ตำรวจสอบเครียด “แอมมี่” อีกรอบ ประเด็นโพสต์รับสารภาพคดีเผาหน้าเรือนจำคลองเปรม เบื้องต้นให้ความร่วมมือดี แต่ยังมีอาการวิตกกังวลอยู่บ้าง ก่อนส่งตัวคืนศาลผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ หลังแพทย์มีความเห็นว่าอาการป่วยไม่ร้ายแรง จนท.ราชทัณฑ์มารับตัวถึง รพ.ตำรวจ แยกไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษธนบุรี แม่ยื่น 5 แสนประกันตัวแต่ยังวืด รอง ผบช.น.ปฏิเสธควบคุมตัวแฟนแอมมี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังมีกระแสข่าวเตรียมเผ่นไปญี่ปุ่น เด้ง ผบ.คุกคลองเปรมเซ่นเหตุการณ์เผาพระบรมฉายาลักษณ์ “สมศักดิ์” สั่งด่วนกรมราชทัณฑ์กำชับเรือนจำทั่วประเทศ รปภ.เข้ม “รีเดม” ประกาศเคลื่อนไหววันที่ 6 มี.ค. เริ่มที่ห้าแยกลาดพร้าว เดินไปทิ้งขยะหน้าศาลอาญา การ์ดราษฎรตั้งทีม “สันติวิธี” มีหน้าที่ประสาน เจรจา ควบคุมมวลชนไม่ให้เกิดความรุนแรง
กรณีสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของม็อบมวลชนหลายกลุ่ม ล่าสุดกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมรีเดม “REDEM” (Restart Democracy) นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินขบวนไปยังบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว (ร.1 ทม.รอ.) จนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ยังออกหมายจับนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลพันธุ์ คดีวางเพลิงเผาหน้าเรือนจำคลองเปรม ชุดสืบสวนติดตามไปจับกุมได้ที่ห้องเช่าใน จ.พระนครศรีอยุธยา นำมาควบคุมตัวที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ และฝากขังศาลโดยไม่ได้นำตัวไปศาลแล้วนั้น
ตำรวจสอบเครียดแอมมี่อีกรอบ
ความคืบหน้าจากโรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 4 มี.ค. พ.ต.ต.หัสนัย เฟื่อง–สังข์ สว. (สอบสวน) สน.ประชาชื่น พร้อมทีมพนักงานสอบสวน เดินทางมาที่ รพ.ตร. เพื่อตรวจสอบอาการป่วยของนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลพันธุ์ เพิ่มเติม หลังศาลไม่ให้ประกันตัว จนกว่าแพทย์จะลงความเห็นเรื่องการรักษาว่าอนุญาตให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ พ.ต.ต.หัสนัยกล่าวว่า วันนี้ยังมีประเด็นอื่นๆที่ต้องสอบสวนนายไชยอมรเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 3 มี.ค.สอบสวนไปหลายประเด็นแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้ความร่วมมือดี แต่ยังมีอาการวิตกกังวลอยู่บ้าง ส่วนการเคลื่อนไหวสามารถขยับตัวได้แล้วเพราะอาการบาดเจ็บไม่สาหัส และสอบถามความเห็นของแพทย์ว่าสามารถนำตัวออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ ถ้าแพทย์ระบุว่าออกจากโรงพยาบาลได้แล้วจะควบคุมตัวออกไป ส่วนสถานที่ต้องรอการพิจารณาของศาลว่าจะควบคุมตัวต่อที่ไหน สำหรับประเด็นขอประกันตัวขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล
...
มุ่งประเด็นโพสต์รับสารภาพ
มีรายงานข่าวประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนต้องการสอบสวนประเด็นเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่แอมมี่โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวทำนองรับสารภาพว่าวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากที่ออกหมายจับไป หลังการสอบปากคำเสร็จสิ้นจะส่งศาลออกหมายขัง ส่วนกรณีกระแสข่าวตำรวจตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัว น.ส.ญาณิศา สาวคนสนิทของแอมมี่ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จากการตรวจสอบปรากฏว่า น.ส.ญาณิศาทิ้งสัมภาระแล้วเดินทางออกจากสนามบินไป หลังพบว่าเจ้าหน้าที่ตรวจตราเข้มงวด ยืนยันว่ายังไม่มีการควบคุมตัว น.ส.ญาณิศา ตามที่มีกระแสข่าว
แม่อยากให้ถูกคุมตัวที่ รพ.
