นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย เพื่อไทย แนะ จับตาเงินกู้ 7 แสนล้านหวั่นสูญเปล่าไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ฝ่ายค้าน ไม่รับร่างงบฯ 65 เหตุ ไม่ตอบโจทย์แก้โควิด-19 ระบาด

วันที่ 20 พ.ค. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อดีตรมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลจะนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุมรัฐภาเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้

จากการตรวจสอบการจัดทำงบประมาณที่รัฐบาลจัดทำ ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมสภา พรรคเพื่อไทยมีความเห็นตรงกันว่า จะไม่รับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2565 เพราะเป็นการจัดงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ การอ้างว่าจัดทำงบประมาณเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโควิดรอบ 3 เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อหาทางออกของรัฐบาล ในขณะที่ความเป็นจริง รัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการทหารมากกว่าความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข ในสภาวะโรคระบาดเช่นนี้ รัฐบาลกลับเห็นการซื้ออาวุธจำเป็นมากกว่าการรักษาชีวิตคน ซึ่งพรรคการเมืองฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าจะลงมติไม่รับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 อย่างแน่นอน

นายวิสาร กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้รัฐบาลออกร่าง พระราชกำหนดหรือ พ.ร.ก.กู้เงิน ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 พ.ศ.... วงเงินไม่เกิน 7 แสนล้านบาท

"ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากการกู้เงินตามพระราชกำหนด พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้าน ฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่มขึ้น เพราะเงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ที่ผ่านมา ที่อ้างว่า จะนำไปฟื้นฟูประเทศและช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผลที่ออกมา คือ การตรวจสอบการใช้เงินกู้ของรัฐบาลทำได้ยากมาก และการใช้เงินกู้ที่ผ่านมา ไม่ช่วยให้ประเทศฟื้นตัว นอกจากนี้เกิดปัญหาคอร์รัปชัน เงินกู้ส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อนำไปสร้างฐานการเมืองของรัฐบาล นอกจากนี้รัฐบาลเปิดโอกาสให้นายทุนและเจ้าสัว เข้าถึงเงินกู้ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก กลับเข้าไม่ถึงเงินกู้ดังกล่าว การมาขอกู้เพิ่มหวั่นใจว่า รัฐบาลจะนำเงินกู้ไปหาประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงใจ" นายวิสาร กล่าว...

...