“ไพบูลย์” แก้รัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยอัดเล่นปาหี่

เพื่อไทยถล่ม “ไพบูลย์” เล่นปาหี่ชงแก้ รธน.ไม่แตะอำนาจ ส.ว. “ประเสริฐ” ซัดจะมัดมือชกใครถามพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ไม่ใช่เอาแต่ใจ ย้ำต้องหักดาบ ส.ว.เลือกนายกฯ ตัดท่อ คสช.สืบอำนาจ ปชป.เข็น 6 ร่าง แก้ไขผนึกพรรคร่วมฯ “จุรินทร์” บอกเตือนแล้วไม่ฟัง เตะถ่วงแก้ รธน.จุดชนวนม็อบไล่รัฐบาล “ปิยบุตร” เมินหอศิลป์ห้ามใช้สถานที่ ย้ายวิกเข้า มธ.ล่าชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ “บิ๊กตู่” โต้วุ่นรัฐบาลไม่ได้ถังแตก ไม่ขึ้นแวต ขออย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน สาวกตีปี๊บ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ต้องจ่าย 3.5 หมื่นล้านเซ่นจำนำข้าว จวก “วิษณุ”อย่าทำตัวขี้แพ้ชวนตี เด็ก พปชร.ท้าไม่ผิดจริงอย่าหนี กลับมาต่อสู้ พณ.ไล่บี้บังคับคดีจีทูจี

พรรคฝ่ายค้านเดินหน้าตอกย้ำกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น 13 มาตรา โดยไม่แตะต้องอำนาจส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงการเล่นละครตบตาประชาชน

พท.ขยี้ “ไพบูลย์” ปาหี่แก้ รธน.ต้มคนดู

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ประกาศว่าพรรคจะไม่รับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกินว่า 5 ประเด็นที่พรรคเสนอแก้ไขว่านายไพบูลย์พูดมาทั้งหมดนี้ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหรือยัง เท่าที่ติดตามไม่มี ส.ส.คนไหนออกมาพูดเช่นนี้ และยังไม่เห็นว่ามีมติพรรค พปชร.ออกมา ที่ผ่านมาการโหวตประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญซีก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ยังไม่มีเอกภาพพอ อย่าไปมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเอาแต่ใจตัวเองได้ ที่สำคัญนายไพบูลย์ยังต้องไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้ชัดเจนก่อนว่าเอาด้วยหรือไม่ บอกว่าถ้าเนื้อหาเกินจากที่ตัวเองเสนอไม่เอาด้วยไม่ถือเป็นนักประชาธิปไตย

ต้องอาศัยมือฝ่ายค้านไม่ใช่เอาแต่ใจ

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ท่าทีนายไพบูลย์ไม่คงเส้นคงวากลับไปกลับมาตลอด การจะมัดมือชกใครเช่นนี้ไปฟังเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองก่อนดีกว่าไม่ใช่เอาตามใจตัวเอง ที่สำคัญเงื่อนไขอย่างหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับความเห็นชอบจากเสียงฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า 20% ถึงจะแก้ได้ ไม่ใช่พวกมากลากไปได้ทั้งหมด การพูดเช่นนี้ถือไม่จริงใจ เหมือนไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าไม่อยากแก้ขอให้พูดกันตรงๆ ดีกว่ามาแสดงละครตบตาประชาชน เพื่อลดแรงปะทะให้รัฐบาล

หักดาบ ส.ว.ตัดท่อสืบอำนาจ คสช.

“การที่ย้ำไม่แตะอำนาจ ส.ว.นั้น เสียงเรียกร้องของประชาชนที่ดังที่สุดคือการลดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ เพื่อให้นายกฯมาจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เป็นการสืบทอดอำนาจตามที่ คสช.วางกลไกไว้แต่ต้น จึงไม่เห็นด้วยที่ยังคงอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯไว้ จากการพูดคุยกับ ส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน หลายคนเห็นตรงกันว่านายกฯควรมาจากเสียงของประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา แต่ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการ เมื่อประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ คงได้หยิบยกมาพูดคุยกันให้รอบคอบ ตรงความต้องการประชาชนมากที่สุด” นายประเสริฐกล่าว

