ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ผ่านกันมาได้อีก 1 เดือนเข้าสู่เดือนใหม่ ดูจากรูปการณ์แล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น
นอกจากลุ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันว่าจะลดลงหรือไม่ เพราะมันหมายถึงอนาคตของคนไทย
และความเป็นไปของรัฐบาล “ลุงตู่”...
ฝ่ายค้านเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ยังตกลงไม่ได้ว่าจะเล่นงานใครบ้าง นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นตัวยืนแล้ว
เท่าที่ติดตามข่าวมา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข คงไม่รอด เพราะเกี่ยวพัน กับเรื่องโควิด-19 แทบทุกประเด็น
ถือเป็น “จุดอ่อน” ของรัฐบาลก็ว่าได้
กว่าจะยื่นและบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมได้ก็คงจะเป็นปลายเดือนโน่นแหละ...หากบรรจุเข้าสู่วาระแล้ว
“รัฐบาล” จะดิ้นหนีไปไหนไม่ได้!
เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดว่าญัตตินี้เข้าสู่สภา รัฐบาลไม่สามารถที่จะ “ยุบสภา”-“ลาออก” เพื่อหลบฉาก
มาถึงขั้นนี้แล้วคงจะต้องเผชิญหน้ากัน
ยิ่งแผน “เสี้ยมแซะ” ใช้ไม่ได้ผลตรงข้ามทำให้พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์และชาติไทยพัฒนา
ออกมาประกาศตัวพร้อมที่จะเดินเคียงข้างกับ “3 ป.” ต่อไปจนครบวาระ 4 ปี
เท่ากับปิดประตูไปได้เลย
หรือการออกมาชุมนุมขับไล่ “บิ๊กตู่” แทบจะเป็นรายวันยังทำอะไรไม่ได้ ก็เหลือหนทางเดียวคือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ที่จะระดมพลังทั้งในสภาและนอกสภา เพื่อขยี้ความผิดพลาดจากการ บริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้
โควิด-19 จะเป็นไฮไลต์สำคัญ!!
โดยเฉพาะเงื่อนงำต่างๆที่ชวนให้สงสัยอย่างเรื่องวัคซีน เพราะถึงวันนี้ ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนอีกหลายประเด็น
...
แต่ไม่รู้ว่า “ข้อมูล” จะล้วงลึกไปได้แค่ไหน?
เพราะหากไม่มีเนื้อหาที่เข้าตาถึงข้อมูลที่จะตีแผ่พฤติกรรมของรัฐมนตรี ก็คงไม่ต่างไปจากภาวะปกติ
ที่ฝ่ายค้านใช้วาทกรรมเล่นงานอยู่ทุกวัน
ได้แต่ความมันความสะใจ... เท่านั้น
ฝ่ายค้านบอกว่าการเปิดซักฟอกรัฐบาลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของสภาชุดนี้ มันก็คงจะต้องเป็นไปอย่างนั้น
เว้นแต่จะจัดการรัฐบาลได้อยู่หมัด
ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...
แต่ดูท่ารัฐบาลจะไม่ได้อีนังขังขอบเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะคงรู้มือกันอยู่ ที่หวั่นไหวมากกว่าคือเรื่องข้อมูลข่าวสาร
จนนายกฯต้องออกโรงเองให้จัดการกับข่าวเท็จ สื่อที่เสนอข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาล
จนทำให้องค์กรสื่อทั้งระบบได้ออกตอบโต้ว่ากำลังถูก “ปิดปาก”
นั่นก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้กลัวฝ่ายค้านแต่อย่างใด แต่กลัว “สื่อ” มากกว่า เพราะมีอิทธิพลและน้ำหนัก
ข้อสำคัญคือให้เชื่อถือมากกว่ากัน!!!
“ลิขิต จงสกุล”