โฆษกรัฐบาล อนุชา บูรพชัยศรี ออกมาเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชุมคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเป็นการด่วน หาทางที่จะเยียวยาด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการยกระดับคุมเข้ม กทม.และปริมณฑล ซึ่งไม่กระทบเฉพาะผู้ใช้แรงงานเท่านั้น เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ แม่ค้าพ่อค้า อาชีพ รับจ้างเดือดร้อนกันหมด
พอที่จะสรุปมาตรการเยียวยาได้ว่า อาจจะเสนอให้มีการเลื่อน โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่จะเริ่มต้นวันนี้ออกไปก่อนเพราะร้านอาหารได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านได้ อย่างน้อย 30 วัน ดังนั้น มาตรการนี้จึงอาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ก่อนหน้านี้ การลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ก็ดี ยิ่งใช้ยิ่งได้ ก็ดี มีความสนใจที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิลดลงไป พูดง่ายๆก็คือ จำนวนสิทธิยังเหลือบานตะไท อาจจะเป็นเพราะคนเบื่อที่จะลงทะเบียนอะไรมากมายขนาดนั้น หรือไม่ก็ไม่มีเงินที่จะไปเข้าโครงการคนละครึ่งแล้ว
นอกจากนี้รัฐพยายามที่จะพิจารณาใส่เม็ดเงินลงไปที่มาตรการ เราชนะ และ ม33 เรารักกัน ที่สิ้นสุดไปแล้วแทน เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนให้แรงงานโดยเฉพาะ โดยแหล่งเงินก็จะเอามาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท นี่แหละ อนุมัติปุ๊บ กู้ปั๊บ รวดเร็วทันใจ
คำถามคือ รัฐคาดการณ์ว่า โควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน เม็ดเงินหมุนเวียนที่รัฐมีอยู่ตอนนี้ สามารถนำมาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน รัฐเองก็กำลังขาดสภาพคล่องอยู่หรือไม่ ดูจากจำนวนรายจ่ายกับรายได้ของรัฐในปัจจุบันเป็นแบบขาดดุลมาตลอด อย่าบอกว่ารัฐกำลังถังแตก และอย่าคุยว่าปริมาณเงินสำรองเหลือเฝือ เรากำลังตกอยู่ในสภาพมีเงินแต่ใช้ไม่ได้ใช่หรือไม่ เราต้องนำไปประกันหนี้เอาไว้มากมายขนาดไหน
...
การประกาศล็อกดาวน์ กทม. ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ มีความแตกต่างกันที่วัตถุประสงค์ในการสกัด เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ ทั้งเดลตาและเบตา ซึ่งถือว่าแรงที่สุดในเวลานี้แต่ ผลกระทบที่ได้รับไม่แตกต่างกัน คือความเดือดร้อนของประชาชน
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ชี้แจงคำสั่งให้สั่งอาหารกลับบ้านเท่านั้น ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน เหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆซ้ำๆกัน 4-5 ครั้ง เดี๋ยวผ่อนปรนให้นั่งรับประทานในร้านได้ถึง 3 ทุ่ม เดี๋ยวก็นั่งได้ถึง 5 ทุ่ม แต่อยู่ๆก็กลับมาห้ามนั่งในร้านไปอีก 1 เดือน เวลา 1 ปีกับ 6 เดือน จำนวนร้านอาหารที่มีพื้นที่ 200 ตารางเมตรขึ้นไปปิดกิจการไปแล้วประมาณ 2 หมื่นราย ขนาดไม่ถึง 200 ตารางเมตรปิดไปแล้ว 3 หมื่นราย อาจจะต้องมีการปิดกิจการตามมาอีก 5 หมื่นรายในไตรมาสที่ 3 มีผลกระทบต่อแรงงานในส่วนนี้ประมาณ 1 ล้านคน
เป็นห่วงโซ่ไปจนถึงกระบวนการผลิตต่างๆทั้งหมด
ผู้ประกอบการร้านอาหารไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ แรงงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการเยียวยาบ้างไม่ได้บ้างต้องเป็นแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตาม ม.33 ส่วนแรงงานด้อยโอกาสหมดโอกาสทุกช่องทาง อ่านข่าว รมช.สาธารณสุขอังกฤษลาออกจากตำแหน่ง เพราะจับได้ว่าไม่สวมหน้ากากอนามัยแล้วไปกอดจูบกับหญิงสาวรายหนึ่งในที่สาธารณะ ก็ได้แต่ยิ้มอ่อน.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th