“บิ๊กตู่” ฝากความหวัง รมต.มาด้วยกันไปด้วยกัน ช่วยกันชี้แจงการอภิปรายฯ สั่งฝ่าย ก.ม.ดู ถูกพ่วงฟ้อง ม.157 บ่อย เตือน นักการเมือง-รมต.ถือหุ้นโออาร์ ปตท.อาจทำพิษ เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงผิด กรณีถือหุ้นสัมปทานรัฐ
วันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบถึงญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและครม.รวม 10 คน ซึ่งวิปทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะเริ่มอภิปรายตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นไป โดยที่ประชุมครม. รับทราบ และให้ความเห็นชอบว่า คณะรัฐมนตรี มีความพร้อมสำหรับการชี้แจงตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งนี้ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงได้ แจ้งต่อที่ประชุมเรื่องการเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีจากอังคารที่ 16 ก.พ. เป็นวันจันทร์ที่ 15 ก.พ.แทน พร้อมกันนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้รัฐมนตรีทุกคน ช่วยกันชี้แจงในการที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า "ขอฝากความหวัง มาด้วยกันไปด้วยกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการประชุมครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้รายงานครม. ถึงกรณีที่มีกระแสข่าว คดีบางคดีที่เกี่ยวโยงกับโครงการรับจำนำข้าว ขาดอายุความแล้วว่าในข้อเท็จจริงข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชน ยังไม่มีคดีไหนขาดอายุความ เพราะบางคดีตัดสินไปแล้ว และบางคดีก็มีการออกหมายยึดทรัพย์ไปแล้ว เช่นบ้านที่ซอยโยธินพัฒนา และบางคดีก็มีการขายทอดตลาดไปแล้วด้วย และย้ำว่าคดีอาญาก็ได้ฟ้องไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขณะที่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย นายกฯมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย ไปศึกษาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากที่ผ่านมามีกรณีที่ตัวเองถูกฟ้องร้องด้วยมาตรา157 บ่อยครั้ง หรือแม้แต่ในบางกรณีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถูกฟ้องร้อง แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังถูกฟ้องร้องในเรื่องเดียวกันด้วย จึงขอให้ฝ่ายกฎหมายไปช่วยดูในเรื่องนี้ เพราะหากเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องผิดมาตราดังกล่าวด้วยหรือ
...
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายวิษณุ ได้รายงานต่อครม. ถึงกรณีเรื่องการซื้อขายหุ้นโออาร์ ของปตท. ด้วยว่า หากนักการเมืองหรือรัฐมนตรี ซื้อหุ้นดังกล่าว อาจเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย กรณีการถือหุ้นสัมปทานของรัฐ ซึ่งเป็นเหตุให้พ้นสมาชิกภาพได้ และเรื่องดังกล่าวได้มีการหารือไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)แล้ว โดยจะได้รับคำตอบจากป.ป.ช.ภายใน 2-3 วันนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางปตท. ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ใช่สัมปทานของรัฐ
///