ศาลอาญาไต่ส่วนคำร้องทนายอานนท์ และ กรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการคุ้มครองกลุ่มจำเลยผู้ต้องหาคดีการเมือง โดยอ้างว่ากลัวจะได้รับอันตราย ขอให้พิจารณาเรียกภาพกล้องวงจรปิด เพราะหวั่นภาพจะถูกทำลาย
กรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว นายอานนท์ นำภา หนึ่งในจำเลย คดีม็อบคณะราษฎร 2563 มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เพื่อตามที่ศาลนัดไต่สวนกรณียื่นหนังสือที่เขียนด้วยลายมือเสนอต่อศาลเกี่ยวกับการควบคุมตัวกลุ่มจำเลย (นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และ นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์) ในเรือนจำ โดยมีการอ้างว่ากลัวจะได้รับอันตราย โดยศาลได้เรียก ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังพิจารณาการไต่สวนด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวหลังการไต่สวนของศาลช่วงเช้า ว่า ศาลไต่สวน นายอานนท์ โดยละเอียดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วงบ่ายศาลจะให้ตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ น่าจะเป็น นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ ที่ปรากฏในคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ ให้มาไต่สวน
ทั้งนี้ นายอานนท์ได้ขอให้ทนายความไปขอเทปกล้องวงจรปิดในเรือนจำแดน 2 ทั้งหมด และห้องขังขณะเกิดเหตุ ตอนนี้กรมราชทัณฑ์ยังไม่จัดส่งให้ เราขอให้ศาลพิจารณาเรียกภาพกล้องวงจรปิด เพราะเรากังวลว่าอาจจะมีการทำลาย ลบทิ้ง หรือทำให้เสื่อมค่าไป นายอานนท์ยืนยันต่อศาล ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งหมดซึ่งเป็นนักโทษการเมืองเกรงจะได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงพยายามไปยืนหน้ากล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ดังนั้นภาพในกล้องวงจรปิดเห็นแน่นอน
นายกฤษฎางค์ กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุที่นายอานนท์รู้สึกไม่ปลอดภัยว่า นายอานนท์เบิกความต่อศาลว่ามีคำเตือนมาก่อนแล้วว่ามีบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งนายอานนท์เอ่ยเป็นชื่อเล่นในห้องพิจารณา ว่าเขาจะส่งคนมาจัดการนายอานนท์ และคนอื่นๆ ที่เรือนจำ นายอานนท์ยังยกตัวอย่างผู้ต้องหาคดีการเมืองหลายคนที่เสียชีวิต ขอให้ศาลได้โปรดคุ้มครอง เพราะมีตัวอย่าง นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้ ศาลจะไต่สวน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำราษฎร ในเรื่องนี้ด้วย เพราะอยู่ด้วยนั้น
...
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังในมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า จำเลยคงทำอะไรไม่ได้ นายอานนท์แถลงขอให้ศาลช่วยชีวิต เนื่องจากเป็นผู้ถูกคุมขังตามหมายศาล ศาลก็พูดชัดเจนดูแลเหมือนกันทุกคน เห็นความจำเป็นก็ไต่สวนเพื่อปกป้องดูแล ศาลกังวลถึงความปลอดภัยของผู้ต้องขังหรือจำเลย
ถามต่อว่ากรณีอย่างนี้เคยมีตัวอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่ ว่าจะคุ้มครองดูแลอย่างไร นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนนึกไม่ออก ท่านจะมีมาตรการดำเนินการหลังจากฟังแล้ว ไม่เคยมีตัวอย่าง ส่วนใหญ่มักจะตายก่อนที่ศาลจะทราบ
เมื่อถามถึงกรณีเรือนจำอ้างเป็นการตรวจไวรัสโควิด-19 นายอานนท์เบิกความอย่างไร นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า ตอนเวลา 21.30 น. ไม่มีการพูดว่าจะตรวจโควิด-19 แต่จะแยกไมค์กับไผ่ไปขังไว้ที่อื่น ตอนเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่จึงบอกจะมาตรวจโควิด-19 นายอานนท์บอกจริงๆ ไม่เคยมีการตรวจโควิดเลย เพราะนายอานนท์เข้าออกศาลหลายครั้ง เนื่องจากเป็นทนายและจำเลยในคดีอื่น จะถูกกักในแดนกักโรค ตรวจอุณหภูมิ กักครบ 14 วัน ตรวจโควิดแล้วแยกไปแดนอื่น ไม่เคยมีการตรวจกลางคืน หลังเวลา 18.00 น. ความจริงต้องใส่กุญแจนอนแล้ว
ถามถึงต้องการจัดคนดูแลเป็นพิเศษเป็นคุกวีไอพีหรือไม่ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ไม่มี เราไม่เรียกร้อง ขอให้เป็นมาตรการปกติ อยู่สงบสุขเท่ากับคนอื่น อย่าหาคนมาทำร้าย เป็นหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ อยู่แล้ว มีหน้าที่คุ้มครองดูแล
เมื่อถามถึงล่าสุดทุกคนที่ถูกคุมขังเป็นอย่างไร นายกฤษฎางค์ ระบุทุกคนกังวลเรื่องการถูกทำร้าย ส่วน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ก็อ่อนแรงจากการประท้วงอดอาหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะขอศาลไต่สวนทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ นายกฤษฎางค์ ตอบว่าอยู่ที่ศาล เพราะศาลเริ่มไต่สวนเพื่อป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น.