หลังจากที่การให้ใช้ วัคซีนโควิด-19 แบบฉุกเฉิน เพื่อเอาชนะโควิด-19 จาก องค์การอนามัยโลก ปรากฏว่า บริษัทยา ได้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ออกมาหลายชนิด ซึ่งช่วงนั้นถือว่าเป็นระยะที่ 1 ของการแพร่ระบาด การค้นคว้าวัคซีนโควิดได้ผลในระยะที่สอง ของการระบาด มียี่ห้อ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ของ อเมริกา และตามมาด้วย จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ยี่ห้อ ซิโนแวค และ ซิโนฟาร์ม ของจีน ยี่ห้อ แอสตราเซเนกา ของ อังกฤษ ยี่ห้อ สปุตนิก ของ รัสเซีย เราจะ คุ้นหูกันอยู่แค่นี้ ประเทศอื่นๆก็มีการผลิตวัคซีนโควิดออกมาเช่นกัน รวมทั้งอินเดีย ที่ โควิด-19 ระบาดหนักที่สุดอยู่ในขณะนี้ แต่การยอมรับวัคซีนโควิดก็จะมีอยู่ไม่กี่ชนิด
บางชนิดก็มีการสั่งหยุดใช้ยาเนื่องจากพบอาการข้างเคียงค่อนข้างจะมาก เช่น จอห์นสันแอนด์จอห์สัน ขนาดสหรัฐฯก็ยังให้ชะลอเอาไว้ก่อน ในยุโรปบางประเทศก็ให้หยุดรอดูผลกระทบจากแอสตราเซเนกา ผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะหลอดเลือดสมองดูจะเป็นเรื่องใหญ่ จนกระทั่งเกิดความลังเลที่จะเข้ารับวัคซีนของประชาชน เช่น ที่สหรัฐฯ เวลานี้ เอเอฟพีรายงานว่า ถึงสหรัฐฯมีการฉีดวัคซีนวันเดียวได้ถึง 3.4 ล้านคน แต่ในบางรัฐ เช่น เท็กซัส กลับมีความต้องการที่จะฉีดวัคซีนของประชาชนลดลง เป็นเหตุให้ศูนย์การฉีดวัคซีนของรัฐบาลกลางในเมืองอาร์ลิงตัน ที่ตั้งอยู่ระหว่างดัลลัส กับฟอร์ตเวิร์ธ ต้องปิดตัวลงไปเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะไม่มีคนไปใช้บริการ ขนาดเอาใจชาวอเมริกัน โดยขยายเวลาการฉีดวัคซีน จาก 17.00 น. ไปจนถึง 21.00 น. เปิดให้ฉีดแบบไดรฟ์ทรู คนอเมริกันก็ยังไม่สนใจ
กระทรวงอุดมศึกษาฯ บ้านเราไปรวบรวมข้อมูล การฉีดวัคซีนทั่วโลก ที่มีการฉีดไปแล้วกว่า 1,131 ล้านโดส ใน 194 ประเทศ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนรวมกันแล้วเฉลี่ย 20 ล้านโดสต่อวัน ที่ชนะเลิศเป็น อิสราเอล ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรเกินครึ่งไปนานแล้ว อเมริกาฉีดไปแล้ว 240 ล้านโดส มีประชากรกว่า 101 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่สองไปเรียบร้อยแล้ว
...
ในอาเซียน เอง มีประชากรอาเซียนได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 31.3 ล้านโดส สิงคโปร์ ฉีดมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของประชากร อินโดนีเซีย ฉีดไปแล้ว 20.1 ล้านโดส สำหรับ ประเทศไทย ฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,477,078 โดส อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบการได้รับ วัคซีนของประชากรแต่ละประเทศ ยังอยู่ในความประมาทไม่ได้ จีน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 253.46 ล้านโดส แต่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนประ-ชากรฉีดได้แค่ร้อยละ 9.1 สหรัฐฯ ฉีดไป 240.16 ล้านโดส คิดเป็น ร้อยละ 37.4 ของประชากรทั่วโลก อินเดีย ฉีดไป 154.85 ล้านโดส หรือร้อยละ 5.7 ของประชากรอินเดียเท่านั้น
มาเลเซีย ที่พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดียแล้ว ฉีดวัคซีนไปได้แค่ร้อยละ 2.2 ของประชากร ลาว ฉีดได้ร้อยละ 1.9 ของประชากร บรูไน ร้อยละ 1.2 เมียนมา ร้อยละ 1 ฟิลิปปินส์ ที่ร้อยละ 0.9 เวียดนาม ร้อยละ 0.3 ส่วนไทย คิดเป็นสัดส่วนที่ร้อยละ 1.1 ก็น่าแปลกตรงที่ว่า ประชากรเวียดนาม ได้รับวัคซีนน้อยที่สุด แต่กลับไม่พบจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในรอบนี้เช่นเดียวกับบ้านเรา ก็คงขึ้นอยู่กับมาตรการการควบคุมโรคด้วย ส่วนที่ ลาว นอกจากจะมี วัคซีนทุกชนิดที่มีจำหน่ายบนโลกใบนี้แล้ว ยังโฆษณาด้วยว่าพร้อมที่จะฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปลาว
มีให้เลือกหลายชนิดตามอัธยาศัยอีกต่างหาก.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th