คาร์ม็อบบีบแตรไล่นายกฯสนั่นทั่วประเทศ กทม.คึกคัก สารพัดม็อบเคลื่อนขบวนรถยนต์-มอเตอร์ไซค์แน่นพรึ่บ ถ.วิภาวดีรังสิต หยุดปักหลักไล่นายกฯหน้าบ้าน ดาหน้าโจมตีล้มเหลวการทำงาน “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ประกาศสานต่อภารกิจสู้เผด็จการ เล็งยกระดับกดดัน “ลุงตู่” ขณะที่ “เพนกวิน” ส่งสัญญาณลุยแหลกไล่รัฐบาลตลอดเดือน ส.ค. ควันหลงหลังยุติชุมนุม มวลชนวัยโจ๋อารมณ์ค้างไม่ยอมกลับ เจ้าหน้าที่ต้องยิงกระสุนยาง-แก๊สน้ำตาผลักดันให้ออกจากพื้นที่ ส่วนม็อบต่างจังหวัดมาตามนัดทั่วทุกภาค ตั้งขบวนคาร์ม็อบวนรอบเมือง ด้านโฆษก บช.น.ขึงขังคาดโทษผู้ชุมนุม ตั้งแท่นเอาผิดทุกข้อหาตั้งแต่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินยันความผิดจราจร

...

มหกรรมคาร์ม็อบไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ภายใต้บรรยากาศคึกคักมีมวลชนมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ตามที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เป็นผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ

บรรยากาศหลายจุดใน กทม. กลุ่มมวลชนต่างๆได้ตั้งขบวนตามพื้นที่ต่างๆจากนั้นทยอยเคลื่อนขบวนมาสมทบกันที่ ถ.วิภาวดีรังสิต อาทิ บริเวณปากทางออกท่าอากาศยานดอนเมือง มีแนวร่วมมวลชนของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำผู้จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ นำรถยนต์และจักรยานยนต์จำนวนมากมาจอดชุมนุมบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เพื่อรอร่วมกิจกรรมชุมนุมใหญ่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ในรูปแบบคาร์ม็อบชื่อ “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” (วิภาวดีรังสิต) ทำให้ต้องปิดการจราจร ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า 2 ช่องจราจร

ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มราษฎรจัดคาร์ม็อบเคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยัง ร.1 รอ. ถ.วิภาวดีรังสิต ที่พักของ พล.อ.ประยุทธ์กดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ระหว่างทางมีการบีบแตรส่งเสียงดังทั่วท้องถนน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวว่า แนวโน้มการเมืองเดือน ส.ค.จะสาหัส วันที่ 1 ส.ค. เป็นปฐมฤกษ์การต่อสู้ ประชาชนเจ็บทั่วหน้าได้รับความเดือดร้อนถนนทุกสายจึงมุ่งสู่เส้นทางเดียวกัน ประชาชนที่ไม่พอใจได้รับผลกระทบจากการบริหารประเทศจะออกมาต่อสู้ กลุ่มราษฎรจะเดินหน้ากดดันรัฐบาลตลอดเดือน ส.ค.

ขณะที่แยกราชประสงค์ เวลา 10.30 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มวลชนเสื้อแดงร่วมจัดขบวนคาร์ม็อบ มีนพ.ทศพร เสรีรักษ์ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เข้าร่วม โดยปิด ถ.ราชดำริฝั่งขาออก 3 ช่องจราจร เพื่อตั้งขบวน มีจักรยานยนต์และรถนานาชนิดนับร้อยคัน มีการแสดงสัญลักษณ์ผูกผ้าแดง ติดสติกเกอร์แดงข้อความไล่ประยุทธ์ และติดธงรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ต่อมาเวลา 11.40 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เดินทางมาถึงสี่แยกราชประสงค์ พร้อมกล่าวปราศรัยว่า คนเสื้อแดงจะกลับมาสานต่อภารกิจให้เสร็จคือ ต่อต้านเผด็จการ ไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ภายใน 2-3 วันนี้ จะประกาศให้ทราบอีกครั้งว่า จะขับเคลื่อนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ในรูปแบบใดต่อไป จากนั้นนายณัฐวุฒิเดินขึ้นสะพานลอยหน้าศูนย์การค้าบิ๊กซีราชดำริ ปราศรัยปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงในขบวนคาร์ม็อบที่จอดรอสัญญาณเคลื่อนตัวอยู่เต็ม ถ.ราชดำริ กระทั่งเวลา 12.10 น. ขบวนคาร์ม็อบคนเสื้อแดงเริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่ ถ.วิภาวดีรังสิต ทางแยกประตูน้ำ ถ.ราชปรารภ เพื่อไปสมทบกับขบวนนายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำผู้จัดคาร์ม็อบ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์หมดสภาพการบริหาร สูญสิ้นความเชื่อมั่นจากประชาชน คนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ท่ามกลางอนาคตที่มืดมนสิ้นหวัง เป็นหน้าที่ร่วมกันทุกภาคส่วนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสันติตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่อยากให้รัฐบาลชี้วัดการเปลี่ยนแปลงจากจำนวนคนที่ขับไล่ อยากให้วัดจากจำนวนคนเสียชีวิตในบ้าน บนถนน คนรอเตียง จำนวนวัคซีนที่ขาดหาย ตลอดจนกิจการที่พินาศวอดวาย แล้วตัดสินใจลาออกไป ส่วนจะร่วมไล่ พล.อ.ประยุทธ์ทุกครั้งหรือไม่ ขอคุยกับภาคส่วนต่างๆว่า จะต่อยอดเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลอย่างไร แต่ไม่หยุดเคลื่อนไหวแน่ เสื้อสีแดงที่ใส่ตัวนี้ เป็นเสื้อแดงไม่กี่ตัวที่เหลืออยู่ในบ้าน เพื่อบอกคนทั้งบ้านเมืองว่า คนเสื้อแดงที่ถูกเหยียดหยามเป็นควายแดง ถูกจ้างมา ถูกยิงตายบนถนน 10 ปีที่แล้ว วันนี้กลับมาบอก พล.อ.ประยุทธ์และพวกที่อยู่ใน ศอฉ.ที่เคยปราบคนเสื้อแดงให้ออกไปได้แล้ว

