เป็นไปตามความคาดหมาย ผลการออกเสียงลงมติ ในญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน นายกรัฐมนตรีกับอีก 9 รัฐมนตรี เป็นผู้ชนะแบบสบายๆ แต่จะชนะใจประชาชนหรือไม่ ต้องตัดสินกันด้วยการลงประชามติ ส่วนชัยชนะในสภาเป็นเพียงพิธีการของการเมืองประชาธิปไตยระบบรัฐสภา

ตามประเพณีรัฐสภา รัฐบาลต้องครองเสียงข้างมาก ส.ส.รัฐบาลต้องออกเสียงตามมติพรรค ไม่ว่าลงมติกันกี่หน รัฐบาลก็ต้องชนะ สำหรับการอภิปราย ครั้งนี้ เริ่มร้อนแรงมาตั้งแต่ข้อความในญัตติ ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีบริหาร ประเทศล้มเหลว บกพร่องร้ายแรง ไร้ภูมิปัญญา ไร้คุณธรรมจริยธรรม

การอภิปรายเป็นไปด้วยความเข้มข้น และร้อนแรง ทั้งเนื้อหาและวาทะ ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด การจัดหาวัคซีน การทุจริต การเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทำให้คนไทยยากจน และอดอยากหิวโหย ทั้งที่เป็นผู้ส่งออกอาหารสู่ชาวโลก

การอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ ใช้ข้อมูลและเหตุผลมากขึ้น เช่น ชี้ให้เห็นว่าคนไทย 67 ล้านคน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ทั้งๆที่รัฐบาลสัญญาว่าไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่จะได้รับวัคซีนในต้นปี 2564 ขณะนี้ เพื่อนบ้านอาเซียน 9 ประเทศ กับอีกประมาณ 150 ประเทศ ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว

การฉีดวัคซีนไม่ได้มุ่งป้องกันโควิดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ส.ส.ฝ่ายค้านอ้างข้อมูลของภาครัฐ ระบุว่า ถ้าได้รับวัคซีนช้าเพียง 1 เดือน เศรษฐกิจของประเทศจะเสียหายถึง 2.5 แสนล้านบาท ใครจะรับผิดชอบ บางคนชี้ว่า ไทยอาจสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว 1.68 ล้านล้านบาท

ขณะที่การอภิปรายของฝ่ายค้าน ถูกยกระดับสูงขึ้น แต่การประท้วงของฝ่ายรัฐบาล กลับทำให้มาตรฐานการเมืองไทยต่ำเตี้ยลง เช่นเดียวกับความหวังที่จะปฏิรูปการเมือง ยังริบหรี่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เดินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว อาจต้องหยุดชะงัก เพราะถูกขัดขวางเป็นระยะๆ เพราะลัทธิติดยึดอำนาจ

...

การเมืองที่ไม่ยอมปฏิรูป ไม่ยอม ให้เป็นประชาธิปไตย ไม่ยอมให้ประชาชนมีส่วนร่วม เป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้การทุจริตคอร์รัปชันเฟื่องฟู ระบาดจากวงการนักการเมืองและราชการ ลงไปสู่ ระดับประชาชน ทุจริตแม้แต่โครงการเยียวยายอดนิยมของรัฐบาล เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง.