ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถม ครม.หางเครื่องอีก 9 คน ฝ่ายค้านรับประกันความอร่อยแซ่บอีหลีระดับมิชลิน 3 ดาว!!

ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็มั่นใจว่าสามารถหักล้างข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านให้หงายเก๋งกลางสภา

เพราะมี ส.ส.งูเห่าแอบล้วงข้อมูลลับของฝ่ายค้านไปรายงานรัฐบาลทุกประเด็น

รู้ไต๋ล่วงหน้าว่ารัฐมนตรีคนไหนจะโดนฝ่ายค้านกะซวกเรื่องอะไร??

ถึงขั้นจัดคอร์สติวเข้มรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายให้ซักซ้อมตอบโต้ฝ่ายค้านแบบถึงลูกถึงคน

แถมรู้ซะด้วยว่าในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกจองกฐินทั้ง 10 คน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจองานเบาที่สุด ระดับหนังกำพร้าไม่ระคาย

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการที่ “นายวิรัช รัตนเศรษฐ” ขุนพลใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล แถลงข่าวนำร่องว่า “พล.อ.ประวิตร” รองนายกรัฐมนตรี เจองานเบากว่าเพื่อนในบรรดารัฐมนตรี ที่ถูกขึ้นเขียงซักฟอก 10 คน

การแถลงข่าวเอาใจลูกพี่ใหญ่แบบนี้ ไม่เกิดผลดีต่อ “ลุงป้อม” อย่างแน่นอน!!

เพราะเท่ากับแจกการ์ดเชิญให้ฝ่ายค้านถล่ม “ลุงป้อม” หนักขึ้นเป็นทวีคูณ

เนื่องจากครั้งที่แล้ว ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯลุงตู่ บวกรองนายกฯลุงป้อม และรัฐมนตรีหางเครื่องอีก 4 คน

แต่สุดท้าย ลุงป้อมคนเดียว ไม่โดนฝ่ายค้านจับขึ้นเขียงชำแหละกลางสภา

ทำให้พรรคก้าวไกล เปิดศึกพรรคเพื่อไทยว่าเล่น “เกมซูเอี๋ยกับลุงป้อม”

ทำให้ลุงป้อมรอดไปได้อย่างสบายแฮ

เพราะฉะนั้นงวดนี้...“ลุงป้อม” ไม่รอดสันดอนแน่นอน!!

เพราะถ้าคราวนี้ ลุงป้อม รอดไปได้อีก ก็แสดงว่าพรรคเพื่อไทยเล่นซูเอี๋ยกับ “ลุงป้อม” พันเปอร์เซ็นต์!!

...

อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า การที่ฝ่ายค้านจะหยิบประเด็นมาเล่นงาน “ลุงป้อม” แบบจะๆแจ้งๆจังๆ ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน

เนื่องจากญัตติฝ่ายค้านระบุข้อหา “ลุงป้อม” เขียนไว้สั้นๆย่อหน้าเดียว

คือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบของรัฐเพื่อสร้างความรํ่ารวยมั่งคั่งให้ตนเอง จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญ ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

แต่ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จยืนยัน “ลุงป้อม” ก็รอดไปได้ตามเคย

เพราะ “ลุงป้อม” เป็นรองนายกฯเบอร์หนึ่งก็จริง แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่สั่งการรับผิดชอบหน่วยงานสำคัญโดยตรง

ไม่ได้คุมกองทัพ ไม่ได้คุมตำรวจ ไม่ได้คุมมหาดไทย

หน้าที่ของ “ลุงป้อม” คือกำกับดูแล กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ สภาความมั่นคง สำนักงานข่าวกรองเท่านั้นเอง

แต่ในความเป็นจริง รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า “ลุงป้อม” เป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดในรัฐบาล

แต่บทบาท “ลุงป้อม” คืออยู่หลัง ฉากการเมือง

“นายกฯลุงตู่” เล่นบทโชว์หน้าฉาก ส่วน “ลุงป้อม” หลบหลังฉากลูกเดียว

กลเกมการเมืองในสภานอกสภา “ลุงป้อม” เป็นผู้บัญชาการหลังฉากตัวจริง

แม้แต่การตั้งฟาร์มเพาะพันธุ์งูเห่า “ลุงป้อม” ก็เป็นกุญแจสำคัญ

แต่ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึง “ลุงป้อม” แม้แต่เรื่องเดียว

งวดนี้ต่อให้ฝ่ายค้านซักฟอกจนต่อมทอนซิลอักเสบ

ก็เช็กบิลลุงป้อมไม่ได้หรอกโยม!!

"แม่ลูกจันทร์"