“วราวุธ” รมว.ทส. ให้ กรมน้ำบาดาล-นักวิทยาศาสตร์-นักเคมี-นักธรณี ตรวจสารตกค้าง ใต้ดิน-บนดิน รัศมี ระยะ 0-12 กม. จาก โรงงาน หมิงตี้ ย่านกิ่งแก้ว ระบุ จะรีบแจ้งผลให้ประชาชนทราบ จะได้กลับเข้าบ้านได้

วันที่ 7 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซ.กิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ว่า ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้หารือกับ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NPC ว่า จะสามารถใช้ ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ ฉีดลงไปยังจุดที่มีสารสไตรีนเพื่อให้แข็งตัวติดไฟยากขึ้น ควบคุมเชื้อเพลิงได้ง่ายขึ้น ไม่ให้เกิดปะทุขึ้นมาใหม่ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ทางกรมควบคุมมลพิษจะได้ประสานงานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหารือให้ความเห็นชอบว่าจะให้นำสารดังกล่าวนี้มาหรือไม่

นายวราวุธ กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ทั้งที่กิ่งแก้ว และที่ลาดกระบัง บริเวณโรงงานน้ำหอมนั้นก็สามารถควบคุมเพลิงได้หมดแล้ว ได้ให้ทางกรมควบคุมมลพิษ เข้าประเมินสถานการณ์ในช่วงเช้าว่าทั้งสองแห่งนั้นเกิดมลภาวะอย่างไรหรือไม่ โดยมีการเก็บตัวอย่างน้ำไปสำรวจ ทั้งเรื่องคราบน้ำมัน สารตกค้าง สารระเหย รวมถึงให้ตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบพื้นที่ด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้ให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งสำรวจคุณภาพน้ำทั้งบนผิวดินและใต้ดินโดยมีทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักเคมี และนักธรณี ประชุมหารือร่วมกัน เพื่อดูในรัศมีตั้งแต่ 0-12 กม. ให้ตรวจสอบตัวอย่างทั้งผิวดินและใต้ดิน เนื่องจากอาจจะมีการซึมลงไปในน้ำผิวดินได้ หากได้ผลเป็นอย่างไรจะรีบแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ

...

นายวราวุธ กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องอากาศอยู่ในระดับที่ปลอดภัยแล้ว เพราะปริมาณสารพิษที่ขึ้นมานั้นลอยขึ้นไปสูงมาก และลอยไปไกลกระจายตัวไปในชั้นบรรยากาศแล้ว แต่ที่เรายังเป็นห่วงยังไม่กล้าให้เข้าไป อย่างเช่นเมื่อวานที่มีเพิ่งปะทุขึ้นมา จึงต้องทำให้แน่ใจเสียก่อนว่า เราสามารถบริหารเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด จะได้ไม่มีการปะทุตัวของไฟขึ้นมาอีก จึงได้พยายามประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อนำออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ มาฉีด เพื่อทำให้สารเคมีในพื้นที่แข็งตัวแล้วสามารถเก็บออกมาได้ เมื่อเราบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ทั้งหมดแล้วก็มั่นใจว่าการสำรวจน้ำ ก็จะได้ผลภายใน 1-2 วัน ประชาชนจะได้อุ่นใจได้ว่าจะสามารถกลับเข้าบ้านได้เมื่อไหร่

นายวราวุธ กล่าวว่า ในส่วนของรถโมบายล์ของกรมควบคุมมลพิษ ที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพอากาศ ก็ยังประจำอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ และวิ่งตรวจสภาพอากาศโดยรอบอยู่ นอกจากนั้นยังมีสถานีตรวจอากาศขนาดย่อม และมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ใช้ชุดตรวจแบบมือถือ ที่สามารถเข้าตรวจในพื้นที่ได้อย่างทันควัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญนั้น ก็ยังทำงานอยู่ในพื้นที่ จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้โดยปกติเหมือนจะไม่ค่อยได้ใช้ แต่ในช่วงภาวะวิกฤติเช่นนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษทุกคนที่เป็นหนึ่งในทีมที่เข้าไปสำรวจคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ มลภาวะต่างๆ เพื่อทุกคน เป็นหน่วยงานที่เข้าไปหลังเพลิงสงบ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานงานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมและปลอดภัย ประชาชนจะได้กลับเข้าเคหสถานได้ในเร็ววัน