครตบตาประชาชนนั้น นายตรีรัตน์ไม่เคยเป็น ส.ส. และออกจากพรรคไปแล้ว ถือว่าไม่มีราคาทางการเมือง พรรคเคยอุ้มชูอย่าเนรคุณพรรค
ท้าพูดให้ชัดหนุน “ตู่” ลากอำนาจ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายกฯพร้อมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาย้ำภาพความสัมพันธ์ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวนั้น แม้รัฐบาลจะไอโอว่าไม่ทิ้งประชาชน แต่ประชาชนเกือบทั้งประเทศทิ้งรัฐบาลไปนานแล้ว สิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลเชื่อมั่นสวนทางกับประชาชนที่ไม่หลงเหลือความเชื่อมั่นให้รัฐบาล เมื่อกล้าท้าทายความรู้สึกประชาชน ถึงวันเลือกตั้งต้องยอมรับและเคารพการตัดสินใจของประชาชน อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันใน 3 ข้อ คือ 1.ยืนยันจะไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล 2.พรรคพลังประชารัฐควรยืนยันให้ชัดว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า และ 3.พรรคร่วมรัฐบาลควรยืนยันว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ

“พิธา” ฉะ รบ.ทำคนไทยเจ็บไม่จบ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่ทะลุ 20,000 คนต่อวัน ขอเตือนว่าการล็อกดาวน์กำลังจะสูญเปล่า เจ็บครั้งนี้ยังไม่เห็นทางจบ ปัญหาของเราไม่ใช่ไม่มีงบประมาณ แต่อยู่ที่ความสามารถในการจัดการของผู้นำ จากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พบว่าอัตราการตรวจพบเชื้อโควิดในไทยสูงถึง 24 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ากลัว ตัวเลขนี้ตีความเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากหายนะ ประชาชนจะเจ็บแล้วเจ็บเล่าโดยที่รัฐบาลอยู่ในสภาวะไร้ประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ออกมาตรการล็อกดาวน์ มีอำนาจเต็มจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่รวบอำนาจไว้ในมือ และมีเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ กว่า 1.5 ล้านล้านบาท
อยากพ้นวิกฤติต้องเปลี่ยนผู้นำ
นายพิธาระบุอีกว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าปัญหารัฐบาลนี้ไม่ใช่ไม่มีงบประมาณ จากที่ดูตัวเลขการอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองฉุกเฉิน และรายการแก้ปัญหาโควิด-19 จากงบฯปี 64 ที่ตั้งเอาไว้รวม 140,000 ล้านบาท สืบค้นได้ในมติ ครม.พบว่ามีการอนุมัติแค่ 46,000 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1 ใน 3 นี่ยังไม่นับ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลออกมาได้จะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังเป็น black box หรือ “พื้นที่ดำมืด” ที่เรายังไม่ทราบว่ารัฐบาลเอาไปทำอะไรบ้าง ดังนั้น ถ้าเราอยากออกจากวิกฤตินี้ ต้องเปลี่ยนตัวผู้นำและคณะ คืนอำนาจให้ประชาชน รวมถึงแก้ไขปัญหาโครงสร้างการเมืองไทยโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจแต่ไร้ความสามารถกลุ่มเดิมกลับมาได้อีก
ถกแก้ รธน.เดือด ปธ.เผด็จการ
ช่วงเช้าที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม ทันทีที่เริ่มประชุมนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธาน กมธ.ฯทักท้วงเรื่องการแก้ไขระบบเลือกตั้งเกินกว่าที่รับหลักการในวาระแรก เป็นการขัดข้อบังคับการประชุมข้อ 124 ทำให้นายไพบูลย์รีบเบรกว่าให้พิจารณาไปตามวาระการประชุม ทำให้นายธีรัจชัยไม่พอใจและพูดเสียงดังลั่นลอดออกมานอกห้องประชุม ว่า “ประธานปิดปาก ไม่ให้ผมแสดงความคิดเห็น เป็นประธานต้องทำงานเป็นกลาง ไม่ใช่ขัดขวางไม่ให้ เสนอความคิดเห็น” แต่นายไพบูลย์ยังย้ำให้ดำเนินการไปตามระเบียบวาระ หากยังไม่หยุดโวยวายจะใช้อำนาจเชิญออกจากห้องประชุม จนนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธาน กมธ.ฯต้องช่วยไกล่เกลี่ยจนนายธีรัจชัยยอม

“ไพบูลย์” ฟุ้งเสร็จก่อน 18 ก.ย.แน่
ต่อมานายไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อบังคับรัฐสภาข้อ 124 ชัดเจนอยู่แล้วว่าการแปรญัตติที่เป็นไปตามหลักการ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวเนื่องทำได้ กมธ.มีหน้าที่แค่นำคำแปรญัตติไปพิจารณาจะเห็นชอบหรือไม่ หากมีปัญหาต้องเป็นอำนาจรัฐสภาชี้ขาด ไม่ใช่อำนาจ กมธ.จะมาตีความข้อบังคับเอง มั่นใจการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่มีปัญหา เป็นการแก้รายมาตรา ไม่ได้แก้มาตรา 256 จึงไม่ต้องทำประชามติ เชื่อว่าการแก้ไขวาระ 3 จะเสร็จทันก่อนวันที่ 18 ก.ย. และไม่น่ามีประเด็นส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เว้นแต่ฝ่ายไม่อยากให้แก้ระบบเลือกตั้งเสียประโยชน์ พยายามขัดขวางทุกทาง หากผ่านวาระ 3 แล้วจะยื่นแก้ไข พ.ร.บ.เลือกตั้ง และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ปลายเดือน ก.ย. คาดว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณารัฐสภาสมัยประชุมต่อไปในเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค.
