หางโผล่แบบไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องเขินกันแล้ว กับเหลี่ยมล้มโต๊ะ เบี้ยวกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตัวจี๊ดค่ายพลังประชารัฐ แท็กทีมนายสมชาย แสวงการ ตัวกลั่นประจำก๊วน “ส.ว.ลากตั้ง” วิ่งถือธงนำยื่นญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ รัฐสภาไม่มีอำนาจตั้ง ส.ส.ร.รื้อรัฐธรรมนูญ
และรับไม้ต่อทันทีทันควัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตัวทำเกมทีม พปชร.รีบแถลงมติพรรค ตามแห่เกมเตะสกัด ชูจั๊กแร้หนุนญัตติของนายไพบูลย์กับนายสมชายแบบสุดตัว
ตอกย้ำความชัวร์ ขุมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. ไม่ยอมปล่อยเครื่องมือพันธนาการ
ตามฟอร์มตื๊อ “อยู่ยาว” แบบที่วางหมาก ซ่อนค่ายกลไว้ในกติกาฉบับ “ซือแป๋มีชัย”
และนั่นก็เป็นไปตามรูปการณ์ที่เด็กรุ่นใหม่ มวลชนนักเรียน นิสิต นักศึกษา ไม่หลงเหลี่ยม “แกง” บอกปัด ปาหี่มาตั้งแต่แรก ไม่ยอมรับ ไม่คาดหวังกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา ที่นักการเมืองอาชีพจอมเขี้ยวในพลังประชารัฐรับมุกท็อปบูตแกล้งหลอกซ้ำซาก
รอลากเกมรื้อรัฐธรรมนูญฉบับค่ายกล 3 ป. มา “ถอนหงอก” นอกสภา
เด็กรู้ทัน ในสภาสู้เกมเสียงข้างมากลากไปไม่ได้ ทางเดียวที่หวังลุ้นได้คือสู้กันในมุมของความชอบธรรม ชิงกระแสประชาชน กดดันให้ทหารเฒ่าคายอำนาจ
ประกอบโอกาสความน่าจะเป็น ตามร่องรอยเกมสภาก็ใช่ว่าทีม 3 ป. จะกุมสภาพได้เบ็ดเสร็จ
ท่ามกลางอารามย่ามใจ ทีมนายหน้าขุมอำนาจ 3 ป. มั่นใจในพลังที่ล็อกไว้ ส.ส.พลังประชารัฐ 121 เสียง ผนึกกับ 250 ส.ว.ลากตั้ง 371 จากทั้งหมด 728 เสียง ชงดันญัตติสกัดกระบวนการรื้อรัฐธรรมนูญได้สบายๆ
ไม่ต้องพึ่งเสียง ยืมจมูกของพรรคการเมืองอื่น
นั่นสะท้อนถึงอาการไปกันคนละทาง โฟกัสพรรคร่วมรัฐบาล ค่ายภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่เอาด้วยกับยุทธการสกัดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
...
ท้าทายมวลชน ยั่วคนรุ่นใหม่รบแตกหักรัฐบาล
เหนืออื่นใด โดยไฟต์บังคับตามธรรมชาติของนักการเมืองอาชีพ ทั้งภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ไม่ต้องพูดถึงขั้วตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย หรือยี่ห้อก้าวไกลของคนรุ่นใหม่
ยังไงก็ไม่เอาด้วยกับกติกาเอื้อทหารเฒ่า
โดยเฉพาะ 250 ส.ว.ลากตั้ง ที่เลือกนายกฯเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางแซงชนะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เต็งหามตลอดกาล
รากงอก ไม่รู้เมื่อไหร่จะยอมลุกจากอำนาจ
ยิ่งนานก็ยิ่งตัดโอกาสของนักเลือกตั้งอาชีพที่นับวันจะโรยราตามกาลเวลา
ไม่ต้องมองไปไกล เอาแค่คิวของคนนั่งใกล้ๆ “บิ๊กตู่” ในที่ประชุม ครม. อย่าง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย ที่แหงนคอ ลุ้นต่อคิวเก้าอี้นายกฯ ตาเป็นมัน
ตามสถานะของทีมเซราะกราวที่สั่งสมกำลังพลและเสบียงกรังพร้อมกว่าใคร
แต่งตัวพร้อมซะขนาดนี้ “เสี่ยหนู” ไม่รอใครแล้ว
โดยแนวโน้มสถานการณ์ก็จะเหลือแค่ก๊วนพลังประชารัฐ กับ 250 ส.ว.ลากตั้ง ที่เป็นด่านสกัดขบวนการรื้อรัฐธรรมนูญ ยื้อเครื่องมือในการเหนี่ยวรั้งพันธนาการอำนาจทหารเฒ่า 3 ป.
ล่อเป้ามวลชนรุ่นใหม่ ในภาวะกระแสต้านทหารเฒ่านับวันจะยิ่งหนักหนาสาหัส
ยิ่งในยามที่ประชาคมโลกโฟกัสสถานการณ์รัฐประหารในประเทศ เมียนมา ลากประเทศไทยเข้าโซนตำบลกระสุนตก พ่วงเป็นสูตรพิมพ์เขียวอำนาจอินโดจีน เผด็จการล้มโดมิโนประชาธิปไตย
แรงเสียดทานอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. จ่อหนักทั้งนอกประเทศและในประเทศ
ต่อให้เสียงในสภาล้น กองทัพหนุน แบ็กอัปแน่น ก็ปฏิเสธไม่ได้ สถานการณ์นับจากนี้ไป ทีม 3 ป. ยากจะปิดประตูตีแมว แบบที่พ่อยก แม่ยก ทีมไอโอตีปี๊บแห่ “บิ๊กตู่” ไปต่อไม่รอใครแล้ว
และเมื่อถึงจุดหางโผล่ เผยไต๋เบี้ยวแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ย่ามใจ ลุยยั่วม็อบเด็กถอนหงอก หลอกแกงพรรคร่วมรัฐบาล ต้มนักการเมืองอาชีพ
คำตอบสุดท้าย “บิ๊กตู่” นำขบวนทีมทหารเฒ่า 3 ป. ปักหลักอยู่ยาว ตีคู่ไปกับทีมทหารเฒ่าพม่า นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐประหารพม่า
คงเดาได้ว่า ม็อบคนรุ่นใหม่จะยอมแพ้ราบคาบ หรือสู้เพื่อชนะเต็มใบ.
ทีมข่าวการเมือง