รมว.ดีอีเอส เตรียมดำเนินคดี “อ.ลอย ชุนพงษ์ทอง” พร้อมผู้ร่วมขบวนการ เผยข่าวปลอม รัฐบาลเก็บภาษีวัคซีนโมเดอร์นา 100% ชี้ หวังผลดิสเครดิตกระบวนการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาล ทำประชาชนตื่นตระหนก

วันนี้ (12 ก.ค. 2564) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เตรียมดำเนินคดีถึงที่สุดกับ ดร.ลอย ชุนพงษ์ทอง รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการเผยแพร่ข่าวปลอมผ่านคลิปวิดีโอว่า รัฐบาลเก็บภาษีวัคซีนโมเดอร์นา 100%

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตามที่มีการการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่เสนอข้อมูลว่า รัฐบาลเรียกเก็บภาษีวัคซีนโมเดอร์นา รวมแล้วสูงกว่า 100% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมศุลกากร กลุ่มสารนิเทศการคลัง และกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ โดยผู้โพสต์ต้นทางคือ ดร.ลอย และมีผู้ร่วมขบวนการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ/บิดเบือนนี้อีกกว่า 10 ราย เพื่อหวังผลดิสเครดิตกระบวนการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาล ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เกิดความเสียหายต่อกระบวนการแก้ปัญหาแพร่ระบาดโควิด

“เมื่อตรวจสอบแล้วว่าเป็นข่าวปลอมชัดเจน ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับขบวนการเผยแพร่ข่าวปลอมข้างต้น ทั้งในส่วนของผู้โพสต์และผู้แชร์”

ทั้งนี้ จากการประสานงานไปยังกรมศุลกากร กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าวัคซีนทุกประเภทอตามที่มีกระแสข่าวตามสื่อสังคมออนไลน์ โดยปัจจุบันการนำเข้าวัคซีนและอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ ได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าให้เหลือ 0% ทั้งหมดอยู่แล้ว

...

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มติเห็นชอบให้ขยายเวลายกเว้นอากรศุลกากร สำหรับของที่นำเข้ามาใช้ในการรักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามรายการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องเสียอากรนำเข้า จนถึงเดือนมีนาคม 2565 อีกทั้ง กรมสรรพากร ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามมาตรา 81 (1) (ญ) แห่งประมวลรัษฎากร การให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นโรงพยาบาลเอกชนจึงได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และจะไม่สามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากวัคซีนทางเลือกที่ให้บริการแก่ประชาชนได้

ขณะที่ ล่าสุดองค์การเภสัชกรรม ได้ออกแถลงการณ์กรณีถูกกล่าวหาบวกกำไรหรือภาษีวัคซีนทางเลือก โมเดอร์นา เข้าไปในราคาขาย โดยระบุว่า การกำหนดราคาขายวัคซีนโมเดอร์นาให้กับโรงพยาบาลเอกชนที่ราคา 1,100 บาทต่อโดสนั้น เป็นราคาที่มาจากราคาวัคซีนที่องค์การเภสัชกรรมได้รับจากบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของผู้ผลิตโดยตรง รวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รวมกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ อาทิ ค่าเก็บรักษา ค่าขนส่ง ค่าประกันภัยรายบุคคล เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา กรณีที่อาจมีอาการไม่พึงประสงค์

“ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลข่าวปลอมที่อ้างว่ารัฐบาลเรียกเก็บภาษีวัคซีนโมเดอร์นา รวมแล้วสูงกว่า 100% ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้วัคซีนทางเลือกมีราคาแพง และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพราะจะสร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายต่อส่วนรวม”.