ต่อมามารดานายไชยอมรเดินทางมาถึง รพ.ตร.เผยว่า ขณะนี้แอมมี่มีอาการบาดเจ็บจากแผลผ่าตัดช่องท้องครั้งก่อน อยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วนขั้นตอนยื่นประกันตัวปรึกษาทนายความอยู่ นอกจากนี้ มารดานายไชยอมรปฏิเสธให้ความเห็นกรณีตำรวจควบคุมตัวหญิงสาวรายหนึ่ง ที่มีข่าวว่าเป็นแฟนของลูกชาย ปฏิเสธว่าลูกชายยังไม่มีแฟนใหม่ หลังเลิกกับภรรยาเก่า ส่วนตัวอยากให้ลูกพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของ รพ.ตำรวจ ช่วงฝากขังของตำรวจ
ปฏิเสธจับกุมแฟนแอมมี่
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. กล่าวถึงกระแสข่าวกุมตัวเพื่อนสาวนายไชยอมร ที่ร่วมก่อเหตุวางเพลิงหน้าเรือนจำคลองเปรมอีก 1 คนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าแฟนสาวของนายไชยอมรจะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
แพทย์อนุญาตส่งเรือนจำทันที
พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ออกหมายจับผู้ใดเพิ่มเติม อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และระบุถึงตัวบุคคลที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดให้ชัดเจน รวมทั้งต้องตรวจสอบพยานหลักฐานของกลางในที่เกิดเหตุ ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ส่วนการนำตัวผู้ต้องหาที่ควบคุมอยู่ รพ.ตำรวจไปส่งที่เรือนจำ อยู่ระหว่างการรอให้แพทย์เจ้าของไข้ทำหนังสือยืนยันอาการป่วยว่า สามารถนำไปส่งยังเรือนจำได้หรือยัง หากแพทย์เจ้าของไข้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว จะนำหนังสือดังกล่าวไปแจ้งต่อศาล จากนั้นนำตัวไปส่งเรือนจำทันที
ส่งตัวคืนศาลผ่านคอนเฟอเรนซ์
ที่ศาลอาญาเวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ยื่นคำร้องขอส่งตัวนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ฯ หน้าเรือนจำคลองเปรมคืนศาล หลังจากที่เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ระบุขอควบคุมตัวนายไชยอมรที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ซ้ายและซี่โครงการยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหาคืนศาล พนักงานสอบสวนดำเนินการผ่านระบบการประชุมทางจอภาพหรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ คำร้องระบุว่า วันที่ 4 มี.ค.แพทย์ รพ.ตำรวจตรวจรักษานายไชยอมรแล้ว แจ้งให้พนักงานสอบสวนไปรับตัวผู้ต้องหาออกจาก รพ. ผู้ต้องหามีอาการดีขึ้น ไม่ต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.อีกต่อไป พนักงานสอบสวนจึงส่งตัวผู้ต้องหาคืนศาล ทั้งนี้ ศาลกำลังดำเนินการสอบผู้ต้องหาและไต่สวนพยานหลักฐานผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขณะเดียวกัน มารดาของนายไชอมร หรือแอมมี่ ผู้ต้องหา เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ต่อศาลอาญาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
แยกขังแอมมี่ที่เรือนจำธนบุรี
ต่อมาเวลา 17.00 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ยกคำร้องที่มารดานายไชยอมร ยื่นหลักทรัพย์เงินสด 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลเห็นว่า ศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นฝากขัง เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนี จนถูกจับกุมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ใช่เพราะเหตุหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ขณะที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอส่งคืนตัวผู้ต้องหาต่อศาล หลังจากไม่ควบคุมตัวที่ รพ.ตำรวจแล้ว ศาลไต่สวนพยานหลักฐานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขณะนี้มีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำระหว่างการฝากขังครั้งแรกที่ยังเหลือเวลาอีก 11 วัน จากนั้นศาลออกหมายขังไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจะส่งไปแยกขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป
