นายกฯ เรียกประชุม ศบค.ชุดเล็ก ด่วน ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ขอการท่าเรือเตรียมแผนเชิงรุก ความพร้อม รพ.สนามรองรับ หลังโควิดระบาดในชุมชนแออัดจำนวนมาก ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อ กทม.ยังพุ่งไม่หยุด

วันที่ 3 พ.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เตรียมเรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดเล็ก ในเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังที่ผ่านมาพบตัวเลขผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯยังคงสูงเป็นจำนวนมาก รวมถึงการเร่งตรวจเชิงรุกในชุมชนต่างๆ ภายในกรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพฯได้มีแผนรองรับในการตรวจเชิงรุกไว้แล้ว

ขณะเดียวกัน มีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อเตรียมการรองรับหากมีการแพร่ระบาดในชุมชนจำนวนมาก ตามที่มีรายงานว่า สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่า นายกรัฐมนตรีมีบัญชาและมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างและพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนแออัดในเขตกรุงเทพมหานคร จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อเตรียมการรองรับ หากมีการแพร่ระบาดในชุมชนจำนวนมาก เป็นการลดภาระด้านสาธารณสุขในระบบ ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดทางด้านบุคลากรทางการแพทย์และเตียงผู้ป่วย

...

โดยกระทรวงกลาโหมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ชุมชนคลองเตยและชุมชนใกล้เคียง เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีสภาพแออัด และประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก กรณีการพบการติดเชื้อหากไม่นำเข้าสู่ระบบสาธารณสุขโดยเร็วและทันเวลา จะส่งผลให้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจนเกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข ดังนั้นจึงขอให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการใช้อาคาร โกดังสเตเดียม เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้ศักยภาพและสถานที่ที่มีความพร้อมอยู่แล้วเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นไปตามบัญชาของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หรือ ศปม. จะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานการปฏิบัติและสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป.