รมว.คมนาคม โชว์เอกสาร ยืนยัน ไร้ล็อกสเปกงาน "ทล-ทช." ย้ำ รายละเอียดมีที่มาที่ไป สร้างถนนกำหนดตามมาตรฐานสากล โต้ ไม่มีการแทรกแซงล้วงลูกข้าราชการประจำ ส่วนเรื่องเรียกเก็บเงิน หากมีข้อมูล แจ้งดำเนินคดีได้เลย
วันที่ 19 ก.พ. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวชี้แจงคำอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวหาว่า มีการล็อกสเปกในหน่วยงานของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกล่าวหาว่า มีการเรียกเก็บเงิน มีการล็อกสเปก ในเรื่องของงานกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท และก็มีการกล่าวหาว่า มีการเรียกเก็บเงินทอง อันนี้ต้องขออนุญาตชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
สำหรับในเรื่องของสเปกงานของกรมทางหลวงนั้น ต้องเรียนว่า ขณะนี้ในอดีตที่ผ่านมา มีความเสียหายเนื่องจากผิวทางแอสฟัลติกคอนกรีต ที่ผิวลาดยางนั้น ไม่มีคุณภาพเนื่องจากเรื่องนี้จะต้องอยู่ในเรื่องของอุณหภูมิ ของแอสฟัลติกคอนกรีต ที่ออกมาจากโรงงาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของ ASTM มาตรฐานของ AASHTO ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล เรื่องนี้จริงๆ มีการกำหนดมาตั้งแต่ปี 2528 โดยกรมโยธาธิการ และกรมทางหลวงก็กำหนดเป็นมาตรฐานในปี 2532
โดยที่ผ่านมา มีการประชุมปรึกษาหารือกันมานะครับ ตลอดในกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และได้ข้อสรุปนะครับ เมื่อปี 2563 ในเดือนมกราคม จึงได้มีหนังสือสั่งการออกไปยังหน่วยงานของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทในการดำเนินการนะครับซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำตามมาตรฐานนะครับไม่ใช่มีการกำหนดล็อกสเปกแต่อย่างใด
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กรณีที่บอกว่าตนเข้าไปแทรกแซงล้วงลูกการทำหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายประจำ ต้องเรียนว่าเรื่องนี้เป็นการบริหารงบประมาณตามแผนงาน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นไปตามดำเนินการตามในหนังสือที่ คค0100/ว 2680 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 เรื่องนี้ดำเนินการโดยอาศัยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 พ.ศ. 2545 ตามมาตรา 20 ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 11 กำหนดว่า ในกระทรวงหนึ่งให้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายเป้าหมายและผลสำเร็จของงานในกระทรวงให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงไว้
...
รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ประกอบกับอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 8 นะครับ กำหนดให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดมีหน้าที่กำกับหรือควบคุมกิจการของหน่วยงานรับงบประมาณหรือหน่วยงานหรือรัฐมนตรีที่รักษาการตามกฎหมายผู้อำนวยการและหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ และให้มีการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปมีประสิทธิภาพสูงสุดเรื่องนี้ก็จึงเรียนว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย
“ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าตนได้มีการสั่งการเก็บเงินจากหน่วยราชการ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงนะครับ ถ้าท่าน ส.ส. มีข้อมูล แจ้งความดำเนินคดีเลยครับซึ่งจะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเมื่อวานนี้ (วันที่ 18 ก.พ.) ที่มีการพาดพิงถึงท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาแห่งนี้นะครับ ว่าเป็นผู้รับเหมา ต้องระบุตัวนะครับเพราะเรื่องนี้ผิดรัฐธรรมนูญ" นายศักดิ์สยาม กล่าว