ไปเรือนจำธนบุรีเพราะต้องรักษาตา
มีรายงานว่า ศาลอาญาไต่สวนพยานหลักฐาน แพทย์ผู้ให้การรักษาที่ รพ.ตำรวจ พนักงานสอบสวน และสอบผู้ต้องหาผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้ว พนักงานสอบสวนระบุถึงเหตุจำเป็นที่ขอให้นำตัว ผู้ต้องหาไปไว้ในเรือนจำพิเศษธนบุรี เนื่องจากขณะนี้ผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บที่ดวงตา และจำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เมื่อนำตัวผู้ต้องหาไปเรือนจำพิเศษธนบุรีแล้วจะประสานงานแพทย์เฉพาะทางที่ผู้ต้องหาเคยรักษาตัวอยู่ เพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปรักษากับแพทย์ดังกล่าว หากผู้ต้องหายังคงอยู่ที่ รพ.ตำรวจต่อไปจะไม่สามารถหาแพทย์เฉพาะทางมารักษาผู้ต้องหาได้ เมื่อสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า มีอาการบาดเจ็บที่ตาด้วยอาการกระจกตาบิดเบี้ยว ค่าสายตาเปลี่ยนทุกวัน รับแสงได้น้อยลงทุกวัน หากไม่รักษาเร่งด่วนอาจตาบอดได้ และมีความจำเป็นต้องให้แพทย์เฉพาะทางที่เคยรักษาผ่าตัด ในประเทศไทยมีแพทย์ด้านนี้ 3-4 คนเท่านั้น แต่ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องไปรายงานตัวกับตำรวจหลายคดี และก่อนเกิดเหตุนัดแพทย์ผ่าตัดตาอีกครั้งแต่ยังไม่ได้ดำเนินการ การส่งตัวไปเรือนจำพิเศษธนบุรีได้ประสานกับแพทย์เฉพาะทางที่ผู้ต้องหารักษาอยู่ ผู้ต้องหาก็ไม่คัดค้านการฝากขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี
จนท.ราชทัณฑ์มารับตัวถึง รพ.
ที่ รพ.ตำรวจ เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินทางมาคุมตัวนายไชยอมร จาก รพ.ตำรวจ ไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรี สถานที่ควบคุมตัวระหว่างฝากขังครั้งแรก ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ขณะคุมตัวออกจากโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่เข็นรถเข็นที่แอมมี่นั่งอยู่ หลบสื่อมวลชนไปยังทางเชื่อมอาคารด้านหลังตึกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แต่แอมมี่ยังชูสามนิ้ว ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถตู้ของทางกรมราชทัณฑ์ออกไป ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันที่ 5 มี.ค. ทนายความจะนำเอกสารไปยื่นต่อศาลเพื่อขอประกันตัวอีกครั้ง ให้เหตุผลเกี่ยวกับการรักษาอาการบาดเจ็บที่ดวงตา เนื่องจากแอมมี่ต้องพบแพทย์ต่อเนื่อง หากไม่มีการพบแพทย์จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นที่ดวงตาข้างซ้าย
“แอมมี่” ถึงเรือนจำพิเศษธนบุรี
ต่อมาเวลา 19.00 น. บรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษธนบุรี ถนนเอกชัย แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ 1 หมู่ และ รปภ.ของเรือนจำ สนธิกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางบอน มารอรับรถตู้ส่งตัวผู้ต้องขัง คุมตัวนายไชยอมรมาจากโรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ ไม่ได้มีมาตรการใดเป็นพิเศษ นอกจากวางแนวรั้วลวดหนามหีบเพลงกั้นไว้หลังประตูเท่านั้น เมื่อรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียน ฮฐ 1324 กรุงเทพมหานคร ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มาถึง รปภ.ของเรือนจำรีบเปิดประตูให้รถพานายไชยอมรเข้าสู่พื้นที่ด้านในเรือนจำทันที
แม่เพนกวินยื่นประกันครั้งที่ 4
