ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่เสื่อมความเชื่อถือและศรัทธาในนักการเมือง โพลสำนักหนึ่งสำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่ยกย่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เป็นรัฐมนตรีที่โดดเด่นที่สุด แต่มีคะแนนนิยมเพียงร้อยละ 29
ส่วนรัฐมนตรีอีกหลายคนมีคะแนนนิยมรองลงมา แต่เมื่อกล่าวโดยสรุปก็คือ “สอบตก” ยกชั้น มีคะแนนนิยมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50 แต่อาจกลายเป็นประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อในทางการเมือง นั่นก็คือ นายกรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในหมู่นัก การเมืองทั้งหลายที่มีอย่างน้อย 766 คน
หมายถึง ส.ส. 500 คน ส.ว. 250 คน และคณะรัฐมนตรีอีก 36 คน ยังไม่นับรวมนักการเมืองอื่นๆอีกมากมาย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองที่ได้รับยกย่องสูงสุด แต่ก็ยังไม่มากพอ ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองชายที่ได้คะแนนสูงสุด แต่ก็ได้เพียงร้อยละ 24.84 ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
ตามด้วยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันประธานคณะก้าวหน้า เป็นอันดับที่ 2 ด้วยคะแนนร้อยละ 21.32 ตามด้วยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา (ร้อยละ 13.38) ส่วนนักการเมืองหญิงกลายเป็นนางปวีณา หงสกุล ได้คะแนนสูงสุดร้อยละ 22.40 ทั้งที่วางมือการเมืองนานแล้ว
นักการเมืองหญิงที่มีคะแนนนิยมรองลงมา ได้แก่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช (21.03%) และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (18.11%) ขณะที่นิด้าโพลสำรวจความนิยมพรรคการเมืองผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มผู้ไม่สนับสนุนพรรคใด (26.49%) ตามด้วยพรรคเพื่อไทย (23.61%) พรรคพลังประชารัฐ (17.80%) พรรคก้าวไกล (14.92%) พรรคประชาธิปัตย์ (7.46%) และพรรคเสรีรวมไทย (3.00%)
แถมยังมีกลุ่มตัวอย่างอีก 2.29% ไม่ตอบคำถามและไม่สนใจว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบพรรคใด ตามด้วยพรรคภูมิใจไทยได้คะแนน 1.82% สะท้อนถึงการเสื่อมความเชื่อถือ ทั้งต่อพรรคและนักนักการเมืองเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย
โพลบางสำนักยังพบด้วยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังหาผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เจอ ทำไมประชาชนจึงเสื่อมความเชื่อถือนักการเมือง เรื่องนี้นักการเมืองต้องสำรวจตัวเอง และตอบคำถามเอง เอาแค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด แต่นักการเมืองก็ยังทำให้เป็นปาหี่รัฐธรรมนูญ.