ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอมอ่อนข้อให้เอกชนสามารถที่จะสั่งซื้อ วัคซีนโควิด-19 เข้ามาให้บริการประชาชนเพื่อให้ทันกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ที่สถิติผู้ป่วยสูงขึ้นทุกวัน โดย เอกชนต้องออกค่า
ใช้จ่ายเอง ประเด็นนี้คงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะเอกชนก็พร้อมที่จะจ่าย ปัญหาอยู่ที่รัฐไม่ยอมกระจายวัคซีนต่างหาก ที่ร้ายไปกว่านั้น ความไม่พร้อมของภาครัฐ ทั้งโรงพยาบาล เตียงคนป่วย น้ำยาตรวจเชื้อโควิด-19 และวัคซีนโควิด-19 ทำให้มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะไปโทษว่าเอกชนไม่พร้อมหรือไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ได้ เพราะรัฐไปปิดกั้นเองตั้งแต่ต้น
มีข่าวจาก สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย แจ้งว่า หอการค้าไทยจะมีการประชุมร่วมระหว่างหอการค้าไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทใหญ่ๆของไทยกว่า 40 บริษัท จากทุกภาคอุตสาหกรรม เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ก ไลน์ ไอบีเอ็ม กลุ่มธนาคาร ธุรกิจโรงแรม ไทยเบฟเวอเรจ บุญรอด โดยผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบกับภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดกับ เอสเอ็มอี ประเด็นหลักต้องการให้มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
โดยเอกชนพร้อมที่จะช่วยภาครัฐ เช่น จัดทีมสนับสนุนกระจายและฉีดวัคซีน เอกชนพร้อมที่จะสนับสนุนทั้งสถานที่และอุปกรณ์ให้กับ กทม. จัดทีมสื่อสารทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จัดทีมเทคโนโลยีและระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการลงทะเบียน จัดทีมหาวัคซีนเพิ่มเติมร่วมกับภาครัฐ และเครือข่ายโรงพยาบาลในเบื้องต้นผู้ประกอบการในเครือข่ายหอการค้าไทยเสนอพื้นที่ใน กทม.มาแล้ว 49 แห่ง จะมีการคัดเลือกพื้นที่นำร่อง 7 แห่งในเดือนนี้ และคาดว่าจะมีสถานที่ฉีดวัคซีนถึง 234 แห่งทั่วประเทศ
...
ขึ้นอยู่กับภาครัฐจะพร้อมหรือไม่
ที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มักจะเน้นนโยบาย ประชารัฐ ที่เกิดจากความร่วมมือจากสามฝ่ายคือ
ภาครัฐ เอกชน และประชาชน พอโควิดมาเท่านั้น ภาพความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจหายไปจากหน้าจอทันที ทำให้ภาพของการบริหารจัดการวัคซีนและการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลจะเป็นรูปแบบตัวใครตัวมันมากกว่า ภาพที่เห็นจนชินตาคือ มีแต่โฆษก ศบค.หรือไม่ก็อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกมาแถลงปาวๆ
ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใด
วันที่ 24 เม.ย.นี้ อินโดนีเซีย จัดประชุม อาเซียนซัมมิต สุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษ คาดว่าเรื่องใหญ่จะมีอยู่ 2 เรื่อง คือ โควิด-19 กับ สถานการณ์รุนแรงในเมียนมา มีผู้นำชาติอาเซียนตอบรับเข้าร่วมประชุมเกือบทุกประเทศ รวมทั้ง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้ก่อการรัฐประหารด้วย สำหรับผู้นำบ้านเรา ยังไม่มีคำตอบ
มาจนถึงจุดนี้แล้ว อะไรปลงได้ก็ต้องปลง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th