นายกรัฐมนตรี ย้ำการจัดทำแผนพัฒนาภาค และแผนพัฒนาจังหวัด ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม ฟื้นฟูโควิด-19 ให้เร็วที่สุด
วันที่ 14 ก.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 2/2564 ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของการจัดทำแผนพัฒนาภาค แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาจังหวัด โดยการจัดทำแผนงานโครงการต้องคำนึงถึงศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และมาจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เชื่อมโยงการพัฒนาจากระดับบน (Top Down) สู่ระดับล่าง (Bottom Up) โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และต้องปรับให้เข้ากับเกณฑ์ของยุทธศาสตร์ชาติ ตรงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสถานการณ์โลก สถานการณ์ภายในประเทศ โดยต้องมุ่งเป้าหมายไปที่การฟื้นฟูของประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งจะต้องมีเป้าหมายตัวชี้วัดการพัฒนาระดับความแตกต่างของรายได้ของประชาชนของจังหวัด จีดีพีรายหัว ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และต้องทำงานแนวเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้น
...
ซึ่งที่ประชุมมีมติที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบ
(1) นโยบาย หลักเกณฑ์ วิธีการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566 - 2570
(2) หลักเกณฑ์การจัดทำแผนปฏิบัติราชการจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570
(3) แนวทางการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 ภายใต้กรอบงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดปีละ 28,000 ล้านบาท
(4) หลักเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2570 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
(5) ร่างกรอบแผนพัฒนาภาค พ.ศ. 2566 - 2570 ทั้ง 6 ภาค และหลักเกณฑ์การจัดทำแผนปฏิบัติการภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นกรอบในการจัดทำและเสนอขอโครงการที่สนับสนุนและขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่
(6) ปฏิทินการดำเนินงานภายใต้กลไก ก.บ.ภ. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
(7) แนวปฏิบัติสำหรับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด กรณีการชำระเงินประกันค่าธรรมเนียมให้สถาบันอนุญาโตตุลาการในการฟ้องคดีโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี โดยใช้เงินเหลือจ่าย
(8) การขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินถูกพับไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยจังหวัดเสนอคำขอเปลี่ยนแปลง เพื่อขอความเห็นจากคณะกรรมการบริหารงานจังหวัด/กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการและจัดส่งคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564
2. รับทราบการปรับปรุงตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ชุดใหม่ ที่ยึดโยงกรอบมิติการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ประกอบด้วย ตัวชี้วัดการพัฒนาระดับจังหวัด (32 ตัวชี้วัด) ตัวชี้วัดการพัฒนาระดับกลุ่มจังหวัด (15 ตัวชี้วัด) ทั้งนี้ จังหวัด กลุ่มจังหวัด และส่วนราชการ สามารถใช้ตัวชี้วัดดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการวัดสถานะการพัฒนาพื้นที่เชิงเปรียบเทียบ จังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้ รวมทั้งชี้พื้นที่เป้าหมายการพัฒนาในระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้กับส่วนราชการ เพื่อนำไปกำหนดแผนงานโครงการได้อย่างชัดเจน.