นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ติงรัฐ ต้องตัดงบประมาณปี 65 ของทหาร และกระทรวงอื่นที่ไม่จำเป็น ไปเพิ่มให้ สาธารณสุข-ยุติธรรม สู้วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังรุนแรง
วันที่ 17 พ.ค. นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ว่า แม้เป็นงบขาดดุล เพราะกู้มาเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด-19 รอบ 3 แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า งบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข กลับถูกลดลง 10.8% ขณะที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ในด้านการป้องกันประเทศ มีการปรับลดลงเพียง 4.9% แถมยังคงแผนงานในการจัดซื้ออาวุธ เช่น เรือดำน้ำ ทั้งที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับโรคไวรัสโควิด-19
หากในยามปกติ งบประมาณด้านการทหารก็มีความจำเป็น แต่สภาวะที่เราต้องต่อสู้กับสงครามไวรัสโควิด-19 ที่มีจำนวนประชากรไทย ยังเพิ่มจำนวนการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันอยู่ในขณะนี้ ตนเห็นว่า งบประมาณที่มี จำเป็นต้องใช้ในการรักษาชีวิตพี่น้องประชาชนร่วมชาติมากกว่า ซึ่งต้องเพิ่มงบฯ ด้านสาธารณสุข ก่อนเหนือสิ่งอื่นใดไม่น้อยกว่า 20% เพราะมีความจำเป็นเร่งด่วนรวมถึงต้องเพิ่มให้กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ที่ต้องดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ ที่ขณะนี้มียอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ทวีคูณขึ้นทุกวัน และยังมีการตรวจในเชิงรุกในเรือนจำต่างๆทั่วประเทศ จึงต้องเพิ่มงบฯ เพื่อมาดูแลรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
"ส่วนงบประมาณของกระทรวงอื่นๆ ยังสามารถตัดลดงบฯให้เหลือเท่าที่จำเป็นได้ โดยเฉพาะงบของทหาร ในปีงบประมาณ 2565 ตนเห็นว่าต้องตัดลดงบประมาณลงให้มากกว่านี้ เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ก็ยังต้องตัดลดงบฯ ลงมา เพื่อนำมาเพิ่มให้ในเรื่องวัคซีน และยารักษาไวรัสโควิด-19 ตลอดจนเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์และสาธารณสุข เพื่อช่วยชีวิตและสร้างความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ต่อเมื่อสภาวะประเทศกลับมาสู่ภาวะปกติ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโดยการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของประเทศไทยสำเร็จแล้ว ค่อยมาว่ากันใหม่ ให้โควิด-19 ลดลง มีการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าขายก็จะกลับมาเดินหน้าต่อได้ปกติ และสิ่งสำคัญต้องหาเงินทุนสำรองให้ประชาชนได้เข้าถึง เพื่อกู้ยืมเงินมาทำธุรกิจค้าขายต่อไป เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าด้านการทหาร" นายประมวล กล่าว...
...