ผอ.รพ.บุษราคัม แจง ไม่มีจ่ายเบี้ยเดินทางวันละ 8 บาท รับ สื่อสารคลาดเคลื่อน เพราะบุคลากรทำงานเครียดสะสม เตรียมปรับค่าเสี่ยงภัยเบี้ยเลี้ยงเพิ่ม เพื่อเป็นกำลังใจกับคนปฏิบัติงาน ไม่ขอตอบ ภาพคนนอนเสียชีวิตริมถนน 


วันที่ 21 ก.ค. นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ชี้แจงประเด็นที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลบุษราคัมได้รับเบี้ยค่าเดินทางในช่วงเคอร์ฟิว เท่ากับค่าโดยสารรถเมล์ เที่ยวละ 8 บาท ว่า เป็นการสื่อสารและสะท้อนออกไปคลาดเคลื่อน เพราะบุคลากรที่มาปฏิบัติงานในโรงพยาบาลมีความเครียดและเหนื่อยล้ากับการทำงาน จึงสื่อสารออกไปให้บุคคลภายนอกเข้าใจผิด จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยยืนยันว่า อัตราค่าเบี้ยเลี้ยงพี่เบิกจ่ายให้กับบุคลากรที่มาปฏิบัติงานในโรงพยาบาลบุษราคัมทุกคน เบิกจ่ายตามอัตราจริงเป็นไปตามระเบียบ รวมถึงอัตราเบี้ยเลี้ยงและค่าเสี่ยงภัยก็เป็นไปตามอัตราของโรงพยาบาลต้นสังกัดของแต่ละคนที่มาปฏิบัติงาน และเนื่องจากการตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม ตั้งขึ้นในสภาวการณ์ฉุกเฉิน งบประมาณที่เบิกจ่ายก็เป็นของแผ่นดิน จนถึงวันนี้ยอมรับว่าการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับบุคลากรมีความล่าช้า ไม่ได้จ่ายตรงตามเวลา ยกตัวอย่างเช่น หากเดือนนี้ทำเอกสารเบิกเรียบร้อย ส่งทันภายในสิ้นเดือน ก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงในปลายเดือนถัดไป

ทั้งนี้ หลังจากเกิดปัญหาและมีการสะท้อนในความต้องการและความรู้สึกของบุคลากรที่มาปฏิบัติงาน ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลบุษราคัมได้หารือกันและจะพิจารณาเพิ่มอัตราค่าเสี่ยงภัยและเบี้ยเลี้ยงให้ โดยคาดว่าการพิจารณานี้จะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้

นพ.กิตติศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลบุษราคัมมีผู้ป่วยที่รักษาทั้งหมด 13,095 คน รักษาหายกลับบ้านไปแล้ว 6,955 คน และยังเหลือที่ต้องนอนรักษาอีก 3,300 คน และเฉลี่ยตอนนี้มีผู้ป่วยเข้ารักษาวันละ 300-400 คนต่อวัน

...

ขณะที่บุคลากรและเจ้าหน้าที่ทำงาน 300 กว่าคน โดยเป็นแพทย์ 60 คน พยาบาล 200 คน ที่เหลือเป็นเภสัชกรรม และนักรังสีเทคนิคการแพทย์

ซึ่งจากสถานการณ์ที่มีคนป่วยเพิ่มมากขึ้น โรงพยาบาลกำลังเปิดรับอาสาสมัครจากภูมิภาคต่างๆ เพิ่มเพื่อมาช่วยงาน แต่เนื่องจากปัจจุบันติดปัญหาเรื่องการเดินทาง เพราะสายการบินภายในประเทศได้ยกเลิกหมด จึงทำให้การเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯมีปัญหา

พร้อมยืนยันว่า โรงพยาบาลบุษราคัม จะไม่ปฏิเสธคนไข้ แต่ช่วงหลังภาวะของ รพ. และสถานบริการใน กทม.มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น นอนรอที่บ้านอีกจำนวนมาก ซึ่ง รพ.ก็รับเข้ารักษาทุกคนตามขีดความสามารถที่สุดแล้ว แต่เพราะภาระงานของโรงพยาบาลบุษราคัมระยะหลังดูแลคนไข้สีแดงมากขึ้น มีคนไข้จึงทำให้การจัดการรับผู้ป่วยช้า

ผอ.รพ.บุษราคัม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีเมื่อวานนี้มีภาพคนนอนเสียชีวิตริมถนนหลายศพโดยไม่มีใครมาจัดการ จะเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการบริหารจัดการเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้วหรือไม่

โดยย้ำว่า กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นพื้นที่และการดูแลของกรุงเทพฯ แต่หากมีการร้องขอหรือแจ้งมา กระทรวงสาธารณสุขยินดีที่จะให้การสนับสนุน

ส่วนสถานการณ์ลุกลามจนเข้าสู่ขั้นวิกฤติของ กทม.หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ แต่ขอให้ทุกคนอดทนอีกหน่อย แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น.