“จุรินทร์” เผย พาณิชย์-สาธารณสุข กำลังพิจารณากำหนดราคา ชุดตรวจโควิด พร้อมเสนอ ครม. ให้ สปสช. เร่งนำเข้าเอามาแจกประชาชนฟรี ชี้ ขายยาฟ้าทะลายโจรเกินราคา คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท
วันที่ 15 ก.ค. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มี การสอบถามเรื่องราคาของยาฟ้าทะลายโจรและชุดตรวจโควิด-19 หรือ Rapid test หรือ Rapid Antigen test ว่า ในเรื่องของ ชุดตรวจโควิด Rapid test เป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ ที่ทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เป็นผู้ดูแล ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรับขึ้นทะเบียนผู้นำเข้าเพื่อขออนุญาตขึ้นทะเบียน ส่วนเรื่องราคา กำลังรอรายละเอียดทั้งหมดจาก อย. ว่าอนุญาตให้ผู้นำเข้ามาขึ้นทะเบียนกี่ราย ปริมาณเท่าใด ราคาต้นทุนเท่าใด ยืนยันว่า การควบคุมราคาไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพราะถ้านำเข้ามาแล้วไม่กำไรก็ไม่มีผู้นำเข้ามา ทำให้สุดท้ายประชาชนจะไม่สามารถมี Rapid test ใช้ได้
ทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้ที่ได้เสนอที่ประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา คือ
1. ขอให้องค์การเภสัชกรรมเร่งนำเข้า Rapid test ให้มากและเร็วที่สุดเพื่อนำมาจำหน่ายในราคาที่ถูกที่สุดให้กับประชาชน จะได้กลายเป็นราคาชี้นำในตลาด
2. ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เร่งรัดการนำเข้ามาให้มากที่สุดเพื่อนำมาแจกฟรีให้กับประชาชน เพราะมีงบประมาณและสามารถแจกฟรีได้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางองค์การเภสัชกรรม กับ สปสช.ประชุมร่วมกันแล้วจะมีแผนที่จะนำเข้ามา 10 ล้านชุด
ส่วนเรื่องราคายาฟ้าทะลายโจร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นไปตามหลักกลไกตลาดพอมีความต้องการเยอะมากขึ้นราคาก็ขึ้น แต่รัฐบาลไม่ได้ละเลย โดยมีผู้ให้ความเห็นว่าควรกำหนดราคาควบคุมหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกัน ซึ่งวันนี้ขอให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงสาธารณสุข ผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเลขาธิการ อย. องค์การเภสัชกรรม และหน่วยงานอื่นๆ พูดคุยกัน เพราะหากไปควบคุมราคาจะทำให้ของหายจากตลาด หรือผู้ผลิตจะหยุดผลิตและจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์หรือไม่
...
ขณะที่เรื่องการกักตุน ขายเกินราคา กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงสาธารณสุขจะดูร่วมกันต่อไป โดยส่วนตัวได้สั่งขอให้กรมการค้าภายใน เข้าไปดูว่าราคาอ้างอิงที่ควรจะเป็นเม็ดละเท่าไร ที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถเดินหน้าผลิตต่อไปได้และไม่ทำให้ของขาดตลาด ซึ่งจะพิจารณาร่วมกับ อย. องค์การเภสัชกรรม และผู้ผลิตรายใหญ่ด้วย เพื่อให้ได้ราคาอ้างอิง ขณะนี้หากขายเกินราคา หรือ ค้ากำไรเกินควร ก็มีกฎหมายตามมาตรา 29 พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