“ชุดพยัคฆ์ไพร” กรมป่าไม้ ประสานฝ่ายปกครอง, กอ.รมน.ขยายผลขบวนการทำไม้ประดู่ข้ามชาติ เข้มตรวจพื้นที่ต้องสงสัย 2 อำเภอ ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ยอมปรากฏตัว รมว.ทส. สั่งเร่งประสานออกหมายจับให้ได้



วันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อ 21 ม.ค.2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยนายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอเทพสถิต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.1, และตำรวจภูธรเทพสถิตย์, ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา), ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ, หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เทพสถิต, อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตรวจสอบบริเวณป่าด้านทิศใต้บ้านไร่ ท้องที่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ตามที่มีพลเมืองดีร้องเรียน โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน

ตามข้อสั่งการของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายหลังทราบเรื่อง สั่งการให้กรมป่าไม้ให้จัดการขั้นเด็ดขาด ขยายผลสืบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยให้เอาผิดทั้งวินัย และอาญา ให้ถึงที่สุด โดยได้สั่งการให้ นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ประสานสั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สปฟ.กปม, ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร, นายชาญชัย กิจศักดิ์ดาภาพ หน.ชุดพยัคฆ์ไพร, กำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ, ชุดปฏิบัติการศปป.4.กอ.รมน.,ร่วมขยายผลร่วมกับนายสราวุธ อุเทนรัตน์ ผอ.สจป8 (นครราชสีมา), นายมนตรี มะลิทอง, พร้อมชุดปฏิบัติการของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เพื่อหาตัวนายทุนรายใหญ่ และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีทั้งขบวนการ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการให้เร่งดำเนินคดีอาญาและวินัยให้ถึงที่สุดโดยด่วน

ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องได้ประสานการปฏิบัติกับ นายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ, นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมขยายผลเพิ่มเติม ดังนี้

...

1. เข้าตรวจสอบบริเวณจุดที่มีการทำไม้ ตรวจสอบบริเวณป่าด้านทิศใต้บ้านไร่ ท้องที่ ต.บ้านไร่ ที่เป็นแปลง ส.ป.ก.4-01 ที่มีการอ้างว่า มีการขึ้นทะเบียนสวนป่า เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบพิสูจน์ตอไม้ และอ่านแปลภาพพบว่าตำแหน่งตอพบว่าเป็นไม้ประดู่ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่สามารถนำไปขึ้นทะเบียนสวนป่าได้ตามระเบียบกฎหมายและตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบทำไม้จากนอกแปลงมาสวมอีกจำนวนมาก ตรวจสอบพบตอไม้ในพื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 60 ตอ ซึ่งน่าจะมีการขนย้ายลักลอบไม้ออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ในพื้นที่ดังกล่าว และร่องรอยการใช้สีสเปรย์ฉีดหมายที่จะทำไม้ออกอีกจำนวนมากหลายต้น พื้นที่แปลงดังกล่าวยังมีความเป็นป่าธรรมชาติ มีต้นไม้ป่าขึ้นเต็มพื้นที่

2. และวันนี้ คณะเจ้าหน้าที่โดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ได้ส่งเอกสารแจ้งให้ ส.ท.นิยม รักเสนาะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่า(พร) สังกัดศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ), กรมป่าไม้ ซึ่งมาควบคุมการทำไม้ครั้งนี้ด้วยตนเอง มาพบเจ้าหน้าที่แต่เมื่อถึงเวลานัด ส.ท.นิยม รักเสนาะ ไม่ยอมเดินทางมา คณะเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึก เพื่อรายงานแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มให้พนักงานสอบสวนทราบ เพื่อออกหมายจับต่อไป

3. คณะเจ้าหน้าที่ ได้ขยายผลโดยประสานกับ นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขยายผลเข้าตรวจสอบโรงเลื่อยของนายธนรัตน์ ฉ่ำตะคุ ท้องที่ ตำบลท่าโรง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามที่สายข่าวรายงาน และร่วมกันเข้าตรวจสอบพบไม้ประดู่ท่อน และแปรรูปจำนวนมากตามที่ข้อสงสัย ตรวจสอบพบ ใบอนุญาตโรงงานขาดอายุ และตรวจสอบพบมีการตั้งแท่นเลื่อยแบบผิดระเบียบและกฎหมายจำนวนมาก, ตรวจสอบพบเครื่องเลื่อยยนต์แบบผิดกฎหมาย อีก1 เครื่อง, ตรวจสอบพบไม้ประดู่แปรรูปที่เตรียมบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ของกลุ่มนายทุนชาวจีนจำนวนมาก, คณะเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเครื่องจักร, เครื่องเลื่อยยนต์ ดำเนินคดีตามความผิดใน พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และอายัดไม้อีกจำนวนมากเพื่อขยายผลต่อไป เนื่องจากเวลามืดค่ำ

4. ในส่วนของ ส.ท.นิยม รักเสนาะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่า( พร) สังกัดศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องชัดเจน อธิบดีกรมป่าไม้ (นายอดิศร นุชดำรงค์) ได้สั่งการให้ดำเนินการย้ายออกนอกพื้นที่ และให้ตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยร้ายแรง และให้ประสานเร่งออกหมายจับมาดำเนินคดีเร็วที่สุด