รองอธิบดีกรมการแพทย์ ขอปวารณา ยืนยันว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกคน จะได้เข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม สงสัยว่าติดเชื้อเดินเข้าได้ทุกโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน
วันที่ 2 ส.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงในประเด็นมาตรการหลังตรวจหาเชื้อโควิค-19 ด้วยชุด Antigen Test Kit แล้วพบว่าติดเชื้อ ในพื้นที่ กทม. ว่า การเข้าสู่ระบบบริการทางด้านสาธารณสุขของประชาชนทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ หากมีความสงสัยอยากเดินเข้าโรงพยาบาลไปตรวจหาเชื้อก็สามารถไปได้ทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพมหานคร ทั้ง 132 แห่ง เมื่อตรวจโดย ATK หรือ RT-PCR แล้ว หากติดเชื้อก็สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้ โดยจะมีการจัดบริการ ถ้าไม่มีอาการหรืออาการน้อยมาก สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการ Home Isolation ในทันที เป็นการดูแลผ่านระบบทางไกล และจะได้รับกล่องอุปกรณ์ในการดูแลตนเอง หรือหากจำเป็นต้องได้ยาฟาวิพิราเวียร์ก็จะได้รับเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ จะมีการติดตามครบ 14 วัน โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ 226 หน่วย และจะมากขึ้นอีกตามระบบของโรงพยาบาล วันนี้สามารถดูแลประชาชนได้เต็มรูปแบบตามระบบสาธารณสุขแล้ว 60,000 คน โดยตั้งเป้าหมายว่าความสามารถที่จะทำได้ถึง 100,000 คน นอกจากนี้ยังมีระบบ Community Isolation หรือศูนย์พักคอยโดยระบบของกรุงเทพมหานคร ที่จะตั้ง 68 แห่ง และจะมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถรองรับประชาชนเข้าไปนอนได้ถึง 10,000 เตียง ในวันนี้สามารถดำเนินการได้แล้ว 46 แห่ง 5,000 กว่าเตียง โดยจะกระจายทุกเขต นอกจากนี้ยังมีศูนย์พักคอยที่ดำเนินการโดยประชาชน ภาคประชาสังคมอีกกว่า 100 แห่ง โดยต้องให้ลงทะเบียนกับทางกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนด้านระบบสุขาภิบาล การกำจัดขยะติดเชื้อ การสนับสนุน อาหารและยา ถ้าเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองแดงก็สามารถเข้าโรงพยาบาลสนาม ฮอสพิเทล โรงพยาบาลหลัก โดยดูตามอาการของแต่ละบุคคล
...
นพ.ณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีหน่วย CCRT หรือทีมทำงานทางด้านป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน 226 ทีม เป็นทีมเดินเท้าสามารถตรวจคัดกรองเบื้องต้น สอบสวนโรค รักษาให้ยา ฉีดวัคซีนให้ได้ ทำงานได้ครบทุกหน้าที่เบ็ดเสร็จในตัว ประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล และเข้าสู่ระบบ Home Isolution และ Community Isolution ได้ หากคิดว่ายังไม่ได้รับการบริการอย่างเหมาะสมหรือเพียงพอ ก็สามารถเข้าสู่ระบบภาครัฐและเอกชนได้โดย 1330 ของ สปสช. และเบอร์สายตรงของ 50 เขตกรุงเทพมหานคร โดยหนึ่งเบอร์มี 20 คู่สายสามารถรองรับได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยยืนยันว่าประชาชนทุกคนที่มีผลบวกจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม หากมีอาการเร่งด่วนฉุกเฉินที่คิดว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตจากโควิด-19 สามารถร้องขอความช่วยเหลือด่วนที่ 1669 สายด่วนช่วยชีวิต ศปก.ศบค. ขอปวารณาว่าผู้ป่วยทุกคนที่ติดเชื้อ โควิด-19 จะได้รับเข้าสู่ระบบการรักษาทางการสาธารณสุขและการแพทย์อย่างเหมาะสม.