กระทั่งเวลา 13.20 น. ขบวนคาร์ม็อบของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง เคลื่อนมาตาม ถ. วิภาวดีรังสิต เดินทางมาถึงหน้า ร.1 ทม.รอ.บ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ มารวมกับกลุ่มคาร์ม็อบของมวลชนคนเสื้อแดง และกลุ่มคาร์ม็อบของกลุ่มราษฎร กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีมวลชนพยายามรื้อแนวรั้วลวดหนามที่วางกั้นไว้ พร้อมห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพ สุดท้ายมีคนห้ามปรามจึงยุติ จากนั้นรถกระจายเสียงกลุ่มไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเปิดปราศรัยโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ที่หน้า ร.1 ทม.รอ.พร้อมเชิญชวนรถในขบวนบีบแตรขับไล่เสียงดังสนั่น ขณะที่รถเครื่องขยายเสียงกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เปิดเพลงเต้นรำด้วยชุดวาบหวิว ส่วนรถขยายเสียงกลุ่มราษฎร นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน สลับปราศรัยโจมตีความล้มเหลวการบริหารงานของรัฐบาลอย่างดุเดือด

จากนั้นเวลา 17.30 น. หลังแกนนำคาร์ม็อบประกาศยุติการชุมนุม มีมวลชนวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์กลุ่มหนึ่งยังไม่ยอมกลับ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปยั่วยุเจ้าหน้าที่ซึ่งตรึงกำลังอยู่บริเวณถนนช่องทางลัดไป ถ.พหลโยธิน ข้างโรงพยาบาล ทหารผ่านศึก จากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นหลายครั้ง เจ้าหน้าที่เริ่มใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม และตั้งแนวโล่บนถนนวิภาวดี นำรถฉีดน้ำแรงดันสูงมาสนับสนุนผลักดันประชาชนให้สลายตัวกลับ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นหนีไปที่แยกสุทธิสาร ระหว่างนั้นรถกระจายเสียงกลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งวนมาประกาศให้มวลชนแยกย้ายสลายตัวกลับ ขณะที่หน้าปั๊ม ปตท.วิภาวดี มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาประกาศขอความร่วมมือให้แยกย้าย แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมและขว้างปาข้าวของใส่ ตำรวจจึงเข้าผลักดัน ยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตา เพื่อกระชับพื้นที่บริเวณถนนวิภาวดีช่องคู่ขนานขาออก ตั้งแต่หน้า รพ.ทหารผ่านศึกถึงแยกสุทธิสาร

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก บช.น. กล่าวว่า ขอเตือนกลุ่มคาร์ม็อบขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ว่า การกระทำขณะนี้ผิดกฎหมายอาจถูกดำเนินคดีรับโทษตามกฎหมาย กทม. ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด การชุมนุมจัดกิจกรรมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค รวมถึงการกีดขวางการจราจร ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เป็นความผิดตามกฎหมายอีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนการดำเนินคดีชุมนุมที่ผ่านมาใน กทม. บช.น. ดำเนินคดีทั้งสิ้น 279 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 194 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 85 คดี ยืนยันทุกความผิดที่เกิดขึ้นใน กทม. เมื่อมีการกระทำผิดมีการเริ่มนับหนึ่งแล้ว กระบวนการสอบสวนจะดำเนินการต่อไปจนคดีถึงที่สุด

ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา กลุ่มแปดริ้วไม่ทนใส่เสื้อสีดำจัดขบวนคาร์ม็อบที่หน้าศาลากลางจังหวัดเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางรอบตัวเมือง ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จ.ระยอง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นำคาร์ม็อบเคลื่อนขบวนไปที่จวนผู้ว่าฯระยอง เรียกร้องให้เร่งหาวัคซีนฉีดให้ประชาชน ก่อนวางดอกไม้จันทน์หน้าจวนผู้ว่าฯ จ.กาญจนบุรี รวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง เคลื่อนขบวนสู่ อ.ท่าม่วง และ อ.เมือง ประกาศเจตนารมณ์ขับไล่รัฐบาลที่ศาลากลาง จ.กาญจนบุรี

ขณะที่ภาคกลาง จ.นนทบุรี เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงหลายคัน รวมตัวที่ท่าน้ำนนทบุรี ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนเคลื่อนขบวนมาที่ศาลากลางจังหวัด แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสกัดจับกลุ่มผู้ชุมนุมบนรถขยายเสียง 7 คน นำตัวมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน