ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้หลังจากโควิด-19 กำลังเจือจางลงไป จนกระทั่งว่ารัฐบาลเตรียมการที่จะเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่อยากมาเมืองไทย

พูดง่ายๆว่าเข้าคิวรอก็ว่าได้...

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้โอกาสที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจก็พอเห็นหน้าเห็นหลังได้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การเมืองทั้งในและนอกประเทศ

“เมียนมา” เพื่อนบ้านใกล้ชิดติดกัน ที่ทหารเข้ายึดอำนาจและปราบปรามประชาชนอย่างหนัก ก็ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร

กระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

การเมืองในประเทศถนนทุกสายกำลังพุ่งไปที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อสามารถ ระดมฝ่ายต่อต้านจนกลมเกลียวกันได้ระดับหนึ่ง

“ประยุทธ์” ต้องออกไปเป็น เสียงเดียวกัน!!

เพราะคือปัญหาสำคัญของประเทศที่จะต้องว่ากันตรงนี้ก่อนที่จะเรียกร้องเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเรื่องยากเอามากๆ

จากนี้ไปการขับไล่ “บิ๊กตู่” จึงไม่ใช่เฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (นอกสภา) แต่จะเป็นประเด็นที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทุกฝ่าย

ใช้เป็นยุทธศาสตร์เพื่อต่อสู้กับรัฐบาล คสช.

แน่นอนว่าจากนี้ไปการต่อสู้ทาง การเมืองจะเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะ “เสื้อแดงเก่า” ที่แกนนำ อย่างน้อย 2 คน ก็ประกาศท่าทีชัดเจน อยู่ที่ว่าจะระดมมวลชนได้มากน้อยแค่ไหน

ที่ต้องไม่พลาดกับงานใหญ่อย่างนี้ก็คือ “คนแดนไกล” ที่ออกมาเคลื่อนไหวดิสเครดิตรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

ไม่เอาเรื่องการเมืองแต่ว่ากันด้วยเนื้องาน

...

มีหลายเรื่องที่น่าสนใจเข้ากับสภาพความเป็นจริงทางสังคมที่เปลี่ยนไปซึ่งล้วนเป็นแนวคิดที่ต่างออกไปจากสิ่งที่ดำรงอยู่

เหมือนจะบอกว่าประเทศไทยควรไปทางไหน?

สามารถชี้นำสังคมและพอมองเห็นโอกาสเปิดต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ทับซ้อนกันอยู่แทบทุกเรื่อง

แม้แต่ระบบราชการที่รัฐบาลชุดนี้นำมาขับเคลื่อนอย่างเต็มรูปแบบทั้ง “คน” และ “ระบบ” ที่เกื้อหนุนอย่างเต็มที่

รัฐบาลคงหวังว่าหากโควิด–19 ไม่เป็นอุปสรรคสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจคืนกลับมาให้ได้ ผู้คนทำมาหากินมีรายได้ดีขึ้น

จะสามารถตรึงคนให้สนับสนุนมากขึ้น!

หรือการเปิดประตูเดินหน้าเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอโดยพลังประชารัฐ 5 ประเด็น 13 มาตรา แบบนำหน้า ไปก่อนไม่รอใคร

แก้ไขการเลือกตั้งเพื่อจัดระบบกันใหม่หันกลับไปใช้บัตร 2 ใบ อย่างที่เคยพูดกันว่าพลังประชารัฐจะแก้ประเด็นนี้หรือไม่

ปิดโอกาสไม่ให้เกิดพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างปัจจุบัน

แต่ไม่แตะต้อง “วุฒิสภา” ฐานอำนาจสำคัญ

แค่นี้ก็พอจะมองเห็นแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไปไม่ได้ไกลเพราะ “จุดยืน” ต่างกันชัดเจนประนีประนอมกันได้ยาก

โอกาสที่จะ “แตกหัก” มีความเป็นไปได้สูง!!!

“ลิขิต จงสกุล”