ฉะทำเพื่อตัวเองห่วงเขตเล็กซื้อเสียงง่าย

ที่ห้างอิมพีเรียล สำโรง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ (พช.) ให้สัมภาษณ์ว่า มาตราที่พรรคพลังประชารัฐจะแก้ไขไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน แต่เพื่อประโยชน์ของพรรคเท่านั้น ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้ไขทั้งฉบับยกเว้นมาตรา 1 และ 2 ให้มีส.ส.ร.มาจากประชาชนจะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนที่เลือกเข้ามา ฝ่ายค้านได้คุยกันบ้างแล้ว ยืนยันว่าแก้ได้ทั้งฉบับไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรและศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าแก้ได้ เหลือแค่รอถามประชาชนก่อน แต่ก่อนช่วงไหนยังคลุมเครือ ขอยืนยันว่าควรแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือถ้าแก้รายมาตราก็แก้มาตรา 256 เหมือนเดิม เพื่อสะดวกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเห็นด้วยแต่ต้องดูรายละเอียด ส.ส.เขตจะเป็น 400 คน เขตจะเล็กลงน่าเป็นห่วงคือการซื้อเสียงจะมากขึ้น ทำให้ประชาธิปไตยบิดเบี้ยวเพราะพื้นที่เล็กลงการซื้อเสียงจะง่ายขึ้น เท่าที่ผ่านมาคงไม่ต้องบอกว่าพรรคไหนที่มีการซื้อเสียงกันอย่างมหาศาล เชื่อว่าประชาชนรู้ถึงเรื่องนี้ แม้เจ้าหน้าที่อาจไม่รู้ แต่ให้ไปถามเด็กประถมยังรู้เลยว่ามีการซื้อเสียงมากมาย นี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเพราะจะทำให้ประชาธิปไตยบิดเบี้ยว

ปชป.เข็น 6 ร่างแก้ไขถกพรรคร่วมฯ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายถวิล ไพรสณฑ์ประธานคณะกรรมการกฎหมายของพรรคได้ยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเสร็จแล้วจะมีการนัดประชุมสรุปในวันที่ 4 เม.ย.นี้ มีทั้งหมด 6 ร่าง แต่ละร่างแยกประเด็นชัดเจน อาทิ เรื่องสิทธิของประชาชน เรื่องระบบเลือกตั้งบัตรสองใบ เรื่องการคำนวณจำนวน ส.ส. ต้องมีความชัดเจน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทำได้ง่ายขึ้นคือมาตรา 256 เรื่องการกระจายอำนาจ เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุลเรื่องทุจริต เรื่องอำนาจ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ทั้งหมดจะถูกนำเสนอด้วยเหตุด้วยผลจะได้นำร่างทั้งหมดเสนอในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคต่อไป โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิป ส.ส.ของพรรคจะได้นำทั้ง 6 ร่าง ไปหารือกับพรรคร่วมด้วย ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต้องตั้งต้นจากความจริงใจที่อยากเห็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ยึดหลักคิดยึดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว

เตือนไม่ฟังถ่วง รธน.จุดชนวนวิกฤติ

ที่ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชนวันที่ 4 เม.ย.ใช้เหตุผลว่าการบริหารงานของรัฐบาล 7 ปีทุกฝ่ายถูกหลอก โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญว่า เคยเตือนซีกรัฐบาลแล้วอย่าสร้างเงื่อนไขทางการเมืองโดยไม่จำเป็น หากไม่สนับสนุนเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายของรัฐบาลที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะนำไปสู่การก่อเหตุทางการเมืองได้ สุดท้ายเริ่มเกิดเหตุดังที่เคยเตือนไว้แล้ว เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว การไปดึงถ่วงไว้ไม่มีประโยชน์ประเทศต้องเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ถ้าผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ตามนโยบายที่เคยประกาศไว้ จะลดการเคลื่อนไหวทางการเมือง ความชอบธรรมของการชุมนุมจะลดลง

รื้อระบอบ “ประยุทธ์” ย้ายวิกเข้า มธ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวทางหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครไม่อนุญาตให้กลุ่ม “Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่” ที่นำโดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าจัดกิจกรรมแคมเปญรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ในวันที่ 6 เม.ย.ได้ เพราะกิจกรรมมีแนวโน้มเป็นการเมืองเกินไปว่า ล่าสุดเพจคณะก้าวหน้าได้แจ้งกำหนดการใหม่ จะจัดงานวันที่ 6 เม.ย. เวลา 15.00น. เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนสถานที่จากหอศิลปกรุงเทพฯ ไปจัดที่ห้อง LT1 ชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เเทน พร้อมระบุว่าเตรียมบัตรประชาชนและไฟแห่งความหวังให้พร้อม จับปากกาให้มั่น มาร่วมลงชื่อพร้อมกันครั้งแรก รื้อระบอบประยุทธ์ หยุดยื้อเวลาเผด็จการ ด้วยกันไม่ง้อเผด็จการ ส.ว.มีไว้ทำไม

