ความอึมครึมทางการเมืองเวลานี้บอกได้เลยว่า ยังหาบทสรุปไม่ได้ นักการเมือง ส.ส. พรรคการเมือง พยายามที่จะส่องหาอนาคตของตัวเอง ซึ่งยังไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทำวันนี้ ให้ดังที่สุดเป็นพอ อนาคตทางการเมืองที่ไม่มีอนาคต จะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะยุบสภา จะตั้งพรรคใหม่ จะย้ายพรรค ไปจนกระทั่งภาพเบลอๆของการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
ไทม์ไลน์ การเมืองต่อจากนี้ที่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์และการต่อรอง จะทำให้พื้นที่ทางการเมืองถูกบีบให้แคบเข้า การที่จะกระชับอำนาจให้อยู่ในมือของ กองทัพ ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต้องอาศัย สื่อ ศาล ทหาร เป็นกลไกในการดำเนินเรื่อง การแทรกซึม ระหว่างกองทัพกับการเมืองภายใต้การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยครึ่งท่อน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
การเมืองเหมือนน้ำท่วมปาก
เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ยุคนี้ไม่มีใครอยากได้ฉายา ฝ่ายค้านมืออาชีพ มีการคาดการณ์อนาคตการเมือง
จากนี้ไปจากผู้รู้เอาไว้มากมาย นายกฯลาออก ยุบสภา ไปจนถึงการทำรัฐประหารซ้อน
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องสมมติ ดูจาก ผลการเลือกตั้งซ่อม ทุกครั้งที่ผ่านมา คนที่กุมชัยชนะไม่ใช่ใครที่ไหน สรรพกำลัง กองหลัง กองหนุน กระสุน มีเท่าไหร่ขนเอามาเต็มพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หัวคะแนนในพื้นที่ ถูกบีบทุกวิถีทาง กระสุนดินดำไม่ต้องพูดถึง ยิงไม่มีอั้น ไม่มีวันหมด พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอ่อนแอจะเอาอะไรไปสู้
คนที่เป็นนักการเมืองน่าจะเข้าใจสถานภาพของตัวเองดีที่สุด มีทางเลือกอยู่สองทาง คือยอมตายในสนามรบ หรือยอมเข้ามาเป็นพวก การเลือกตั้งครั้งต่อไปเชื่อว่าพรรคเล็กพรรคน้อยคงรู้ชะตากรรมตัวเองได้อย่างดี
ไม่มีโอกาสอีกแล้ว
...
การวิวัฒนาการการเมืองไทยที่ถอยหลังลงคลอง มีทั้งแบบเดินหน้าและถอยหลัง ผสมกัน โอกาสที่จะเป็นการเมืองแบบเดียวกับ เมียนมา ก็เป็นไปได้ โอกาสที่จะเป็นการเมืองแบบเดียวกับ มาเลเซีย ก็มีโอกาสที่จะเกิดพรรคอัมโนในประเทศไทย ซึ่งทุกวันนี้เกือบจะใกล้เคียงแล้ว ถ้า เพื่อไทย ยอมเข้าร่วมรัฐบาลอีกพรรคก็สมบูรณ์แบบ
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน คือ สาม ป. จะต้องจับมือกันไปจนถึงเป้าหมายปลายทางและที่คาดกันว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ พูดกันมาหลายเที่ยว รัฐบาลปรองดองแห่งชาติ มีโอกาสเกิดขึ้นยากมาก
วันนั้นเราสนับสนุน กองทัพ เข้ามายึดอำนาจ เพื่อไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไล่รัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไล่รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ไล่รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ด้วยเงื่อนไขการทุจริตคอร์รัปชัน การละเมิดสถาบัน ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลก่อนหน้านั้นหรือรัฐบาลหลังจากนั้น ก็มีปัญหาเดียวกันนี้ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
ขนาดเมียนมาที่เคยชินอยู่กับการยึดอำนาจมาหลายสิบปี ยังไม่ทน ถ้ารัฐบาลไทยคิดจะเดินหน้าควบรวมอำนาจ ในขณะที่ประเทศ ไทยอยู่กับประชาธิปไตยมาหลายสิบปี ไม่ว่าจะทำเนียนแค่ไหน ก็จะตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะเผด็จการก็ไม่ใช่ จะประชาธิปไตยก็ไม่เชิง อยู่อย่างไทยไม่มีใครคบไปเรื่อยๆแบบนี้หรือ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th