ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อย สมยศ และไผ่ ดาวดิน วงเงิน 200,000 บาท โดยห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และร่วมกิจกรรมหมิ่นต่อสถาบันฯ ก่อนคุมตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รอคำสั่งปล่อยตัว
ที่ศาลอาญา วันที่ 23 เม.ย.64 ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน สองแกนนำกลุ่มราษฎร จำเลยที่ 4 และ 7 ในคดีที่ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลย ตาม ป.อาญา ม.112 กรณีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล เพื่อไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวที่ นายสมยศ และนายจตุภัทร์ ได้ยื่นเข้ามาใหม่อีก โดยคำร้องล่าสุดทั้งสองได้ระบุถึงเหตุผลที่จำเลยตัดสินใจถอนทนายความว่า เกิดจากความกดดันและความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และสิทธิในการปรึกษาทนายความอย่างเต็มที่ในห้องพิจารณาคดีของศาล ตามปรากฏในคำแถลงขอถอนทนายความ ฉบับลงวันที่ 8 เม.ย. 2564 นอกจากนี้ ทั้งสองยังมีความประสงค์แต่งตั้งทนายความเพื่อปรึกษาและว่าต่างคดีให้กับจำเลย เพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป
นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า จำเลยทั้งสองคนได้แต่งตั้งตนให้เป็นทนายความประจำคดี หลังจากถอนทนายความออกไปก่อนหน้านี้ และมีการยื่นเหตุผลใหม่ประกอบการขอประกันตัว ซึ่งนอกเหนือจากแนวนโยบายว่าด้วยการให้โอกาสผู้ถูกคุมขังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว มีเหตุผลเฉพาะของนายสมยศ คือมีอาการป่วยเกี่ยวกับข้อเข่า และในส่วนของนายจตุภัทร์ คือกำลังศึกษาระดับชั้นปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเหตุผลประกอบเพิ่มเติมเข้าไปด้วย รวมทั้งให้ศาลกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวที่เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
...
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลมีคำสั่งว่าศาลได้ไต่สวนนายสมยศ และนายจตุภัทร์แล้ว ประกอบกับไปสวนผู้ควบคุมของกรมราชทัณฑ์เห็นว่า กรณีไม่มีเหตุเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุอันตรายอื่น อาจจะเป็นอุปสรรคเนื่องจากว่าพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้นแล้วอีกทั้งจำเลยได้ให้การยืนยันว่า จะปฏิบัติตามเงื่อนไขว่าจะไม่ไปกล่าวพาดพิงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ก้าวล่วงต่อสถาบันโดยจำเลยยืนยันแล้วว่า ได้แถลงไว้เมื่อวันที่ 5 เมษายนว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวด้วยความสมัครใจของจำเลย
ศาลพิเคราะห์ภายหลังการไต่สวนแล้ว จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสอง และศาลได้กำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยทั้งสองทำกิจกรรมใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียต่อพระเกียรติของสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศกลับต้องเดินทางมาศาลตามนัด
หลังศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เป็นนายประกันให้กับนายสมยศ และทนายความได้ไปทำสัญญาประกันปล่อยตัวชั่วคราวในวงเงิน 200,000 บาทเท่าเดิม เพื่อปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 18.00 น. ถึง 19.00 น โดยนายสมยศได้ยกมือไหว้ขอขอบคุณทุกคนที่ได้มาเบิกความ และให้กำลังใจ ส่วนไผ่ ดาวดิน ได้เข้าไปสวมกอดน้องสาวที่มาฟังการไต่สวนแทนมารดา จากนั้นจำเลยได้พูดคุยกับญาติ และบรรดาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นมิตรและอบอุ่นก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนจำต่อไป.