“อ๋อย” กระทุ้งต้องร่างใหม่ทั้งฉบับ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐเตรียมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 5 ประเด็น 13 มาตราในวันที่ 7 เม.ย.ว่าการเสนอแก้รัฐธรรมนูญของพรรคพลัง–ประชารัฐไม่ได้เริ่มจากผลประโยชน์ประเทศชาติ แต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์รัฐบาลและนักการเมืองพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ร้ายกว่านั้นคือสร้างความมั่นคงให้กับระบบที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ ทำให้ระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญนี้ยิ่งมั่นคงแน่นหนามากขึ้นไปอีกการแก้รายมาตราเพียงเพื่อลดหรือป้องกันวิกฤติการเมือง หากจะแก้รัฐ– ธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้เป็นประชาธิปไตย และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจริง จะต้องร่างใหม่ทั้งฉบับโดยประชาชน ต้องแก้การดำรงอยู่และอำนาจของ ส.ว. โดยเฉพาะอำนาจในการเลือกนายกฯต้องตัดออกไป หากไม่มีการแก้ไขอำนาจ ส.ว. การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราก็ไม่มีประโยชน์อะไร และยิ่งทำร้ายประเทศมากยิ่งขึ้น

พี่สาว “ยงยุทธ” นั่ง หน.เพื่อชาติ

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้างอิมพีเรียล สำโรง พรรคเพื่อชาติ จัดประชุมสามัญประจำปีเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยมีสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่อย่างพร้อมเพรียง โดยผลการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีนางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันน์เป็นหัวหน้าพรรค นายเทวกฤต พรหมมา เป็นรองหัวหน้าพรรค นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ เป็นเลขาธิการพรรค นายองอาจ คำทอง น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมืองเป็นรองเลขาธิการพรรค น.ส.กิ่งดาว สุจริต เป็นเหรัญญิกพรรค นางณัฏฐพิชา มีกองทรัพย์ เป็นนายทะเบียนพรรค นายภูมิพัฒน์ บุตุธรรม เป็น ผอ.พรรค นายกัมปนาท วงศ์หงษ์กุล เป็นโฆษกพรรค นายธีรพงษ์ เผ่ากา ว่าที่ ร.ต.ณัฐชัย วิอังศุธร เป็นรองโฆษกพรรค น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ น.ส.วิภาลักษณ์ เตชะภู นายเกริก–มนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ เป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งนี้ นางบุศรินธญ์เป็นพี่สาวนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาและเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 6 ของพรรค ขณะที่นายสงครามได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาและประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ

“สงคราม” รับผิดชอบปั้น ส.ส.ต่ำเป้า

นางบุศริณธญ์ให้สัมภาษณ์ว่า จากนี้จะเดินสายไปต่างจังหวัดนำนโยบายไปสู่สาขาพรรคแต่ละจังหวัดให้ชัดเจนเข้มข้นยิ่งขึ้น นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรค แน่วแน่ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย เรายืนอยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด คณะกรรมการบริหารพรรคจะเร่งสรรหาบุคคลที่จะทำงานให้พรรคและมีความรักในระบอบประชาธิปไตย ไม่ขายอุดมการณ์

นายสงครามกล่าวถึงเหตุที่ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพราะต้องการให้คนอื่นมาทำหน้าที่ เชื่อมั่นว่าพรรคมีคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ ตอนตั้งพรรคใหม่ๆ ตั้งใจว่าจะมีเสียงในสภาฯเกินกว่า 10 เสียงขึ้นไป เมื่อไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายก็ไม่ควรอยู่ต่อ ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปีแล้ว จึงสมควรให้สมาชิกพรรคตัดสินใจเอง ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมวันที่ 4 เม.ย. พรรคเพื่อชาติไม่มีแนวความคิดที่จะเข้าร่วม ถ้าเป็นรายบุคคลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นายกฯโต้ รบ.ไม่ได้ถังแตก–ไม่ขึ้นแวต

เมื่อเวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่องผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการช่วยเหลือประชาชนต้องย้ำอีกครั้งให้ชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ได้ถังแตก ข้อมูลที่รายงานในสื่อและเป็นรายงานความเสี่ยงที่กระทรวงการคลังทำรายงานเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกปีอยู่แล้วเป็นประจำ การประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 มี.ค. มีหารือกันว่าเรามีผู้อยู่ในระบบภาษีน้อย ต้องไปสร้างความเข้าใจให้ประชาชนว่าเมื่อเข้าระบบภาษีแล้วจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง ยืนยันยังไม่มีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวตใดๆทั้งสิ้น อย่านำเสนอข่าวหรือหลงเชื่อข่าวที่บิดเบือน และมีเป้าหมายเพิ่มจีดีพีของไทยขึ้นเป็น 4% ขณะที่โครงการต่างๆทั้งคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน เราเที่ยวด้วยกัน ช่วยให้การบริโภคมากขึ้น กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาคนละครึ่งเฟส 3 กระตุ้นการหมุนเวียนเงินในระบบ ไม่ใช่แจกเงินทิ้งไปเปล่าๆ

