"หมอนคร" ตอบ "มิ่งขวัญ" ละเอียดยิบ ปมกล่าวหาไทยตกขบวน "Covax" หาประโยชน์จากเอกชน ย้ำไทยจัดอยู่ประเทศรายได้ปานกลาง หากเข้าร่วมต้องชำระเงินเอง พร้อมแจงเหตุเลือกซิโนแวค
จากกรณีที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท
โดยมีการกล่าวว่าประเทศไทยตกขบวน COVAX ส่งผลกระทบต่อการบริหารวัคซีน จากนั้น ได้มีข้อสงสัยเรื่องการใช้วัคซีน Sinovac กับผู้สูงอายุ 60 ปี เป็นต้นไป และความกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จากการจัดหาวัคซีนจากบริษัทเอกชน
ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย.64 นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า โครงการ COVAX มีประโยชน์สำหรับประเทศที่มีรายได้น้อย ที่จะได้รับวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่เมื่อเข้าร่วมโครงการ ต้องชำระเงินเองบวกกับมีค่าบริหารจัดการเพิ่มเติมเข้ามา และวัคซีนที่ส่งมอบเกือบทั้งหมดในเวลานี้ คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนกา ซึ่งไทยผลิตใช้ในประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เกิดประโยชน์อะไรที่จะจองซื้อวัคซีนกับ COVAX แล้วต้องจ่ายแพงกว่าการซื้อตรงจากบริษัท และเมื่อเกิดการระบาดในประเทศอินเดีย ที่เป็นแหล่งผลิตใหญ่ของวัคซีนโครงการ COVAX ทำให้การส่งมอบวัคซีนไม่เป็นไปตามแผนของ COVAX ประเทศที่จองซื้อวัคซีนต่างได้รับวัคซีนล่าช้า ในส่วนของข้อกังวลเรื่องการนำวัคซีนแอสตร้าฯมาใช้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ ทั้งที่แผนเดิมกำหนดให้ใช้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีเป็นหลัก ขณะเดียวกันได้นำวัคซีน Sinovac มาให้บริการผู้สูงอายุด้วย
...
"ขอเรียนอธิบายว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนกา มีข้อบ่งใช้ในคนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปอยู่แล้ว เพียงแต่ในช่วงแรกประเทศไทยได้รับวัคซีนมาเพียงแค่ 117,000 โดส จึงสงวนไว้สำหรับผู้สูงอายุ เพราะมีความเสี่ยงสูงหากได้รับเชื้อ แต่เมื่อมีวัคซีนเพิ่มมาจึงให้ใช้กับวัยรุ่น" นพ.นคร กล่าว
นพ.นคร กล่าวต่อว่า ในขณะที่ Sinovac ตอนแรกไม่มีข้อมูลการทดลองในผู้สูงอายุ จึงกำหนดข้อบ่งใช้เฉพาะ 18-60 ปี เมื่อมีข้อมูลการใช้จริงในประเทศต่างๆ ที่มีการใช้ในผู้สูงอายุแล้วมีความปลอดภัยและได้ผลดี คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงมีมติให้ขยายการใช้ในผู้สูงอายุได้
"ส่วนที่มีข้อกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจากการจัดหาวัคซีน Sinovac ซึ่งเป็นของเอกชน ในขณะที่วัคซีน Sinopharm ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน กลับไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลไทยมาตั้งแต่ต้น ขอย้ำว่า Sinovac เป็นวัคซีนเดียวที่สามารถส่งมอบให้กับประเทศไทยได้ตั้งแต่เดือน ก.พ.64 และเป็นการเจรจาจัดซื้อวัคซีนที่อยู่ในการดูแลของสถานทูตจีนในประเทศไทยและรัฐบาลจีนตลอด อีกประการหนึ่ง คือ ราคาวัคซีน Sinovac ถูกกว่าวัคซีน Sinopharm ทั้งที่เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายแบบเดียวกัน การตัดสินใจของรัฐบาลอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์สูงสุดของประชาชน ความโปร่งใส และความปลอดภัยเป็นสำคัญ" นพ.นคร กล่าว