ตีฝีปากท้าทายคนมาชุมนุม
เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า ปี 2566 รัฐบาลจึงจะครบวาระ รัฐบาลต้องทำหน้าที่ให้ครบวาระ การเรียกร้องต่างๆเป็นฝ่ายตรงข้ามที่อยากให้พวกตัวเองได้เป็นรัฐบาล คนที่เรียกร้องมีกี่คน ทำไมไม่เคารพเสียงคนหลายสิบล้านคน ขอให้รอการเลือกตั้งแล้วมาพิสูจน์กัน บางคนไปแอบอ้างเป็นเพื่อนลูกสาวนายกฯใช้อภิสิทธิ์เรียกร้องให้เสียงดังกว่าชาวบ้าน ถือเป็นอภิสิทธิ์ชนไม่ใช่นักประชาธิปไตย เมื่อถามว่าการออกมาชุมนุมของกลุ่มต่างๆจำนวนมาก รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า ไม่มีการเขียนในรัฐธรรมนูญว่าคนมาชุมนุมแล้วจะต้องทำตาม คนที่ออกมาชุมนุมควรตระหนัก ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่เคยเห็นการชุมนุมใดที่กระจิ๊บกระจ้อยขนาดนี้
กก.ซัด ปธ.ทำไมต้องเร่งรัดตัดบท
ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการถกเถียงเรื่องการแปรญัตติของสมาชิกนอกเหนือจากที่บรรจุไว้ในหลักการ แต่กลับถูกตัดบทจากประธานฯเป็นระยะ จนสมาชิกหลายคนไม่สามารถอภิปรายได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่าการพิจารณากฎหมายสำคัญทำไมต้องเร่งรัดเร่งรีบ ดูแล้วเป็นแค่พิธีกรรม เชื่อลึกๆว่าเขาเตรียมเนื้อหาที่ต้องการไว้แล้ว
จับไต๋ พปชร.สอดไส้แก้ไข รธน.
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กมธ.ฯ กล่าวว่า กำลังเกิดปรากฏการณ์การสอดไส้ใน กมธ.ฯ มีความพยายามเปลี่ยนแปลงให้ร่างแก้ไขของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนร่างกฎหมายอื่นที่สภาโหวตคว่ำไปแล้ว ถ้าจะทำกันแบบนี้คราวหลังไม่ต้องกำหนดว่าต้องทำกัน 3 วาระ เพราะไม่มีความหมาย เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือในสภา พรรคก้าวไกลพยายามหาข้อตกลงว่าจะทำกันอย่างไร แต่น่าเสียดายว่านายไพบูลย์กลับเพิกเฉยไม่ได้ทำหน้าที่ประธานอย่างสมบูรณ์ ตีมึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปลายทางเราก็เห็นว่ามีการสอดไส้ อยากให้ กมธ.ทุกพรรคช่วยกันผลักดัน อย่าปล่อยให้มีการสอดไส้ ขอเตือนสตินายไพบูลย์ให้ฟังให้มาก พูดให้น้อยกว่านี้ และทำหน้าที่ประธานให้สมบูรณ์กว่านี้
“ธรรมนัส” ควง “นฤมล” เข้าวัด
ที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร กทม. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เหรัญญิกพรรค และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ลัง แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 10 แกลลอน หน้ากากอนามัย 4,000 ชิ้น ถวายให้วัดเพื่อช่วยเหลือพระภิกษุ สามเณร และประชาชนที่อาศัยใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยพรรคจะนำสิ่งของไปช่วยเหลือวัดในพื้นที่ต่างๆ ตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ที่สั่งให้ ส.ส.พื้นที่เร่งอำนวยความสะดวกดูแลประชาชน

“เกษตรกร Happy” ช่วยชาวสวน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นภาพผลไม้มังคุด ลำไย เงาะ พร้อมข้อความระบุว่า ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันจัดทำโครงการ “เกษตรกร Happy” เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้ไทย ที่กำลังประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ และไม่สามารถกระจายไปยังตลาดต่างประเทศได้ในช่วงนี้ ด้วยการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไปรษณีย์ไทย ฟรีทั้งค่าบรรจุหีบห่อ และค่าขนส่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ตนและ ครม.ร่วมกันอุดหนุนผลผลิต ส่งเป็นกำลังใจไปให้กับเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้า ที่ทำงานตรากตรำปกป้องแนวหลังจากโควิด-19 ขอเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนโครงการ “ร่วมปันน้ำใจจากแนวหลังสู่แนวหน้า”
อัยการนัด “วิรัช” ส่งฟ้องศาลฎีกาฯ
