ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อ่านคำประกาศ หลังต่อสู้ยาวนานมาเกือบปี ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง และยึดมั่นในสันติวิธี ก่อนยุติการชุมนุม 20 กุมภา ให้มวลชนทยอยกลับ
เมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทนของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อ่านคำประกาศ โดยสรุปสาระสำคัญว่า การต่อสู้ของราษฎร ใช้เวลาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยเริ่มเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2563 เนื่องจากเห็นความอยุติธรรมทางการเมืองในประเทศนี้ ไม่เคารพประชาชน ก่อนที่จะมีการออกมารวมตัวในที่ต่างๆ มากขึ้น
การต่อสู้ยังขยายตัวออกไป จุดไฟแห่งความหวังกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่เราต่อสู้ด้วยพลังของประชาชน เสียงของเรากลับถูกเพิกเฉยโดยรัฐบาล ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถูกปัดตกโดยสภาผู้แทนราษฎร การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เศรษฐกิจพังทลาย สังคมไม่เสมอภาค ส.ส.เลือกยืนข้างเผด็จการ เรายังถูกผลักไสให้กลายเป็นศัตรู ถูกคุกคามจับกุมคุมขัง เพียงเพราะต้องการเสรีภาพ กลไกทางการเมืองออกแบบมาให้เข้าข้างรัฐบาลเผด็จการ สืบทอดอำนาจของรัฐบาลประยุทธ์ พร้อมยืนยันในข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
1. พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพ ต้องลาออก
2. รัฐสภา ต้องเปิดประชุมวิสามัญรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
3. ปฏิรูปสถาบัน

...
พร้อมระบุต่อไปว่า หนทางข้างหน้าอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การที่จะมุ่งสู่เป้าหมาย ต้องพึ่งพลังประชาชนทุกคน ขอให้ยึดมั่นในสันติวิธี ยึดมั่นสังคมที่เท่าเทียม และอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต่อให้วันใดที่ฟ้ามืดที่สุดเราทุกคนจะเป็นไฟให้ประเทศนี้กลับมาสว่างอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนออกมาสู้เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว ทุกคนคือสายพานในการเปลี่ยนแปลง ให้กลับมาอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พร้อมประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 20.55 น. จากนั้นผู้ชุมนุมได้ลุกขึ้นเพื่อทยอยออกจากพื้นที่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เรียบร้อย ไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ
จากนั้น ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ให้สัมภาษณ์หลังประกาศยุติการชุมนุม โดยยืนยันว่า จะต่อสู้ในแนวทางสันติวิธี จะไม่นำอาวุธมาใช้ในม็อบเด็ดขาด ต่อให้มีการปะทะเกิดขึ้น และจะยังไม่หยุดเพื่อตอบสนองทั้ง 3 ข้อเรียกร้อง รวมถึงย้ำจุดยืนว่าต้องปล่อยตัวเพื่อนของเราทั้ง 4 คน และต้องไม่มีการจับกุมใครอีก
ทั้งนี้ ต่อให้จับแกนนำทุกคนเชื่อว่าประชาชนจะออกมาสู้ต่อ ตามกระบวนการประชาธิปไตยและข้อเรียกร้องต้องไป ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง เราทุกคนคือพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ สู้ไปด้วยกัน พร้อมอยากให้ติดตามว่าจะมีการชุมนุมต่อไปที่อาจจะจัดโดยกลุ่มอื่นๆ ด้วย.


