รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจง กู้ภัย สัปเหร่อ เป็นบุคลากรด่านหน้า ได้วัคซีนไฟเซอร์แน่นอน หากเหลือเตรียมเกลี่ยให้กลุ่มอื่นต่อ ชี้จังหวัดใดตกหล่นให้ส่งข้อมูลมาที่สาธารณสุขจังหวัด

วันที่ 2 ส.ค. 2564 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 (Pfizer) กล่าวยืนยันว่า วัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้ จะครอบคลุมทั้งบุคลากรด่านหน้า ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรง และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทุกคน พร้อมย้ำว่า การจัดสรรวัคซีน ยังอยู่ที่ 5 กลุ่ม คือ

1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ 700,000 โดส

2.ผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังอายุ 12 ปีขึ้นไป และคนท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม 645,000 โดส

3.ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับข้อ ที่ 2 และคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา 150,000 โดส

4.ศึกษาวิจัย โดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม 5,000 โดส

5.สำรองเพื่อควบคุมการระบาดของ สายพันธุ์ เบตา 3,450 โดส

นพ.สุระ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนไฟเซอร์จะครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในหน่วยบริการ และโรงพยาบาลสนาม รวมถึงบุคลากรทั่วไปที่มีความเสี่ยงจะรับเชื้อ ซึ่งอาสาสมัครกู้ภัย สัปเหร่อ ที่มาช่วยงาน ก็อยู่ในกลุ่มที่ 1 ด้วย ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือฉีดมาแล้ว 1 เข็ม ยืนยันว่าได้รับวัคซีนไฟเซอร์อย่างแน่นอน

"ในส่วนของ 700,000 โดส เราดูแล้วน่าจะพอดีกับบุคลากรที่จะได้ไฟเซอร์รอบนี้ แต่ถ้ามีส่วนที่มันขาด เหลือ อย่างไร คณะทำงานด้านการบริหารจัดการวัคซีนจะคุยกันต่ออีกครั้ง ว่าจะมีการเกลี่ยอย่างไร ให้กับกลุ่มใด ก็ต้องดูความจำเป็นและการลดภาระการติดเชื้อให้ได้มากที่สุดนะครับ" นพ.สุระ กล่าว

...

ขณะที่ บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนมา 2 เข็ม หรือ 3 เข็ม โดยมีแอสตราเซเนกาแล้ว เนื่องจากวัคซีนมีจำกัดและยังมีภูมิคุ้มกันการติดเชื้ออยู่ จึงขอรอพิจารณาเมื่อมีวัคซีนเพิ่มเข้ามา

ส่วนหน่วยบริการทางการแพทย์ที่กังวลเรื่องความตกหล่นให้เสนอเรื่องมาที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อให้ส่งข้อมูลมาที่กรมควบคุมโรคได้ เช่นเดียวกับ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่ให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แต่กรุงเทพมหานคร ให้ติดต่อสำนักอนามัย

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา

ด้าน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้กล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าและทุกฝ่ายที่ช่วยต่อสู้กับโควิด-19 เป็นเวลา 1 ปี ครึ่ง พร้อมขอบคุณคณะกรรมการทุกชุดที่รับฟัง จนทำให้การได้รับวัคซีนไฟเซอร์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้เพราะมีระบบติดตามทุกกลุ่มเพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่ามีความคุ้มครอง และมีหลักฐานทางวิชาการว่าการได้วัคซีนไฟเซอร์มีความปลอดภัย ยืนยันว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยบุคลากรด่านหน้าเสมอ เพื่อเป็นกำลังขับเคลื่อนและต่อสู้กับโควิด-19 ครั้งนี้ อีกทั้งมีการประชุมหารือตลอดเวลา