ที่ศาลอาญาวันเดียวกัน นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน มายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวลูกเป็นครั้งที่ 4 เผยว่า วันนี้เตรียมหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ที่ก่อตั้งโดยนายอานนท์ นำภา มายื่นคำร้องต่อศาลขอประกันตัว แบ่งเป็น 2 คดี คดีละ 500,000 บาท ได้แก่คดียุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 และฐานความผิดหมิ่นสถาบันฯ ตามมาตรา 112 ตนมองว่า การใช้ตัวเองเป็นนายประกัน เชื่อว่าแม่จะเป็นหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของเพนกวิน นอกจากนี้ เชื่อว่าศาลจะเมตตา เพราะช่วงนี้ลูกใกล้สอบ ตนเตรียมเสื้อผ้ามาให้นายพริษฐ์เปลี่ยน เป็นเสื้อที่เพื่อนๆทำให้ ที่ผ่านมาเจอนายพริษฐ์แค่มองผ่านห้องกระจกเท่านั้น ไม่ได้พูดคุย แต่เชื่อว่ายังมีกำลังใจดี ส่วนแกนนำคนอื่นที่อยู่ในเรือนจำ ทนายมาขอยื่นประกันเช่นกัน
ศาลยกคำร้องปล่อยตัวอีก
ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งว่า คดีนี้ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและศาลนี้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้เหตุผลว่า เกรงว่าจำเลยจะไปก่อเหตุร้ายอีก หลังจากนั้นผู้ร้องยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวอีกหลายครั้ง ศาลเห็นว่าการที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและให้เหตุผลไว้แล้ว ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมเป็นการยุติว่า คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้ว ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 อาจเจ็บป่วยเพราะมีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยจริงถึงขนาดไม่สามารถรักษาพยาบาลภายในเรือนจำได้ ส่วนที่จำเลยที่ 1 เป็นนักศึกษามีเพียงเหตุผลให้คาดคะเนได้ว่า จะไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจนว่าจะกระทบต่อการเรียนของจำเลยที่ 1 อย่างชัดเจนร้ายแรง จึงยกคำร้อง
เด้ง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม
ที่กระทรวงยุติธรรม มีรายงานว่า มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 75/2564 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อให้การบริหารราชการภายในกรมราชทัณฑ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความมาตรา 21 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ 1.มอบหมายให้นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ ตำแหน่งรองอธิบดี (ประเภทบริหารระดับต้น) กรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติราชการหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม กรมราชทัณฑ์ อีกหน้าที่หนึ่ง 2.มอบหมายให้นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม (ประเภทอำนวยการระดับสูง) ปฏิบัติราชการประจำกรมราชทัณฑ์หน้าที่ผู้ตรวจราชการกรม กรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 4 มี.ค. ลงชื่อ ศ.พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ยุติธรรมหยุดให้ข่าวแอมมี่
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมว่า ต้องขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน อีกไม่กี่วันข้างหน้า เชื่อว่าตำรวจจะขยายผลจับกุมคนลงมือทำลายทรัพย์สินราชการหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมได้ ส่วนในรูปคดีต่างๆ จากนี้คงต้องหยุดให้ข้อมูล เพราะเป็นหน้าที่ตำรวจเปิดเผยหลักฐานและข้อมูลคนร้าย อีกทั้งคณะทำงานชุดพิเศษ พาลีปราบยา ของกระทรวงยุติธรรม ส่งข้อมูลหลักฐานต่างๆให้ตำรวจหมดแล้ว ดังนั้นการให้ข้อมูลไปมา 2 ฝั่ง อาจทำให้เกิดความสับสนต่อสังคมหรืออาจส่งผลเสียต่อรูปคดี และตนกำชับให้กรมราชทัณฑ์วางกำลังตรวจตรากวดขันให้เข้มงวดและดีกว่าเดิม เพราะเรารู้ดีว่ากรมราชทัณฑ์เป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึงทุกกรมในกระทรวงยุติธรรมต้องรักษาทรัพย์สินของทางราชการให้ดี ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
