"ชวน หลีกภัย" ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผย มีพนักงานของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ที่รับเหมาสร้างอาคารรัฐสภา ติดโควิด 3 คน ทำหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้า กล้องวงจรปิด สั่งทำความสะอาด และให้จนท.สวมแมสก์ตลอดเวลา


วันที่ 20 เมษายน 2564 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีพนักงานของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 คน ว่า เบื้องต้นทราบว่าเป็นพนักงานที่ดูแลเรื่องระบบไฟฟ้า และกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบแล้ว

จากการตรวจสอบ พบว่ามีพนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 3 คนจริง แต่งานส่วนใหญ่เขาไม่ได้เข้ามาปฏิบัติภายในตัวอาคาร รัฐสภา และมั่นใจว่า ทางบริษัทซิโน-ไทยฯ มีวิธีการปฏิบัติเพื่อดูแลพนักงาน ที่มาปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐสภาอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ส่วนการประชุมกรรมาธิการ สภาฯ ในช่วงการปิดสมัยประชุมสภาฯ ยังเห็นว่ามีกรรมาธิการหลายคณะได้ชะลอการประชุมออกไปก่อน แต่การประชุมภายในบางคณะ ยังสามารถดำเนินการได้ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ เช่น การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพราะจะรอให้โควิด-19 เป็นศูนย์คงไม่ได้ เนื่องจากจะต้องอยู่กับความเป็นจริง

ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่รัฐสภา ตนได้เน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนไปยังพนักงานทำความสะอาดภายในรัฐสภา ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าตลอดเวลา การปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจาก มีพนักงานที่ดูแลเรื่องระบบไฟฟ้า และกล้องวงจรปิด สังกัดบริษัทซิโน-ไทยฯ ซึ่งรับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 คน และให้ร่วมกันทำความสะอาดในบริเวณที่สาธารณะอย่างสม่ำเสมอ

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพนักงานของบริษัทซิโน-ไทยทั้ง 3 คน ได้มีการพักงานและเข้าระบบการรักษาตัวแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการคุยในห้องไลน์กลุ่มแม่บ้าน สภาฯ ตั้งแต่ วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า “แจ้งเตือนสำคัญมากพี่ๆ แม่บ้านทุกคน ขณะปฏิบัติหน้าที่และอยู่ภายในรัฐสภา เกียกกาย พี่... แจ้งว่าให้ใส่ผ้าปิดจมูกตลอดเวลา เนื่องจากตอนนี้ มีผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดที่ทำงานเป็นช่างอยู่ในรัฐสภาจำนวน 3 คน ให้ระมัดระวังตัวเองกันให้ดีด้วยนะคะ. เป็นงานระบบ AIT 3 ท่าน สรุปว่าติดโควิด คือ งานระบบ ple งานระบบไฟฟ้า, และกล้องวงจรปิดค่ะ” โดยมีคนรายงานต่อถึงผู้บริหารสภาฯ จึงสั่งให้มีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว