แค่กลิ่นควันท่อไอเสียรถถัง โชยออกมาจากค่ายทหาร สถานการณ์ยังเป็นแค่ “Fake news” ตามอาการเทกแอ็กชันแรงๆของ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.สั่ง พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก ไล่แจ้งความดำเนินคดีกับคนปล่อย “ข่าวปลอม”
จ่าฝูงทัพบกประกาศกฎอัยการศึก ล้อมกรอบผู้นำทหารเฒ่าไปกบดานในค่าย ร. 21 ชลบุรี ไล่บี้ต้นตอข่าวปล่อยในโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนตื่นตกใจ ตลาดหุ้นผวา ในจังหวะท้าทายท่านผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เพิ่ง “ติดหนวด” สั่งทีมเกสตาโป ทั้งกระทรวงดีอีเอส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ล่า ไล่ทุบขบวนการเฟกนิวส์
พาลกระแทกสื่อหลัก ห้ามกระพือกระแสแม้แต่ “ข้อเท็จจริง” ที่ทำสังคมหวาดกลัว ข่าวปลอม “แอ่นแอ๊น” ปฏิวัติของจริงไม่ลือ ถ้าลือยังไม่จริง
แต่ข่าวจริง ไม่ใช่เฟกนิวส์ ยุทธการ “จี้นิ่มๆ” ตามการนำเสนอของสำนักข่าวอิศราฯ โชว์ “จดหมายเปิดผนึก” จากกลุ่มเพื่อนนิเทศจุฬาฯรุ่น 40 ลงชื่อ ส่งถึง “พลอยเพลิน” ลูกสาวนายกฯ ขออาศัยใช้เสียงคนสำคัญ
ให้ลองยื่น “กำไลหินใจเย็น” กระซิบให้พ่อลาออก แสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารงานผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้อื่นที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแทน เพราะการบริหารงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเท่านั้นคือปัจจัยสำคัญที่จะคลี่คลายวิกฤติ
“โควิดเอฟเฟกต์” ไหลลามกระแทก “กล่องดวงใจ” ท่านผู้นำ ตามฉากสถานการณ์ที่ “บิ๊กตู่” ประกาศไม่ทีทางถอย ยังเป็นแม่ทัพ “ซิงเกิลคอมมานด์” รับมือมหาวิกฤติไวรัสโควิด นั่งหัวโต๊ะประชุมเครียด ศบค.ชุดใหญ่ ประกาศ “ล็อกดาวน์” ต่อ ลากกันยาวๆไป ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ขีดวงเพิ่มโซนสีแดงอีก 16 จังหวัด
...
แข่งกับตัวเลขจริง อ้างอิงประกาศ ศบค.วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม ต้นสัปดาห์ใหม่ ยอดคนตายทะลักไป 178 ศพ ไต่ระดับแตะหลัก 200 คน คนป่วย 1.7–1.8 หมื่นราย
ล้อกับภาพข่าวชัดๆ ไม่ใช่เฟกนิวส์ ไม่ได้ “จัดฉาก” ตาย ชายอายุ 56 ปี ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตริมถนนเจริญกรุง กลางเมืองหลวง กทม. ภายหลังภรรยาและบุตรชายพาขึ้นแท็กซ่ีไปขอตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธทุกแห่ง เพราะผู้ป่วยล้นจนเกินศักยภาพ

สะท้อนวิกฤติ คนติดเชื้อกลัวถูกทิ้ง ไม่รอตายอยู่บ้าน ขณะที่ข่าวจริง ไม่เฟกนิวส์ แอปฯ “หมอพร้อม” ของกระทรวงสาธารณสุข ประกาศ “เทคิว” ยกเลิกที่เปิดให้ประชาชนจองวัคซีนในวันที่ 30–31 กรกฎาคม 2564 ทั้งหมด อ้างความผิดพลาดระหว่างปรับปรุงระบบ
ต่อเนื่องกับข่าวจริง นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยอมรับต้องปิดศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลใน กทม. 25 จุดให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ไทยร่วมใจ” ชั่วคราว เนื่องจากยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนลอตใหม่ “วัคซีน” สะดุด ความหวังสุดท้ายยังล่องลอย
และต้องสะดุ้ง ข่าวจริง หน่วยควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกาประกาศเตือน โควิดสายพันธุ์เดลตาเชื้อแพร่ลามง่ายเหมือนอีสุกอีใส แค่หายใจรดกัน คนฉีดวัคซีนแล้วเป็นพาหะได้เหมือนกับคนไม่ได้ฉีดวัคซีน
ประเทศต้นทางวัคซีนยังหนาว เทียบกับไทยที่ฉีดกะปริบกะปรอย อีกมุม ข่าวจริง ตามรายงานสื่อระดับโลก รองประธานาธิบดีหญิงแห่งสหรัฐอเมริกา “กมลา แฮร์ริส” มีแผนเดินทางเยือนประเทศสิงคโปร์และเวียดนามในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมหารือกับผู้นำทั้ง 2 ชาติอาเซียน เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงในแถบอินโด-แปซิฟิก นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯเยือนเวียดนามขณะดำรงตำแหน่ง
จากคู่แข่งสิงคโปร์ ตอนนี้โดนเวียดนามแซง ประเทศไทยหลุดโพยผู้นำอาเซียน มหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยุโรป บินข้ามไปสิงคโปร์ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่ทะยานขึ้นมาเป็นหมุดหมายใหม่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไทยถอยหลังลงคลอง ไม่ได้แม้แต่สถานะเบอร์สอง ตามมุมมองของต่างชาติ แบบที่ “นิเคอิ” สื่อยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นจัดอันดับ 120 ประเทศว่าด้วยศักยภาพในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด ให้เครดิตไทยอยู่อันดับที่ 118 รั้งท้ายของโลก จมบ๊วยอาเซียน
นับวันยิ่งโหลดเตี้ยลง ตามค่าเงินบาทไหลไปกว่า 33 บาทต่อดอลลาร์ ไม่ต้อง “องุ่นเปรี้ยว” ตามสถานะที่ต้องทำใจ สถานการณ์โควิด ของประเทศไทยมันคือตอบชัดยิ่งกว่าสัญญาณ 5 จี การบริหารจัดการภาวะโรคระบาดที่สะเปะสะปะ สถิติคนป่วย คนตาย กราฟขาขึ้นทะยานแบบไม่ผงกหัวลง มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
โรคแทรก เชื้อการเมืองเน่าแบบไทยๆผสมโรง ทำเจ๊งยับเยิน ประมวลกันตามข่าวจริงล้วนๆ ไม่ได้ปั่นเฟกนิวส์.
ทีมข่าวการเมือง