อีกเรื่อง นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล พร้อมพวกรวม 88 คน ทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษา 2 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จ.นครราชสีมา 7 สำนวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรายละเอียดร่างคำฟ้อง เนื่องจากคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก เพื่อให้คำฟ้องครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนเสนอให้อัยการสูงสุด (อสส.) เซ็นลงนามในคำฟ้อง เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งนี้ ได้แจ้งให้ ป.ป.ช. ตามตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 88 คนมาพบอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ในวันที่ 14 ก.ย. เวลา 09.00 น. โดยจะนำคำฟ้องและตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

งัดประกาศ ผบ.สูงสุดห้ามชุมนุม
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง มีประกาศฉบับที่ 9 ลงวันที่ 3 ส.ค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนประชาชนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ตามประกาศฯ อาจถือว่าเป็นการฝ่าฝืนประกาศฯ เข้าข่ายเป็นความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 18 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
แอมเนสตี้ฯโดนปรับคนละ 700 บ.
ต่อมาเวลา 12.30 น. น.ส.ภัทรานิษฐ์ เยาดำ เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายรณรงค์เชิงนโยบาย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน พร้อมพวกรวม 5 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง รับทราบข้อกล่าวหาจากการร่วมกิจกรรมเสวนา “คืนยุติธรรม” เพื่อรำลึกถึงผู้ถูกบังคับให้สูญหาย เนื่องในวาระครบ 1 ปี 1 เดือน การหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล มีมวลชน และตัวแทนจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ จากนั้นนางปิยนุช โคตรสาร ตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ประเด็นที่พูดในวันนั้นเป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ทุกคนไม่ควรถูกดำเนินคดีเพียงแค่ประชาชนลุกขึ้นมาพูดในเรื่องสิทธิมนุษยชน แสดงให้เห็นว่ารัฐพยายามที่จะใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ทั้งที่ประเทศไทยมีพันธะต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาให้รับทราบ และดำเนินการเปรียบเทียบปรับคนละ 700 บาท
“เอ้ เดอะวอยซ์” เลื่อนพบตำรวจ
ขณะที่ น.ส.กุลจิรา ทองคง หรือเอ้ นักร้องประกวดจากเวทีเดอะ วอยซ์ ซีซัน 3 โพสต์ลงอินสตาแกรม เป็นภาพหมายเรียกครั้งที่ 2 จากพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ในข้อหา “ร่วมกันชุมนุมโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.รักษาความสะอาด, พ.ร.บ.การจราจรทางบกฯ” ในหมายระบุว่า ให้มาพบเจ้าพนักงานในวันที่ 4 ส.ค. แต่เจ้าตัวได้โพสต์ตอบแฟนคลับผ่านช่องทางอินสตาแกรมว่า “ได้ขอเลื่อนไปวันที่ 31 ส.ค.นี้แล้ว”
หมายจับ “กวิ้น” ร้องปล่อย “ไผ่”
ช่วงค่ำวันเดียวกัน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) นายพรหมศร หรือฟ้า วีระธรรมจารี รวมทั้ง แกนนำคนอื่น ตามที่พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ขอให้ออกหมายจับฐานความผิดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกัน จัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และอื่นๆอีกหลายข้อหา ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีการจัดกิจกรรมวาดสีและเรียกร้อง ให้ปล่อยตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า ที่ถูกควบคุมตัวหน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เมื่อวันที่ 2 ส.ค.