ตำรวจเตรียมรับม็อบหลายกลุ่ม
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์ กรณีผู้ชุมนุมประกาศทางออนไลน์นัดชุมนุมวันที่ 6 มี.ค.ได้แก่ 1.กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 นัดรวมตัวโลตัสรังสิต เคลื่อนขบวนมาที่กรมทหารราบที่ 11 เวลา 13.00 น. และ 2. กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. ขอแจ้งประชาชนที่เข้าร่วมทราบว่า อาจมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ. ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และความผิดอาญาข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีข้อสั่งการ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ถึง ผบก.น.1-9 ให้ดำเนินการวางแผนเผชิญเหตุและป้องกันเหตุ เนื่องจากอาจมีกลุ่มบุคคลทำพฤติกรรมเลียนแบบ แจ้งเตือนให้แต่ละหน่วยเฝ้าระวัง กำชับให้สถานีตำรวจดูแลอย่าให้มีเหตุ และให้รีบดำเนินการจับกุมตัวผู้กระทำผิด ดำเนินคดี
“รีเดม” นัดทิ้งขยะหน้าศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอดมินกลุ่ม REDEM ในแพลตฟอร์มเทเลแกรม และเฟซบุ๊กเพจ Free YOUTH เผยแพร่ข้อมูลเรื่องการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น ในวันที่รัฐยกระดับความรุนแรง และการชุมนุมแบบไม่มีแกนนำ รวม 8 ข้อ ก่อนการชุมนุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 มี.ค. ที่จะถึงมีใจความตอนหนึ่งว่า การชุมนุมแบบไม่มีแกนนำสร้างความกดดันให้รัฐมาก เพราะทำลายขบวนการเคลื่อนไหวได้ยาก ไม่สามารถจับใครคนใดคนหนึ่งเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว หากไม่มีแกนนำหรือรถเครื่องเสียง รีเดมจะตัดสินใจร่วมกับเทเลแกรม ส่วนกรณีไม่มีการ์ด กลุ่มผู้ชุมนุมต้องเตรียมความพร้อมรับกับสถานการณ์เสี่ยงหากเกิดการปะทะ ควรศึกษาหาเส้นทางหลบเลี่ยงล่วงหน้า ขณะเดียวกัน กลุ่มรีเดมเปิดโหวตสถานที่ชุมนุมวันที่ 6 มี.ค. ผลปรากฏว่า จะนัดชุมนุม 5 แยกลาดพร้าวไปศาลอาญารัชดา ขนขยะมาทิ้งหน้าศาล
การ์ดรุ่นใหญ่ตั้งทีมสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวกลุ่มรีเดมว่า มีแกนนำมวลชนที่เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นการ์ดในม็อบราษฎร อาทิ นายกิติติ์พิวัฒน์ ศรีบุญเรือง หรือบก.เอ็ม นายวสันต์ กล่ำถาวร หรือตุลย์ ประกาศจัดตั้งทีมสันติวิธี เพื่อสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะการชุมนุมวันที่ 6 มี.ค. เป้าหมายเพื่อ 1.เจรจากับเจ้าหน้าที่เมื่อเริ่มการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อลดการปะทะโดยไม่จำเป็น 2.เจรจากับมวลชนที่จะเริ่มใช้ความรุนแรง อธิบายให้มวลชนเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น 3. ประสานงานความต้องการระหว่างมวลชนและเจ้าหน้าที่วิธีสังเกตลักษณะและเครื่องแบบของทีมสันติวิธี 1. ธงสูงสีขาว พร้อมข้อความ “สันติวิธี” 2.ปลอกแขนสีขาว พร้อมข้อความ “สันติวิธี” 3.สังเกตอาร์มข้อความ “สันติวิธี” บนชุดป้องกัน ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของทีมสันติวิธี 1.เจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างแกนนำ มวลชน และเจ้าหน้าที่ 2. ทีมสันติวิธีจะไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