โอ่เริ่มเห็นดอกผลโครงสร้างพื้นฐาน

นายกฯกล่าวว่า ช่วงปีนี้และปีหน้าเป็นช่วงรอยต่อและการปรับตัวทางเศรษฐกิจ เพราะช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมาต่อเนื่องกว่า 160 โครงการ มูลค่าถึง 1.7 ล้านล้านบาท แม้จะกู้เงินมาดำเนินการบ้าง แต่นับต่อจากนี้จะเริ่มออกดอกออกผลให้เห็น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ การสร้างถนน การลงทุนเคเบิลใต้น้ำ จะนำรายได้กลับมารัฐบาลในอนาคต และวันที่ 5 เม.ย.จะเป็นประธานมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่ ผวจ.และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน บ่ายเปิดโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ห่วงที่สุดเริ่มที่โครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” (ฉลองกรุงและร่มเกล้า)

ขอมั่นใจดูแลผู้อพยพเมียนมา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการอพยพของชาวเมียนมา ที่เข้ามาพักพิงชั่วคราวในประเทศไทย ยืนยันว่าจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือผู้อพยพต่างๆที่หนีภัยการสู้รบหรือสถานการณ์ความไม่สงบตามหลักสากลระหว่างประเทศ มาตลอด ฝ่ายความมั่นคงและจังหวัดตามแนวชายแดนได้เตรียมสถานที่รองรับและมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นอย่างดี อยากให้สถานการณ์ในเพื่อนบ้านของเราสงบโดยเร็ว

พท.ตีปี๊บ “ปู” ไม่ต้องจ่าย 3.5 หมื่นล้าน

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท และคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายทอดตลาดว่า ขอแสดงความยินดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ แต่ทราบว่ากระทรวงการคลังจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ศาลจะรับคำร้องอุทธรณ์หรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล

ซัด “วิษณุ” อย่าทำตัวขี้แพ้ชวนตี

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รู้อยู่แก่ใจการใช้คำสั่งกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 44 ลุแก่อำนาจ คดีความอยู่ในศาลทำไมไม่รอ ขาดหลักนิติธรรมอย่างยิ่ง ทรัพย์สินบางอย่างมีมูลค่าทางจิตใจ บ้านที่อายัดไว้หรือทรัพย์สินการขายทอดตลาด เขาได้มาก่อนดำรงตำแหน่งนายกฯ อย่าเป็นขี้แพ้ชวนตี เมื่อมีการยึดอำนาจในประเทศนี้ ทุกครั้งจะใช้อำนาจไล่ล่ากวาดล้างฝ่ายตรงกันข้าม ซัดไว้ก่อนผิดถูกอีกเรื่องหนึ่ง สร้างรอยแตกแยกมาตลอด เห็นได้ชัดอยู่แล้ว

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เร่งรัดให้กระทรวงการคลังเร่งอุทธรณ์ เหมือนไม่ยอมรับคำตัดสิน ชี้นำศาลและสังคมให้เข้าใจผิด ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดชี้นำสังคม หลายปีที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งใช้วาทกรรมท่องจำขึ้นใจว่ามีการทุจริตจำนำข้าว แล้วนำไปหลอกประชาชนเพื่อรัฐประหาร คนรับไม้ต่อหลอกประชาชนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืมมือกระทรวงการคลังให้ออกคำสั่งยึดทรัพย์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนทรัพย์บางส่วนถูกยึดไปแล้วใครจะรับผิดชอบ

พปชร.ท้าไม่ผิดจริงกลับมาสู้คดี

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้เป็นวาทกรรม แต่มีการทุจริตจริง จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก มีรัฐมนตรีและข้าราชการผู้ใหญ่ติดคุกหลายคน บางคนหนีออกนอกประเทศไป ยังต้องรอการพิจารณาศาลปกครองสูงสุด กระทรวงการคลังจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ส.ส.เพื่อไทยหลายคนกล่าวหานายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯว่าลุแก่อำนาจ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้กระทำความผิด ไม่ควรหนีไปต่างประเทศควรกลับมาสู้คดีใช่หรือไม่

พณ.ตามบังคับคดีชดใช้จีทูจี

ที่ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สุดต้องมีการไปอุทธรณ์ แต่อีกกรณีหนึ่งเกี่ยวพันกับกระทรวงพาณิชย์คือคดีขายข้าวจีทูจี ที่ศาลตัดสินไปแล้ว กระทรวงการคลังต้องไปดำเนินการว่าต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่าไหร่ เช่นเดียวกันตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ กระทรวงการคลังชี้ไปแล้วว่าต้องชดใช้เท่าไหร่ ทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และโดยเหตุที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสียหายคดีจีทูจี ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการบังคับคดีให้ผู้เสียหายได้ชดใช้ แต่ผู้ต้องชดใช้ไปร้องศาลปกครอง ศาลปกครองวินิจฉัยแล้วว่าเป็นคำสั่งที่ชอบ จึงต้องไปตามบังคับคดีต่อไป ส่วนคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด ต้องรอการอุทธรณ์ของศาลต่อไป