คนไทยมั่นใจ เปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจ ซูเปอร์โพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนประเด็น “วัคซีน” เข็มแรกดำเนินการระหว่าง 1-30 พ.ค.64
87.9% ต้องการวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทุกคนได้รับก่อน ส่วนเข็มที่สองยอมให้ยืดเวลาออกไปก่อนได้
86.8% ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนกระจายวัคซีนครอบคลุมทุกพื้นที่เร่งด่วนที่สุด
83.7% ให้ประชาชนได้รับวัคซีนถ้วนหน้าตามจำนวนวัคซีนที่มีอยู่
81.6% ต้องการให้รัฐบาลจัดอันดับกลุ่มเสี่ยง กระจายให้จังหวัดจัดการเอง
81.1% ไม่ต้องการให้เอาวัคซีนไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง
79.6% ต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆนำเข้าวัคซีนหลากหลายยี่ห้อเร็วที่สุด
78.2% มั่นใจค่อนข้างมากต่อการได้ใช้ชีวิตปกติหากได้รับวัคซีนเข็มแรก
82.1% ประชาชนมั่นใจต่อการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังได้รับวัคซีนเข็มแรก
สรุปก็คือประชาชนต้องการวัคซีนเข็มแรกและการกระจายให้พื้นที่จังหวัดและมีส่วนร่วมในการบริหารและจัดการต่อ การเข้าถึง
คำตอบจริงๆก็คือคนไทยต้องการวัคซีนให้เร็วที่สุดและทั่วถึงเพราะเห็นว่าเป็นวิธีการเดียวที่จะคลี่คลายปัญหาได้
ไม่เกี่ยงยี่ห้อ ไม่กลัวตาย ขอแค่เข็มแรกก่อนเป็นใช้ได้
กระจายวัคซีนให้ทั่วถึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาหลังจากที่มีการแจกไปแล้วลอตหนึ่ง
ปรากฏว่าไปลงพื้นที่นักการเมืองซึ่งมีอิทธิพลด้วยยอดทั้งหมดมากกว่าจังหวัดอื่นๆจนผิดสังเกต
นายกฯได้สั่งให้มีการแก้ไขด้วยการมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปรับผิดชอบเนื่องจากมีบุคลากรเต็มรูปแบบอยู่แล้ว
ดูทิศทางน่าจะดีขึ้น...
แต่ปัญหาใหญ่ของไทยก็คือจำนวน “วัคซีน” ที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่เพราะยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะมีจำนวนเท่าใด
โดยเฉพาะยี่ห้อ “แอสตราเซเนกา” ตัวหลักนั้นจะได้รับเมื่อใด จำนวนจะเท่ากับที่ตกลงกันไว้หรือไม่
รัฐบาลก็ไม่มีใครตอบได้
เพราะคงไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะได้หรือไม่ นอกจากพูดรวมๆว่าภายในเดือน มิ.ย.64 นั้นได้แน่ๆ
มันก็แปลกดีเหมือนกันนะเพราะรัฐบาลจะโดยใครก็ตามที่ไปลงนามข้อตกลงน่าจะรู้ดีที่สุดและควรจะให้คำตอบได้
มันเกิดอะไรขึ้น?
อีก 2-3 วันข้างหน้าคงจะรู้ได้ว่าจะมีวัคซีนตัวนี้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามข้อตกลงก็ต้องเร่งหาวัคซีนกันทุกรูปแบบ
อะไรที่เป็นอุปสรรคก็ตัดออกไป
เพราะนี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยทีเดียว!
“สายล่อฟ้า”
