
"บ่อน" ทำลายยุติธรรม
แม้นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเผยแพร่ข้อความล่วงหน้า ระบุว่าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 (ศบค.) ตัดสินใจตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ให้ล็อกดาวน์ 5 จังหวัดภาคตะวันออกกับสมุทรสาคร แต่โฆษก ศบค. ยืนยันว่าไม่ได้ล็อกดาวน์ เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้น
4 จังหวัดภาคตะวันออก ที่ถูกเสนอให้ล็อกดาวน์หรือปิดพื้นที่ พร้อมกับ สมุทรสาคร ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิดมาก และมีความเสี่ยงสูง ยังคงอยู่ในกลุ่ม 28 จังหวัด พื้นที่สีแดงที่มีการควบคุมสูงสุด แต่ 5 จังหวัด นอกจากจะมีการควบคุมสูงสุดแล้ว ยังต้อง “เข้มงวดกว่า”
ข่าวแนะนำ
สมุทรสาครเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดรอบใหม่ เป็นผลจากการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยมากที่สุดที่สมุทรสาคร เพียงไม่กี่วัน โควิดลามไปถึง 54 จังหวัด เกือบทั่วประเทศ ส่วน 4 จังหวัดภาคตะวันออกรับเชื้อไปจากสมุทรสาคร แต่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วผ่าน “บ่อนการพนัน”
ทั้งการแพร่ระบาดที่สมุทรสาครและภาคตะวันออก มีต้นตอล้วนแต่เป็นการกระทำ หรือ “ผลกรรม” ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ชาวบ้านมุ่งหวังให้ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แต่กลายเป็นผู้ก่อความทุกข์ และทำลายความสุขของประชาชน อันเนื่องมาจากระบบทุจริตคอร์รัปชัน ที่ฝังรากลึกในวงราชการไทย
หลังจากที่มีการเปิดโปงเรื่องบ่อนที่ระยอง ต่อมาลามไปถึงชลบุรี จันทบุรี บ่อนกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระดับ “ซุปเปอร์สเปรดเตอร์” นายสาธิต ซึ่งเคยเป็น ส.ส.ระยองมาหลายสมัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า บ่อนเป็นมะเร็งร้ายใน สตช. นำมาซึ่งการซื้อขายตำแหน่ง ระบบยุติธรรมบิดเบี้ยว ประชาชนขาดความเชื่อมั่น
แต่สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำ คือการสั่งย้ายฟ้าผ่าบรรดา “สี่เสือห้าเสือ” นายตำรวจในท้องที่ตามประเพณี นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ มีอำนาจสูงสุดในวงการตำรวจ บอกเพียงแต่ว่า “ต้องไม่มีบ่อน” วาจาจะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน
แต่ถ้าย้อนกลับไปดูว่า 5 ปี ที่รัฐบาล คสช.ครองอำนาจ พร้อมด้วยคำสัญญาทั้งที่เป็นวาทกรรม และสัญญาไว้ในรัฐธรรมนูญ จะปฏิรูปการเมืองกระบวน การยุติธรรม และตำรวจ ล้วนแต่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง อาจเป็นเพราะว่า สตช.มีกำลังพลกว่า 2 แสนคน มีนายพลนับร้อยๆ ยิ่งใหญ่กว่าบางกองทัพ.