พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผบ.สูงสุดแห่งกองทัพเมียนมา ใช้แผนบันได 3 ขั้นก่อการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งชนะการเลือกตั้งครั้งใหม่อย่างถล่มทลาย
กวาดที่นั่งในสภาพม่าไปได้ถึง 396 ที่นั่งจาก 475 ที่นั่ง
ส่วนพรรคยูเอสดีพี ที่กองทัพให้การสนับสนุนพ่ายแพ้เลือกตั้งอย่างหลุดลุ่ยหมดรูปไม่เหลือลาย ได้ไปแค่ 33 ที่นั่งเท่านั้นเอง
แม้รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ เผด็จการที่กองทัพเมียนมาทำคลอดมาเอง กำหนดให้กองทัพมีโควตาลากตั้ง ในสภาถึง 25 เปอร์เซ็นต์
แถมรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีมหาดไทย และรัฐมนตรีความมั่นคงชายแดนต้องเป็นคนที่กองทัพแต่งตั้งโดยตรง
แต่ถึงกระนั้น การที่พรรคเอ็นแอลดีของนางซูจี สามารถสะง่อมที่นั่งในสภาเมียนมาได้ถึง 83 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้นำกองทัพไม่มั่นใจว่าควบคุมดุลอำนาจการเมืองได้สะดวกโยธินเหมือนเดิม
พล.อ.มิน อ่องหล่าย จึงตัดสินใจกระชับอำนาจกองทัพ ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลเลือกตั้งของนางซูจี เปลี่ยนการปกครองระบอบประชาธิปไตยย้อนกลับไปเป็นระบอบเผด็จการตำรับเดิม
โดย พล.อ.มิน อ่องหล่าย กุม อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ อยู่ในกำมือ!!
พร้อมประกาศโรดแม็ปจะยึดอำนาจการปกครองเพื่อปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง 1 ปี แล้วจะคืนอำนาจให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตามรัฐธรรมนูญฉบับเดิม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการถอยหลังลงคลองย้อนกลับไปสู่ยุคเผด็จการทหารตามรอยประเทศไทยเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา
โดยอ้างเหตุผลกำปั้นทุบดินว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร
จากนั้นจัดฉากให้มีม็อบเดิน ขบวนประท้วงรัฐบาลของนางซูจี
พอถึงวันเปิดประชุมสภา ก็ใช้อำนาจประกาศภาวะฉุกเฉิน จับกุม “นางซูจี” จับกุม “ประธานาธิบดี วิน มิน” ไปล็อกตัวไว้ในค่ายทหารกรุงเนปิดอว์
...
ปฏิวัติม้วนเดียวจบโดยไม่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญให้เมื่อยมือ
เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ทหารปฏิวัติหากมีเหตุผลสำคัญด้านความมั่นคง
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า การยึดอำนาจโค่นรัฐบาลเลือกตั้งครั้งนี้มีเหตุสำคัญ 5 ประการคือ...
1,พรรคการเมืองของทหารพ่ายการเลือกตั้งอย่างยับเยินต้องโละทิ้ง กกต.ชุดปัจจุบัน แล้วตั้ง กกต.ชุดใหม่ที่รับใบสั่งกองทัพโดยตรง
2,เพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการ เนื่องจากรัฐบาลเลือกตั้งเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กองทัพต้องอยู่ใต้การเมือง
3,พล.อ.มิน อ่องหล่าย ผบ.สูงสุด เหลืออายุราชการอีกแค่ 5 เดือน การชิงจังหวะยึดอำนาจตอนนี้ เท่ากับต่ออายุ “พล.อ.มิน อ่องหล่าย” ให้ครองอำนาจต่อไปอีกยาวนาน
4,ผู้นำกองทัพเมียนมามีความสัมพันธ์แน่นปึ้กกับพี่ใหญ่จีนแต่รัฐบาลซูจีต้องการลดอิทธิพลจีน เพื่อไปตีสติ๊กกับฝ่ายประชาธิปไตย เช่น อเมริกา ยุโรป และอินเดีย
5,พรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีโตเร็วเกินไป ถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นหอกข้างแคร่แน่นอน ต้องหา ทางยุบพรรคซะโดยเร็วเฮ้อ...หนังเก่าฉายซ้ำอีกแล้วโยม.
"แม่ลูกจันทร์"